วันพฤหัสบดี, ธันวาคม 12, 2567

ไอซ์ รักชนก ศรีนอก สส.พรรคประชาชน รอด เพราะ ผู้ร้องไม่ใช่พนักงานสอบสวน ไม่ใช่อัยการ เหตุที่ไปร้อง เพราะ เห็นโพสต์เกี่ยวกับพลทหารซักกางเกงในให้นาย เป็นการด้อยค่ากองทัพ กระทบพระมหากษัตริย์ในฐานะจอมทัพไทย (ใครรับลอจิกแบบนี้ ก็บ้าแล้ว)


Atukkit Sawangsuk
11 hours ago ·

ผู้ร้องไม่ใช่พนักงานสอบสวน ไม่ใช่อัยการ
ไปร้องว่าโพสต์เกี่ยวกับพลทหารซักกางเกงในให้นาย เป็นการด้อยค่ากองทัพ กระทบพระมหากษัตริย์ในฐานะจอมทัพไทย
เบื้องต้นควรตั้งคำถามก่อนเลยว่า ทำไมถึงร้องได้ ทำไมใครอยากร้องก็ร้องได้

สรยุทธ สุทัศนะจินดา กรรมกรข่าว
18 hours ago ·

‘ศาลอาญา’ ยกคำร้องเพิกถอนประกัน ‘ไอซ์’ รักชนก ศรีนอก สส.พรรคประชาชน คดี พ.ร.บ.คอมพ์-มาตรา 112 เหตุ เป็นการแสดงความคิดเห็นทั่วไป ไม่ผิดเงื่อนไขการประกันตัว พร้อมกำชับปฏิบัติตามเงื่อนไขที่ศาลกำหนด
วันที่ 11 ธ.ค.67 เวลา 10:00 ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก นัดฟังคำสั่งเพิกถอนการประกันตัว น.ส.รักชนก ศรีนอก หรือไอซ์ สส.กรุงเทพมหานคร พรรคประชาชน ซึ่งตกเป็นจำเลยในความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา ม.112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ในคดีดูหมิ่นสถาบัน หมายเลขดำ อ.683/2565 ที่พนักงานอัยการคดีอาญา 10 เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง
คดีนี้ เดิมศาลอาญาพิพากษาจำคุก ไอซ์ รักชนก จำนวน 2 กระทง กระทงละ 3 ปี รวมจำคุก 6 ปี โดยไม่รอลงอาญา ซึ่งศาลอาญาอนุญาตให้ประกันตัว น.ส.รักชนก ในระหว่างอุทธรณ์คดี ตีราคาประกัน 5 แสนบาท พร้อมกำหนดเงื่อนไขห้ามกระทำผิดในลักษณะเดียวกันนี้อีก
เมื่อวันที่ 28 ตุลาคม 2567 นายทันกวินท์ รัฐวัฒก์อังกูร ที่ปรึกษาธุรกิจและนักวิชาการอิสระ ได้ยื่นคำร้องขอตรวจสอบหลักทรัพย์ประกัน และคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งเพิกถอนการประกันตัวไอซ์ รักชนก เนื่องจากระหว่างการประกันตัวพบว่า ไอซ์ รักชนก ได้โพสต์ข้อความลงใน Facebook ส่วนตัว เข้าข่ายพาดพิงสถาบัน อันเป็นการกระทำผิดเงื่อนไขการประกันตัว
ต่อมาวันที่ 26 พฤศจิกายน 2567 ศาลอาญาได้ไต่สวนนายทันกวินท์ ผู้ร้อง และนางสาวรักชนก จนแล้วเสร็จ จึงได้นัดฟังคำสั่งในวันนี้ ซึ่งนางสาวรักชนก จะต้องเดินทางมาฟังคำสั่งศาลด้วยตนเอง
