ท่านผู้หญิงศศิเฌอปราง วชิรมหิดล ณ อยุธยา
22h
·
นิยายเรื่อง "พระราชาย่อมอยู่เหนือกฎหมายทั้งปวง"
คดีชายโอ vs หญิงเอ๋
ตำนานแก้กฎหมายเพื่อฟ้องหย่า + ม.112
-------------------------
#บทนำในคดีหย่าร้าง
ม.112 ไม่ใช่เรื่องน่าขำ แต่ก็อดขำไม่ได้เกี่ยวกับประเด็นนึงที่เกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อครั้งก่อนกาล
ณ ดินแดนอันไกลโพ้น ในการดำเนินคดีแพ่งเกี่ยวกับครอบครัวคดีหนึ่งเมื่อกว่า 30 ปีก่อน ศาลจัดให้มีการดำเนินคดีแบบลับ ไม่เปิดห้องไต่สวนให้ประชาชนเข้าฟังเพราะอ้างว่าเป็นคดีที่มีผลกระทบต่อความมั่นคงของประเทศ ซึ่งก็สร้างความงงงวยให้กับวงการกฎหมายทั้งประเทศเพราะเป็นคดีครอบครัวคดีแรกที่ศาลประกาศก้องว่าเกี่ยวกับความมั่นคง
ใครเล่าจะไปล่วงรู้ว่า ความลักลั่นผิดปกตินี้เป็นเพียงจุดเริ่มต้นเล็ก ๆ ที่จะนำไปสู่การสั่นคลอนต่อความน่าเชือถือของตุลาการทั้งระบบ
คดีนี้เกิดจากการที่ชายโอ ซึ่งดำรงตำแหน่งเป็นเจ้าชายรัชทายาทแห่งประเทศนั้น ต้องการหย่าหญิงเอ๋พระชายาที่สมรสถูกต้องตามกฎหมาย เพื่อไปทำการเสกสมรสครั้งใหม่กับนังปอร์เช่ อดีตดาราสาวที่ปรนนิบัติเป็นภรรยาในทางพฤตินัยของเจ้าชายมาแล้ว 10 กว่าปีและมีลูกนอกสมรสกันแล้วถึง 5 คน เทียบกับลูกในสมรสกับหญิงเอ๋ที่มีเพียงหน่อเดียวเท่านั้น
แต่เจ้าชายก็ไม่มีเหตุให้ฟ้องหย่า เนื่องจากประมวลกฎหมายแพ่งของประเทศ ณ เวลานั้น กำหนดเหตุฟ้องหย่าไว้เพียงแค่ไม่กี่ประการ เช่น ต้องประพฤติชั่ว ทำร้ายร่ายกายจิตใจ วิกลจริต เป็นโรคติดต่อร้ายแรง เป็นต้น แต่หญิงเอ๋เองก็ไม่ได้มีความประพฤติเข้าข่ายข้อกฎหมายดังกล่าวเลย
-------------------------
#การต่อสู้ของหญิงเอ๋
เป็นฝ่ายหญิงเอ๋เองต่างหากที่ต้องทนอับอายเป็นอย่างมากตลอดระยะเวลาเป็นเวลา 10 กว่าปีที่เธอเห็นเจ้าชายพานางปอร์เช่ออกหน้าออกตาตามงานสังคมพร้อมกับขบวนลูกนอกสมรส หรือกระทั่งพาไปเปิดตัวที่งานต่างประเทศ อย่างงานพิธีศพของพระจักรพรรดิญี่ปุ่น ปีค.ศ. 1989 จนเจ้าชายไปมีเรื่องกับเจ้าชายญี่ปุ่นที่รู้สึกถูกหยามเกียรติมากเพราะเขาไม่เคยเชิญไพร่นอกกฎหมายมาแบบนี้
