อีกครั้งกับการแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจของประเทศ ‘ด้วยปาก’ ล้วนๆ ไม่มีสมองเจือปน และเป็นการตอกย้ำให้รู้ชัดว่า พวกแย่งอำนาจเขามาและอยากอยู่ยาว นอกจากไม่มีวิธีคิดอย่างเป็นสมการแล้ว ยังไม่ค่อยเตรียมนโยบายอะไรล่วงหน้า
คราวนี้จากที่ ประยุทธ์ จันทร์โอชา ตอบข้อซักถามของผู้สื่อข่าวสองอย่าง หนึ่ง หมูขึ้นราคาไม่ถอย เชื่อกันว่าโลละถึง ๓๐๐ บาท ก่อนตรุษจีนแน่ๆ “ได้สั่งให้กระทรวงพาณิชย์ไปสำรวจตั้งแต่ต้นทางแล้ว ว่าปัญหาอยู่ตรงไหน...หมูตายก็เพาะพันธุ์ใหม่มาแทน”
แต่นี่จำนวนหมูที่ตายเนื่องจากเชื้อโรคอหิวาห์ ‘AFS’ ไม่ถึง ๒๐% ทำไมเนื้อหมูขาดตลาดไม่พอจำหน่าย “ต้องลงไปดูว่ามันเกิดปัญหาขึ้นในกระบวนการไหน มีคนไปทำอะไรหรือเปล่า” บางทีอาจเป็นเพราะนายกฯ ไม่ประสีประสาเรื่องอย่างนี้ก็ได้
กรณีหมูแพง ถกกันมาเป็นเดือนแล้ว ส่วนหนึ่งเกิดจากหมูติดอหิวาห์ตายไปจำนวนมาก ทางการไม่ทราบเพราะไม่มีใครแจ้ง กลัวว่าเล้าจะถูกปิด หรือถ้ารู้กันทั่วแล้วต้องคอยระวังระไว คอยตรวจเชื้อบ่อยๆ ไม่เป็นอันซื้อขายหากำไร แบบนี้ไม่รู้มีกรมปศุสัตว์ไว้ทำไร
หน่วยงานเกี่ยวข้องควรต้องเสาะสืบหาสาเหตุตั้งแต่ชาวบ้านเริ่มบ่นหมูแพง เป็นเดือนๆ มาแล้ว ดีกว่านั้นและควรเป็นคือการเริ่มหาเบาะแสตั้งแต่เกิดโรคระบาดในม้า ต่อมาที่วัวและควายเมื่อสองสามเดือนก่อน ตอนนั้นควรไปตรวจหมูไก่ได้แล้ว คงยั้งไว้รอท่า ‘เจ้าสัว’
เมื่อวาน (๑๗ มกรา) ประยุทธ์ออกอาการ ‘ประจำเดือนมา’ บ่น “สินค้าหลายอย่างขึ้นราคาตามกัน โดยไม่มีเหตุผลที่สมควร...อย่าทำให้ประชาชนเดือดร้อนไปมากกว่านี้ก็แล้วกัน...ไม่ใช่น้ำมันขึ้นราคา ๑ บาท แต่ไปขึ้นราคาสินค้า ๕ บาท ก็ไม่สมเหตุสมผล”
ก็ใช่ละ แต่ไม่ใช่ทั้งหมด การขึ้นราคาตามกัน มีเหตุเพราะต้นทุนวัสดุต่างๆ นานาแพงขึ้นเกือบทั้งนั้น พวกปลายแถว ร้านอาหารและแผงลอยก็ต้องปรับราคา เพื่อความอยู่รอดไม่ให้ขาดทุน นักข่าวถึงได้ถามประยุทธ์ว่า ในเมื่อของแพงถ้วนหน้า ควรปรับค่าแรงขั้นต่ำขึ้นไปหน่อยไหม
เป็นคำถามเข้าไคล้ทีเดียว ที่เอ่ยถึงทางแก้ระยะยาวได้อย่างถูกต้อง แต่นายกฯ เพียงแค่ได้ยินเสียง ไม่ได้ตระหนักถึงผลลัพท์ ผลสะท้อนอะไร จึงได้โพล่งออกมาเซ่อซ่าว่า “จะเอาเงินมาจากไหน...ต้องหาเงินมาให้ได้ก่อน รัฐบาลจะต้องมีเงินก่อน”
เฮ้ วิธีแก้ของแพง ไม่ใช่เอาเงินไปทุ่มสู้ราคา ซึ่งทำได้บางครั้งบางกรณี แต่ทางที่ดีกว่าอยู่ที่การรู้จักบริหารจัดการให้ถูกทาง วิเคราะห์ปัญหาได้ถูกต้องแล้วจะพบวิธีแก้อย่างมีประสิทธิภาพ มิใช่ ‘บ้าใบ้’ อยู่ร่ำไป แทบทุกครั้งเมื่อปัญหาเกิด
เช่นนี้ก่อให้เกิดข้อวิตก ว่าถ้าหมอนี่กลับมาเป็นนายกฯ หลังเลือกตั้งครั้งหน้าอีกสี่ห้าปี การกินดีอยู่ดีของชาติจะหดหายไปมากกว่าที่เป็นอยู่เดี๋ยวนี้ และดูเหมือนแนวโน้มจะไปทางนั้น จากผลกระทบต่อเนื่องของการเลือกตั้งซ่อมภาคใต้ ๒ จังหวัด
พรรคประชาธิปัตย์ได้รับชัยชนะชนิดนำลิ่ว ในการเลือกตั้งซ่อมทั้งเขต ๖ สงขลา และเขต ๑ ชุมพร สุภาพร กำเนิดผล หรือ ‘น้ำหอม’ พรรคประชาธิปัตย์ ชนะขาดสงขลา เช่นกันกับ อิสรพงษ์ มากอำไพ นำลิ่วที่ชุมพร (คะแนน ปชป. ๔๘,๙๘๑ ตามด้วย ๓๒,๒๒๙ พปชร.)