เมื่อเวลา 9:50 ไอซ์ รักชนก เดินทางมาถึงศาลอาญา พร้อมทนายความ ซึ่งได้แต่งกายชุดสีขาวทั้งตัวและรองเท้าสีขาว โดยบอกกับสื่อมวลชนเพียงแค่ว่า ขอขึ้นไปฟังผลก่อน เดี๋ยวจะลงมาให้สัมภาษณ์
ต่อมา เวลา 10.30 น.ศาลอาญามีคำสั่งยกคำร้องขอให้เพิกถอนประกันตัวในระหว่างอุทธรณ์ น.ส.รักชนก ศรีนอก หรือไอซ์ สส.กรุงเทพมหานคร พรรคประชาชน จำเลยในความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา ม.112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ในคดีดูหมิ่นสถาบัน หมายเลขดำ อ.683/2565 โดยให้เหตุผลว่า การแสดงความคิดเห็นของไอซ์ รักชนก เป็นการแสดงความคิดเห็นทั่วไป จึงไม่ผิดเงื่อนไขการประกันตัว แต่อย่างไรก็ตาม ศาลได้กำชับให้ไอซ์ รักชนก ปฏิบัติตามเงื่อนไขในการประกันตัวอย่างเคร่งครัด
อย่างไรก็ตาม มีรายงานข่าวว่า ฝั่งผู้ร้องเตรียมจะไปยื่นคำร้องต่อ ป.ป.ช. ในวันศุกร์นี้ เพื่อให้ตรวจสอบจริยธรรมนักการเมืองของไอซ์ รักชนก จากกรณีที่มีพฤติกรรม โพสต์ข้อความเข้าข่ายพาดพิงสถาบัน และต้องคำพิพากษาจำคุกศาลชั้นต้นจำคุกในคดี ม.112
จากนั้น ไอซ์ รักชนก ลงมาให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน โดยเปิดเผยว่า วันนี้ศาลยกคำร้องไม่เพิกถอนการประกัน โดยในประเด็นของผู้ยื่นคำร้องนั้นมีอยู่ 2 ประเด็น คือ ประเด็นแรก เรื่องหลักประกันที่นายชัยธวัช ตุลาธน อดีต สส.พรรคก้าวไกล ซึ่งเคยใช้ตำแหน่ง สส. ยื่นประกันตนเอง แต่ภายหลังนายชัยธวัชถูกศาลรัฐธรรมนูญตัดสิทธิ์ทางการเมือง จึงหลุดจากตำแหน่ง สส. ประเด็นดังกล่าวได้ต่อสู้ไปว่า ตนได้เปลี่ยนหลักทรัพย์การประกันตัวเป็นเงินสดในราคา 500,000 บาทแล้ว ซึ่งเป็นจำนวนเงินที่ศาลตีราคาไว้แต่แรก
ส่วนประเด็นที่สอง อ้างว่า ตนเองผิดเงื่อนไขการประกันตัว โดยนำโพสต์ Facebook ส่วนตัวที่ตนเองโพสต์ตั้งข้อสังเกตว่า ทำไมถึงใช้คำว่าป้ายขนาดใหญ่แทนคำว่าซุ้ม และอีกโพสต์หนึ่งคือ ตนโพสต์เกี่ยวกับพลทหารที่ซักกางเกงในให้นาย ซึ่งโพสต์ดังกล่าวเกี่ยวข้องกับการรณรงค์ให้ยกเลิกการเกณฑ์ทหาร แต่ผู้ยื่นคำร้องนำไปเชื่อมโยงว่า การโพสต์ดังกล่าวเป็นการด้อยค่ากองทัพและกระทบกระเทือนถึงพระมหากษัตริย์ในฐานะที่ทรงเป็นจอมทัพไทย จึงเข้าข่ายพาดพิงสถาบัน ซึ่งตนมองว่าประเด็นนี้เป็นการเชื่อมโยงที่ไม่น่าเชื่อว่าหาเหตุผลนี้ได้อย่างไร ซึ่งในประเด็นดังกล่าว ศาลเห็นว่าเป็นการแสดงความคิดเห็นทั่วไป จึงเป็นเหตุให้ศาลยกคำร้องขอเพิกถอนประกันตนเอง