แม้ชายโอจะมีชื่อเสียงว่ามีจิตใจโหดเหี้ยม ไม่เคยปราณีใครหน้าไหนที่ทำให้เขาต้องตะขิดตะขวงใจ แต่หญิงเอ๋เองก็มิเคยกลัวเจ้าชาย เพราะเธอเองก็มีศักดิ์เป็นหลานอาแท้ ๆ ของพระราชินีปากแดงผู้เป็นมารดาของเจ้าชาย เป็นลูกพี่ลูกน้องแท้ ๆ ของเจ้าชาย หญิงเอ๋จึงพร้อมเปิดศึกกับทั้งเจ้าชายและนางปอร์เช่แบบชนได้ชน ตาต่อตา ฟันต่อฟัน เสมอมา
หญิงเอ๋เปิดฉากทำสงครามใบปลิวกับนางปอร์เช่ ด้วยการผลัดกันส่งใบปลิวโจมตีอีกฝ่าย จ้างคนไปเดินแจกในย่านชุมชนทุกหัวมุมเมืองของเมืองหลวง พร้อมทั้งส่งแฟกซ์ไปตามสถานที่ราชการต่าง ๆ จนเป็นที่โจษจันกันไปทั้งประเทศ
เหตุการณ์ที่ถูกสุมไฟมาเรื่อย ๆ เหล่านี้จุดชนวนให้ชายโอต้องการหย่ากับหญิงเอ๋ให้ได้เร็วที่สุด หากแต่หญิงเอ๋ก็ไม่ยอมง่าย ๆ เพราะหญิงเองก็ถูกหมายมั่นปั้นมือจากบรรดาพระญาติว่าหญิงจะต้องได้นั่งบัลลังก์ตั่งทองเป็นพระราชินีคนต่อไป แม้ไม่ได้มีใจรักชายโอมาตั้งแต่เริ่ม แต่สตรีผู้มีชาติตระกูลสูงส่งอย่างหญิงก็จะไม่ยอมเสียศักดิ์ศรีให้คนมาตราหน้าได้ว่าถูกนางดาราสาวไร้หัวนอนปลายตีนผู้นั้นปาดมง
-------------------------
#ถึงพระเนตรพระกรรณพระราชาตาบอดและพระราชินีปากแดง
เมื่อความบาดหมางในรั้ววังตกเป็นหัวข้อในวงสนทนาของไพร่ทั่วทุกหย่อมหญ้า บั่นทอนภาพลักษณ์ความแพงและความสวยงามของราชวงศ์ที่พระราชาตาบอดและพระราชินีปากแดงทำโฆษณาชวนเชื่อล้างสมองประชาชนมาแล้วกว่า 40 ปี
ณ ช่วงเวลานั้น แม้แต่พระราชากับพระราชินีเองก็มีความขัดแย้งอยู่อย่างลับ ๆ อยู่แล้ว เหตุด้วยพระราชินีเกิดจิตปฏิพัทธ์และให้ความสนิทสนมชิดเชื้ออย่างออกนอกหน้ากับนายทหารหนุ่มคนสนิท ผู้มีหน้าตาหล่อเหลาจิ้มลิ้ม ผิวพรรณผ่องใส รูปงามตามยุคสมัย ไม่เหม็นเปรี้ยวแบบพระราชาผู้มักใส่สูทเดินกลางแจ้งจนรักแร้ชุ่ม จนทำให้พระราชินีต้องเบือนพระพักตร์หนีด้วยความอับอายอยู่เป็นนิจ