ลุ้นกันอยู่ว่ากระแสนี้จะลามไปถึงการเลือกตั้งซ่อม กทม.เขต ๙ หลักสี่ไหม ทั้งๆ พื้นที่และภูมิภาคต่างกันมากกับภาคใต้ซึ่งประชาธิปัตย์เป็นแช้มป์เก่า จึงไม่แปลกอะไรที่รักษาแช้มป์ในสองจังหวัดภาคใต้ไว้ได้ จะแปลกถ้าหลักสี่ ปชป.หรือพรรคกล้ามาวิน
เท่าที่ปรากฏในสงขลาและชุมพร พรรคก้าวไกลแผ่วลงไปอย่างมากจากการเลือกตั้งปี ๖๒ วัดเปอร์เซ็นต์แล้วก้าวไกลคะแนนหล่นไปถึง ๖๕-๖๖ เปอร์เซ็นต์ แต่ใน กทม.โดยเฉพาะหลักสี่ ก้าวไกลเป็นก้างขวางคอผู้สมัครพรรคเพื่อไทยอย่างจะแจ้ง
ประชาธิปัตย์กับพลังประชารัฐยังประชันกันอยู่ใน กทม. แม้นว่าเมื่อปี ๖๒ ทั้งสองพรรคจะสู้พรรคใหม่ในขณะนั้น (อนาคตใหม่) ไม่ได้ คราวนี้ที่ลุ้นมีแต่เพื่อไทยกับก้าวไกล ซึ่งไม่ใช่ด้วยเหตุการแพ้ชนะกันอย่างในภาคใต้ ที่ ‘บ้านใหญ่’ กลับมา
คะแนนเลือกซ่อมสงขลาและชุมพรสะท้อนการเมืองแบบเดิม “ใครโกงกว่ากัน” ธรรมนัส พรหมเผ่า ผู้กำกับการหาเสียงของ พปชร.พูดไว้แต่เช้าวันหย่อนบัตร “ไม่เคยเห็นการโกงการเลือกตั้งอย่างนี้มาก่อน” ไม่น่าเชื่อว่าพรรคที่ชื่อเสียงบริสุทธิ์ “เป็นแบบนี้”
ขณะที่ การเมืองแบบใหม่ ที่พรรคก้าวไกลนำไปใช้ อภิปรายตรวจสอบรัฐบาลอย่างเข้มข้น เกาะติดกับการแซะเอาความชั่วช้าของรัฐบาล ทั้งในเรื่องไม่ลดคอรัปชั่น และคิดหาแนวทางใหม่ๆ ไม่เป็น ในการฟื้นเศรษฐกิจอันจมปลัก
ข้อโจมตีจากกลุ่มอุลตร้าอนุรักษ์นิยม ‘ไทยรักษา’ ที่ว่าก้าวไกลคะแนนตกดิ่งเพราะถูกโหมโจมตีว่าเป็นพรรคล้มเจ้า หากได้ผลจริงน่าจะเป็นเฉพาะพื้นที่ต้นทางภาคใต้ ครั้นลึกลงไปในด้ามขวานจนถึงปลายสุดนั่น จุดยืนต่อสถาบันฯ ไม่ถึงขั้นเป็นเกณฑ์ตัดสิน
ฉะนั้นถึงคราวเลือกตั้งใหญ่ จะไม่เป็นไปตามพันธกรณีอย่างสองจังหวัดต้นทางลงใต้ ก้าวไกลจะโตต่อไปหรือแคระแกลนอย่างใด เชื่อได้ว่าคงทำหน้าที่ ‘ตัวเล็กเสียงดัง’ ขัดขวางการสืบทอดอำนาจอย่างมีชีวิตชีวาเต็มเปี่ยมต่อไป
(https://www.facebook.com/thanapol.eawsakul/posts/5016945878372211, https://www.facebook.com/VoiceOnlineTH/posts/10162536987569848 และ https://www.thairath.co.th/news/politic/2289793)