ผู้สื่อข่าวสอบถามว่า แล้วหลังจากนี้จะระมัดระวังในการแสดงความคิดเห็นและการใช้สื่อโซเชียลมีเดียหรือไม่ ไอซ์ รักชนก กล่าวว่า วันนี้ศาลไม่ได้กำหนดเงื่อนไขอะไรเพิ่มเติม แต่ตนเองมองว่า ในฐานะที่เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จึงไม่ควรที่จะเซ็นเซอร์ตนเอง การที่ตนออกมาวิพากษ์วิจารณ์ก็เป็นประเด็นเรื่องสาธารณะ ไม่ใช่เรื่องส่วนตัว โดยเฉพาะประเด็นการใช้งบประมาณที่ต้องคุ้มค่ากับภาษีประชาชน ตนเชื่อว่าประชาชนที่รักและเข้าใจในเรื่องสิทธิและเสรีภาพ จะเข้าเข้าใจในการกระทำของตนว่าทำเพื่อประโยชน์สาธารณะจริงๆ
สำหรับกรณีที่ฝั่งผู้ยื่นคำร้องจะไปยื่น ป.ป.ช. ต่อนั้น ตนมองว่าเป็นเรื่องไร้สาระและเสียเวลา เนื่องจากกระทบเวลาที่ตนต้องทำงานที่รัฐสภา มองว่าไม่เป็นสาระไม่เป็นความอะไรเลย ตนเอาเวลาไปเข้าประชุมสภา และทำงานให้ประชาชนดีกว่า ไม่เข้าใจว่าฝั่งนั้นจะทำแบบนี้ทำไม ทั้ง ๆ ที่คำสั่งศาลอุทธรณ์ก็จะออก(คำพิพากษา) แล้ว แล้วยิ่งตนอยู่พรรคนี้ ก็ยิ่งรู้อยู่แล้วว่าผลออกมาจะเป็นอย่างไร
“คุณรอผลการอุทธรณ์ดีกว่าไหม อีกทั้งมองว่ากระทบกับพื้นที่สื่อที่ควรให้พื้นที่กับข่าวสำคัญ ดีกว่าข่าวถอนประกันของตนเอง สังคมไม่ได้ประโยชน์อะไรเลยจากการกระทำดังกล่าว”
อย่างไรก็ตาม ตนขอตั้งคำถามให้สังคมคิดว่า มีเพียงแค่พรรคประชาชนที่ต้องเผชิญกับกระบวนการแบบนี้ จึงคาดว่า อาจจะมีผลประโยชน์ทับซ้อนที่อยู่เบื้องหลังของขบวนการบุคคลเหล่านี้หรือไม่ ในการจ้องจะเล่นงานพรรคประชาชน
ผู้สื่อข่าวถามต่อไปอีกว่า มองอย่างไรกับการที่เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แต่ถูกต้องคำพิพากษาในศาลชั้นต้น จะเข้าข่ายเป็นการขัดจริยธรรมนักการเมืองหรือไม่ นางสาวรักชนก กล่าวว่า เรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องที่พูดยาก แต่ก็คาดหวังว่าในชั้นอุทธรณ์ ตนจะได้รับความเป็นธรรม เพราะตนก็ได้ต่อสู้ในทุกสิ่งทุกอย่างที่จะสามารถต่อสู้ได้ โดยตนได้ยื่นอุทธรณ์ไปเมื่อ 2 เดือนที่แล้ว และขณะนี้อยู่ในระหว่างการรอคำสั่งศาลอุทธรณ์ แต่ไม่ทราบว่าจะมีคำสั่งเมื่อไหร่
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวสังเกตว่า ไอซ์ รักชนกมีสีหน้าที่ยิ้มแย้มแจ่มใสอย่างเห็นได้ชัด ภายหลังศาลมีคำสั่งยกคำร้องการเพิกถอนการประกันตัว

(https://www.facebook.com/baitongpost/posts/8916207555127661)






 https://x.com/Thairath_News/status/1866718592559091976