ความประสงค์ของเจ้าชายที่จะหย่าร้างกับหญิงเอ๋ ทำให้ความสัมพันธ์ของพระราชาและพระราชินียิ่งร้าวฉานฝังรากลึกลงไปอีก ฝ่ายพระราชินีมิยอมเด็ดขาดที่จะให้มีการหย่าร้างเกิดขึ้นระหว่างเจ้าชายและหลานสาวแท้ ๆ ของพระนาง ส่วนพระราชาหัวเด็ดตีนขาดก็สั่งว่าต้องหย่าให้ได้เพื่อแก้ไขปัญหาข่าวนินทาต่าง ๆ ที่มีต่อพระราชวงศ์
-------------------------
#กลเกมนางขันที
กริ๊ง กริ๊ง กริ๊ง ... เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น เป็นสายจากพระราชากำลังโทรหานางขันที อดีตนายกรัฐมนตรีที่พระองค์เพิ่งแต่งตั้งให้เป็นองคมนตรีและรัฐมหาวีรสตรีผู้คอยสนองพระโอษฐ์ในกิจการงานปกครองต่าง ๆ ของประเทศ พระราชาสั่งให้นางขันทีจัดการให้แก้กฎหมายอย่างไรก็ได้เพื่อให้เจ้าชายฟ้องหย่าพระชายาได้สำเร็จ
เมื่อได้รับพระบรมราชโองการมาดังนั้น นางขันทีขี้ประจบก็รีบกุลีกุจอ ออกคำสั่งให้สำนักงานกฤษฎีกาเร่งเสนอแก้ประมวลกฎหมายแพ่งในหมวดครอบครัว ว่าด้วยการสมรสและการสิ้นสุดการสมรสให้เร็วที่สุด
ร่าง พรบ. แก้ไขเกี่ยวกับการสมรสนี้ ผ่านการพิจารณาของรัฐสภาได้ภายในไม่กี่เดือนราวกับติดเทอร์โบ ต่างกันราวฟ้ากับเหว กับ ร่างพรบ.คู่ชีวิต หรือ พรบ.สมรสเท่าเทียม ที่อีก 30 ปีถัดมาจะค้างอยู่ในรัฐสภาประเทศนั้นหลายปี ผ่านไม่ได้และไม่ยอมจัดวาระพิจารณาเสียที
พรบ. ฉบับใหม่กำหนดให้ ชายหญิงสามารถฟ้องหย่ากันได้ด้วยเหตุที่ว่าสมัครใจแยกกันอยู่ หรือไม่ได้ร่วมเพศกันเป็นเวลา 3 ปี พรบ. ประกาศมีผลบังคับใช้ปุ๊บ วันต่อมาเจ้าชายเริ่มดำเนินเรื่องฟ้องหย่าหญิงเอ๋ทันทีแบบไม่เว้นช่วงเวลาให้หายใจเลยทีเดียว
-------------------------
#ณบัลลังก์ศาล
กลับมาที่ห้องไต่สวนคดีลับของศาล
ชายโอฟ้องหย่าหญิงเอ๋ ด้วยเหตุว่าไม่ได้อยู่กินกันเกินกว่า 3 ปีตามที่กฎหมายใหม่กำหนด พร้อมทั้งให้สืบพยานและยื่นหลักฐานเรื่องการแยกกันอยู่คนละตำหนัก
หญิงเอ๋นั่งฟังด้วยอากัปกิริยาสบาย ๆ ยิ้มกรุ้มกริ่มเพราะเธอมั่นอกมั่นใจว่าวันนี้เธอจะไม่ได้มาเป็นผู้แพ้คดีอย่างแน่นอน เมื่อถึงคิวฝ่ายเธอขึ้นให้การ เธอเดินเชิดคอระหงขึ้นไปบนแท่นให้การ ปรายหางตาชำเลืองไปทางนางปอร์เช่ ประกาศชัยชนะด้วยรอยยิ้มที่มุมปาก เธอโต้แย้งได้อย่างสมเหตุสมผลว่าเหตุการณ์ที่ชายโอกล่าวอ้างไม่มีผลทางกฎหมายเพราะมิใช่การแยกกันอยู่โดยสมัครใจ เนื่องจากเธอเองก็ยังคงออกงานในตำแหน่งพระชายาอย่างเปิดเผยต่อพสกนิกรทั้งประเทศ และที่สำคัญที่สุดคือคนที่มีปัญหานั้นมิใช่เธอ แต่เป็นการอยากแยกไปอยู่ฝ่ายเดียวของชายโอที่ประสงค์จะไปหรรษากับนางปอร์เช่ต่างหาก เธอไม่เคยสมัครใจยินยอมใด ๆ ทั้งสิ้น
เมื่อหญิงเอ๋เบิกความจบลง ทนายความฝ่ายหญิงเอ๋งัดหลักฐานรูปภาพและขอเบิกพยานให้ปากคำเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างชายโอและนางปอร์เช่
สิ้นสุดเสียงของทนายหนุ่ม ความโกลาหลก็เกิดขึ้นทันที เสียงอื้ออึงโห่ร้องดังมาจากแถวที่นั่งของบรรดาพระญาติและผู้เกี่ยวข้องที่อยู่ห้องพิจารณาคดี ทนายฝ่ายชายโอยกมือตะโกนขอค้านสุดกำลัง
ป๊อก ๆ ๆ ท่านผู้พิพากษาเคาะค้อนแกเฟิลให้ทุกคนอยู่ในความสงบ พร้อมพิจารณาคำโต้แย้งของทนายฝ่ายชายโอ ว่าประจักษ์พยานและหลักฐานทั้งหมดที่ฝ่ายหญิงเอ๋ขอเบิกพยานนั้น เป็นการดูหมิ่นต่อองค์รัชทายาท และถือว่าเป็นหลักฐานที่ขัดแย้งต่อ ม.112
ดังนั้นขอให้ศาลไม่รับพิจารณาพยานและหลักฐานทั้งหมดจากฝ่ายหญิงเอ๋ เนื่องจากขัดแย้งต่อรัฐธรรมนูญ
-------------------------
#ความปราชัยของหญิงเอ๋
ราวกับถูกสายฟ้าฟาดแสกหน้า หญิงเอ๋ตาเหลือกหันไปสบตากับทนายของเธอที่บัดนี้หน้าซีดราวกับไม่มีเลือดไปหล่อเลี้ยงแม้แต่หยดเดียว นางปอร์เช่ลุกขึ้นยืนจากที่นั่ง กระทืบส้นสูง กระแอมออกมาเบา ๆ โดยผู้อยู่รอบข้างแถวนั้นได้ยินเป็นคำกระซิบว่า "อีโง่" นางเดินออกจากห้องพิจารณาคดีอย่างผู้มีชัย โดยไม่สนใจจะรอฟังคำพิพากษาอย่างเป็นทางการแต่อย่างใด
ผู้พิพากษาเห็นพ้องกับทนายฝ่ายชายโอ ไม่อนุญาตให้นำสืบเรื่องความสัมพันธ์ของชายโอและพฤติกรรมของปอร์เช่ ผู้พิพากษากล่าวจบการไต่สวน แล้วลุกกลับห้องไปพิจารณาคดี ใช้เวลาเพียง 10 นาทีก่อนเรียกทุกฝ่ายกลับเข้ามาฟังคำพิพากษาที่ถูกเขียนล่วงหน้าไว้ตั้งแต่ก่อนจะเริ่มไต่สวนเสียด้วยซ้ำ
หญิงเอ๋เองไม่รู้ระแคะระคายมาก่อนว่าการพิพากษาครั้งนี้คือปาหี่ที่พระราชาตาบอดกับขันทีเตรียมการกันไว้ล่วงหน้าแล้ว
"กรี๊ดดดดด!!"
สิ้นการอ่านคำพิพากษาลง ทุกคนในที่นั่นก็ได้ยินเสียงหญิงเอ๋ร้องลั่น เธอเป็นลมล้มพับไปที่หน้าบัลลังก์ศาล
จบตำนานดคีฟ้องหย่าคดีแรกของ พรบ.แก้ไขประมวลแพ่งเรื่องการสมรส ที่ถูกขมวดจบด้วยการใช้ ม.112 อย่างเกินความคาดหมายของทุกฝ่าย
ปัจฉิมบทคดีฟ้องหย่าหญิงเอ๋นี้ก็กลายปฐมบทของระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชที่พระราชาปกครองแผ่นดินผ่านการสั่งร่างกฎหมาย (puppet legislature) ขบวนการตุลาการที่ทำหน้าที่เกินบทบาท (judicial activism) และ ม.112 ที่จะครอบงำประเทศนั้นไปอีกหลายทศวรรษนับจากการหย่าร้างอันแสนขื่นขมของหญิงเอ๋
จบตอน
22h
·
นิยายเรื่อง "พระราชาย่อมอยู่เหนือกฎหมายทั้งปวง"
คดีชายโอ vs หญิงเอ๋
ตำนานแก้กฎหมายเพื่อฟ้องหย่า + ม.112
-------------------------
#บทนำในคดีหย่าร้าง
ม.112 ไม่ใช่เรื่องน่าขำ แต่ก็อดขำไม่ได้เกี่ยวกับประเด็นนึงที่เกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อครั้งก่อนกาล
ณ ดินแดนอันไกลโพ้น ในการดำเนินคดีแพ่งเกี่ยวกับครอบครัวคดีหนึ่งเมื่อกว่า 30 ปีก่อน ศาลจัดให้มีการดำเนินคดีแบบลับ ไม่เปิดห้องไต่สวนให้ประชาชนเข้าฟังเพราะอ้างว่าเป็นคดีที่มีผลกระทบต่อความมั่นคงของประเทศ ซึ่งก็สร้างความงงงวยให้กับวงการกฎหมายทั้งประเทศเพราะเป็นคดีครอบครัวคดีแรกที่ศาลประกาศก้องว่าเกี่ยวกับความมั่นคง
ใครเล่าจะไปล่วงรู้ว่า ความลักลั่นผิดปกตินี้เป็นเพียงจุดเริ่มต้นเล็ก ๆ ที่จะนำไปสู่การสั่นคลอนต่อความน่าเชือถือของตุลาการทั้งระบบ
คดีนี้เกิดจากการที่ชายโอ ซึ่งดำรงตำแหน่งเป็นเจ้าชายรัชทายาทแห่งประเทศนั้น ต้องการหย่าหญิงเอ๋พระชายาที่สมรสถูกต้องตามกฎหมาย เพื่อไปทำการเสกสมรสครั้งใหม่กับนังปอร์เช่ อดีตดาราสาวที่ปรนนิบัติเป็นภรรยาในทางพฤตินัยของเจ้าชายมาแล้ว 10 กว่าปีและมีลูกนอกสมรสกันแล้วถึง 5 คน เทียบกับลูกในสมรสกับหญิงเอ๋ที่มีเพียงหน่อเดียวเท่านั้น
แต่เจ้าชายก็ไม่มีเหตุให้ฟ้องหย่า เนื่องจากประมวลกฎหมายแพ่งของประเทศ ณ เวลานั้น กำหนดเหตุฟ้องหย่าไว้เพียงแค่ไม่กี่ประการ เช่น ต้องประพฤติชั่ว ทำร้ายร่ายกายจิตใจ วิกลจริต เป็นโรคติดต่อร้ายแรง เป็นต้น แต่หญิงเอ๋เองก็ไม่ได้มีความประพฤติเข้าข่ายข้อกฎหมายดังกล่าวเลย
-------------------------
#การต่อสู้ของหญิงเอ๋
เป็นฝ่ายหญิงเอ๋เองต่างหากที่ต้องทนอับอายเป็นอย่างมากตลอดระยะเวลาเป็นเวลา 10 กว่าปีที่เธอเห็นเจ้าชายพานางปอร์เช่ออกหน้าออกตาตามงานสังคมพร้อมกับขบวนลูกนอกสมรส หรือกระทั่งพาไปเปิดตัวที่งานต่างประเทศ อย่างงานพิธีศพของพระจักรพรรดิญี่ปุ่น ปีค.ศ. 1989 จนเจ้าชายไปมีเรื่องกับเจ้าชายญี่ปุ่นที่รู้สึกถูกหยามเกียรติมากเพราะเขาไม่เคยเชิญไพร่นอกกฎหมายมาแบบนี้
แม้ชายโอจะมีชื่อเสียงว่ามีจิตใจโหดเหี้ยม ไม่เคยปราณีใครหน้าไหนที่ทำให้เขาต้องตะขิดตะขวงใจ แต่หญิงเอ๋เองก็มิเคยกลัวเจ้าชาย เพราะเธอเองก็มีศักดิ์เป็นหลานอาแท้ ๆ ของพระราชินีปากแดงผู้เป็นมารดาของเจ้าชาย เป็นลูกพี่ลูกน้องแท้ ๆ ของเจ้าชาย หญิงเอ๋จึงพร้อมเปิดศึกกับทั้งเจ้าชายและนางปอร์เช่แบบชนได้ชน ตาต่อตา ฟันต่อฟัน เสมอมา
หญิงเอ๋เปิดฉากทำสงครามใบปลิวกับนางปอร์เช่ ด้วยการผลัดกันส่งใบปลิวโจมตีอีกฝ่าย จ้างคนไปเดินแจกในย่านชุมชนทุกหัวมุมเมืองของเมืองหลวง พร้อมทั้งส่งแฟกซ์ไปตามสถานที่ราชการต่าง ๆ จนเป็นที่โจษจันกันไปทั้งประเทศ
เหตุการณ์ที่ถูกสุมไฟมาเรื่อย ๆ เหล่านี้จุดชนวนให้ชายโอต้องการหย่ากับหญิงเอ๋ให้ได้เร็วที่สุด หากแต่หญิงเอ๋ก็ไม่ยอมง่าย ๆ เพราะหญิงเองก็ถูกหมายมั่นปั้นมือจากบรรดาพระญาติว่าหญิงจะต้องได้นั่งบัลลังก์ตั่งทองเป็นพระราชินีคนต่อไป แม้ไม่ได้มีใจรักชายโอมาตั้งแต่เริ่ม แต่สตรีผู้มีชาติตระกูลสูงส่งอย่างหญิงก็จะไม่ยอมเสียศักดิ์ศรีให้คนมาตราหน้าได้ว่าถูกนางดาราสาวไร้หัวนอนปลายตีนผู้นั้นปาดมง
-------------------------
#ถึงพระเนตรพระกรรณพระราชาตาบอดและพระราชินีปากแดง
เมื่อความบาดหมางในรั้ววังตกเป็นหัวข้อในวงสนทนาของไพร่ทั่วทุกหย่อมหญ้า บั่นทอนภาพลักษณ์ความแพงและความสวยงามของราชวงศ์ที่พระราชาตาบอดและพระราชินีปากแดงทำโฆษณาชวนเชื่อล้างสมองประชาชนมาแล้วกว่า 40 ปี
ณ ช่วงเวลานั้น แม้แต่พระราชากับพระราชินีเองก็มีความขัดแย้งอยู่อย่างลับ ๆ อยู่แล้ว เหตุด้วยพระราชินีเกิดจิตปฏิพัทธ์และให้ความสนิทสนมชิดเชื้ออย่างออกนอกหน้ากับนายทหารหนุ่มคนสนิท ผู้มีหน้าตาหล่อเหลาจิ้มลิ้ม ผิวพรรณผ่องใส รูปงามตามยุคสมัย ไม่เหม็นเปรี้ยวแบบพระราชาผู้มักใส่สูทเดินกลางแจ้งจนรักแร้ชุ่ม จนทำให้พระราชินีต้องเบือนพระพักตร์หนีด้วยความอับอายอยู่เป็นนิจ
ความประสงค์ของเจ้าชายที่จะหย่าร้างกับหญิงเอ๋ ทำให้ความสัมพันธ์ของพระราชาและพระราชินียิ่งร้าวฉานฝังรากลึกลงไปอีก ฝ่ายพระราชินีมิยอมเด็ดขาดที่จะให้มีการหย่าร้างเกิดขึ้นระหว่างเจ้าชายและหลานสาวแท้ ๆ ของพระนาง ส่วนพระราชาหัวเด็ดตีนขาดก็สั่งว่าต้องหย่าให้ได้เพื่อแก้ไขปัญหาข่าวนินทาต่าง ๆ ที่มีต่อพระราชวงศ์
-------------------------
#กลเกมนางขันที
กริ๊ง กริ๊ง กริ๊ง ... เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น เป็นสายจากพระราชากำลังโทรหานางขันที อดีตนายกรัฐมนตรีที่พระองค์เพิ่งแต่งตั้งให้เป็นองคมนตรีและรัฐมหาวีรสตรีผู้คอยสนองพระโอษฐ์ในกิจการงานปกครองต่าง ๆ ของประเทศ พระราชาสั่งให้นางขันทีจัดการให้แก้กฎหมายอย่างไรก็ได้เพื่อให้เจ้าชายฟ้องหย่าพระชายาได้สำเร็จ
เมื่อได้รับพระบรมราชโองการมาดังนั้น นางขันทีขี้ประจบก็รีบกุลีกุจอ ออกคำสั่งให้สำนักงานกฤษฎีกาเร่งเสนอแก้ประมวลกฎหมายแพ่งในหมวดครอบครัว ว่าด้วยการสมรสและการสิ้นสุดการสมรสให้เร็วที่สุด
ร่าง พรบ. แก้ไขเกี่ยวกับการสมรสนี้ ผ่านการพิจารณาของรัฐสภาได้ภายในไม่กี่เดือนราวกับติดเทอร์โบ ต่างกันราวฟ้ากับเหว กับ ร่างพรบ.คู่ชีวิต หรือ พรบ.สมรสเท่าเทียม ที่อีก 30 ปีถัดมาจะค้างอยู่ในรัฐสภาประเทศนั้นหลายปี ผ่านไม่ได้และไม่ยอมจัดวาระพิจารณาเสียที
พรบ. ฉบับใหม่กำหนดให้ ชายหญิงสามารถฟ้องหย่ากันได้ด้วยเหตุที่ว่าสมัครใจแยกกันอยู่ หรือไม่ได้ร่วมเพศกันเป็นเวลา 3 ปี พรบ. ประกาศมีผลบังคับใช้ปุ๊บ วันต่อมาเจ้าชายเริ่มดำเนินเรื่องฟ้องหย่าหญิงเอ๋ทันทีแบบไม่เว้นช่วงเวลาให้หายใจเลยทีเดียว
-------------------------
#ณบัลลังก์ศาล
กลับมาที่ห้องไต่สวนคดีลับของศาล
ชายโอฟ้องหย่าหญิงเอ๋ ด้วยเหตุว่าไม่ได้อยู่กินกันเกินกว่า 3 ปีตามที่กฎหมายใหม่กำหนด พร้อมทั้งให้สืบพยานและยื่นหลักฐานเรื่องการแยกกันอยู่คนละตำหนัก
หญิงเอ๋นั่งฟังด้วยอากัปกิริยาสบาย ๆ ยิ้มกรุ้มกริ่มเพราะเธอมั่นอกมั่นใจว่าวันนี้เธอจะไม่ได้มาเป็นผู้แพ้คดีอย่างแน่นอน เมื่อถึงคิวฝ่ายเธอขึ้นให้การ เธอเดินเชิดคอระหงขึ้นไปบนแท่นให้การ ปรายหางตาชำเลืองไปทางนางปอร์เช่ ประกาศชัยชนะด้วยรอยยิ้มที่มุมปาก เธอโต้แย้งได้อย่างสมเหตุสมผลว่าเหตุการณ์ที่ชายโอกล่าวอ้างไม่มีผลทางกฎหมายเพราะมิใช่การแยกกันอยู่โดยสมัครใจ เนื่องจากเธอเองก็ยังคงออกงานในตำแหน่งพระชายาอย่างเปิดเผยต่อพสกนิกรทั้งประเทศ และที่สำคัญที่สุดคือคนที่มีปัญหานั้นมิใช่เธอ แต่เป็นการอยากแยกไปอยู่ฝ่ายเดียวของชายโอที่ประสงค์จะไปหรรษากับนางปอร์เช่ต่างหาก เธอไม่เคยสมัครใจยินยอมใด ๆ ทั้งสิ้น
เมื่อหญิงเอ๋เบิกความจบลง ทนายความฝ่ายหญิงเอ๋งัดหลักฐานรูปภาพและขอเบิกพยานให้ปากคำเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างชายโอและนางปอร์เช่
สิ้นสุดเสียงของทนายหนุ่ม ความโกลาหลก็เกิดขึ้นทันที เสียงอื้ออึงโห่ร้องดังมาจากแถวที่นั่งของบรรดาพระญาติและผู้เกี่ยวข้องที่อยู่ห้องพิจารณาคดี ทนายฝ่ายชายโอยกมือตะโกนขอค้านสุดกำลัง
ป๊อก ๆ ๆ ท่านผู้พิพากษาเคาะค้อนแกเฟิลให้ทุกคนอยู่ในความสงบ พร้อมพิจารณาคำโต้แย้งของทนายฝ่ายชายโอ ว่าประจักษ์พยานและหลักฐานทั้งหมดที่ฝ่ายหญิงเอ๋ขอเบิกพยานนั้น เป็นการดูหมิ่นต่อองค์รัชทายาท และถือว่าเป็นหลักฐานที่ขัดแย้งต่อ ม.112
ดังนั้นขอให้ศาลไม่รับพิจารณาพยานและหลักฐานทั้งหมดจากฝ่ายหญิงเอ๋ เนื่องจากขัดแย้งต่อรัฐธรรมนูญ
-------------------------
#ความปราชัยของหญิงเอ๋
ราวกับถูกสายฟ้าฟาดแสกหน้า หญิงเอ๋ตาเหลือกหันไปสบตากับทนายของเธอที่บัดนี้หน้าซีดราวกับไม่มีเลือดไปหล่อเลี้ยงแม้แต่หยดเดียว นางปอร์เช่ลุกขึ้นยืนจากที่นั่ง กระทืบส้นสูง กระแอมออกมาเบา ๆ โดยผู้อยู่รอบข้างแถวนั้นได้ยินเป็นคำกระซิบว่า "อีโง่" นางเดินออกจากห้องพิจารณาคดีอย่างผู้มีชัย โดยไม่สนใจจะรอฟังคำพิพากษาอย่างเป็นทางการแต่อย่างใด
ผู้พิพากษาเห็นพ้องกับทนายฝ่ายชายโอ ไม่อนุญาตให้นำสืบเรื่องความสัมพันธ์ของชายโอและพฤติกรรมของปอร์เช่ ผู้พิพากษากล่าวจบการไต่สวน แล้วลุกกลับห้องไปพิจารณาคดี ใช้เวลาเพียง 10 นาทีก่อนเรียกทุกฝ่ายกลับเข้ามาฟังคำพิพากษาที่ถูกเขียนล่วงหน้าไว้ตั้งแต่ก่อนจะเริ่มไต่สวนเสียด้วยซ้ำ
หญิงเอ๋เองไม่รู้ระแคะระคายมาก่อนว่าการพิพากษาครั้งนี้คือปาหี่ที่พระราชาตาบอดกับขันทีเตรียมการกันไว้ล่วงหน้าแล้ว
"กรี๊ดดดดด!!"
สิ้นการอ่านคำพิพากษาลง ทุกคนในที่นั่นก็ได้ยินเสียงหญิงเอ๋ร้องลั่น เธอเป็นลมล้มพับไปที่หน้าบัลลังก์ศาล
จบตำนานดคีฟ้องหย่าคดีแรกของ พรบ.แก้ไขประมวลแพ่งเรื่องการสมรส ที่ถูกขมวดจบด้วยการใช้ ม.112 อย่างเกินความคาดหมายของทุกฝ่าย
ปัจฉิมบทคดีฟ้องหย่าหญิงเอ๋นี้ก็กลายปฐมบทของระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชที่พระราชาปกครองแผ่นดินผ่านการสั่งร่างกฎหมาย (puppet legislature) ขบวนการตุลาการที่ทำหน้าที่เกินบทบาท (judicial activism) และ ม.112 ที่จะครอบงำประเทศนั้นไปอีกหลายทศวรรษนับจากการหย่าร้างอันแสนขื่นขมของหญิงเอ๋
จบตอน