เลือกตั้งซ่อมภาคใต้สองจังหวัด สงขลา-ชุมพร คราวนี้ชี้ให้เห็นรอยร้าว พลังประชารัฐ-ประชาธิปัตย์ ถึงขั้น เทพไท เสนพงศ์ อดีต ส.ส.เมืองคอนของ ปชป.ลั่น “จะขอทบทวนการเข้าร่วมรัฐบาล หรือจะขอถอนตัวออกจากการเป็นพรรคร่วมรัฐบาล”
ต่อยอดจาก จุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ หัวหน้าพรรคฯ พูดไว้ “เกี่ยวกับพรรคร่วมรัฐบาลส่งผู้สมัคร ส.ส.แข่งขันกันเอง ซึ่งอาจส่งผลต่อเสถียรภาพของรัฐบาล” นอกจากจะเกิดความหมางใจกัน “ที่เสียไปก็เป็นของพรรคร่วม” คะแนนที่ได้มาเท่าเดิม “ได้ไม่คุ้มเสีย”
ภูมิหลังของความขัดแย้ง สะท้อนได้จากเม้นต์ของ Panuwat @tumbler_p “นี่คือ ปชป. กับ พปชร. ด่ากันเละเทะแบบเผ็ดร้อน พริกหมดสวน มันส์มาก” เทพไทจึงบอกว่า ประยุทธ์ในฐานะ “หัวหน้ารัฐบาล ต้องออกมาหย่าศึก”
จะวางเฉยลอยตัวอยู่เหนือความขัดแย้ง เหมือนตอนนี้ไม่ได้แล้ว แต่ฝ่ายที่ยังเอาประยุทธ์อย่าง ชัยชนะ เดชเดโช ส.ส. นครศรีธรรมราช ปชป.ก็บอก “เขาหาว่าประชาธิปัตย์ไม่จริงใจร่วมรัฐบาล...แต่คนที่พยายามจะล้มพล.อ.ประยุทธ์ คือพวกมันนั่นแหละ”
ความอึกทึกเริ่มแต่ ธรรมนัส พรหมเผ่า ลงไปคุมหาเสียงด้วยตัวเอง ขึ้นปราศรัยที่สงขลา บอกว่าจะได้ ส.ส.ดีต้องเลือกคนมี ‘ชาติตระกูล’ และ ๒.ต้องมีตังค์ ทำเอา ธิวัชร์ ดำแก้ว ผู้สมัครของพรรคก้าวไกลฟ้อง กกต.ว่าเสี่ยแป้งพูดจูงใจผู้ออกเสียง ผิด พรป.เลือกตั้ง
ธรรมนัสนั่นกำลังวิ่งแรงใน พปชร. ชนิดที่เนชั่นสุดสัปดาห์บอกว่าเขา “มีความมั่นใจในสมรภูมิเลือกตั้ง ส.ส. ๑๔ จังหวัดภาคใต้สมัยหน้า โดยไม่ต้องพึ่งแบรนด์ลุงตู่” เขาเลือกเอา อนุกูล พฤกษานุศักดิ์ ลงสงขลาเพราะตรงสเป็ค ‘บ้านใหญ่สะเดา’
ส่วนที่ชุมพรเขาเล็ง ‘บ้านใหญ่จุลใส’ แต่ก็ผะอืดผะอม กปปส.ติดคอ พวกนั้นกำลังเตรียมจัดพรรคใหม่ลงสนามผู้ว่าฯ กทม. ธรรมนัสเลยหันไปคว้า ‘ทนายแดง’ ชวลิต อาจหาญ มาลง พปชร.แข่งกับหลานเมียของ ‘ลูกหมี’ ชุมพล จุลใส ในสไตล์ ‘เบี้ยรองบ่อน’
แต่ธรรมนัสไม่ยั่นเมื่อได้ “ศิริศักดิ์ อ่อนละมัย อดีต ส.ส.ชุมพร คู่แค้นของตระกูลจุลใส มาเป็นพี่เลี้ยง” เนชั่นชี้ “สมรภูมิภาคใต้สมัยหน้า...ขับเคี่ยวกันแค่ ๓ พรรคคือประชาธิปัตย์ พลังประชารัฐ และภูมิใจไทย” โดย ‘ประชาชาติ’ อาจแทรกบ้างตรงปลายๆ ด้ามขวาน
แล้วยังบอกอย่าง ‘ชัวร์ๆ’ ว่า “ฤาภูมิทัศน์การเมืองภาคใต้จะเปลี่ยนไปแล้วจริงๆ นับแต่เสาไฟฟ้าล้มเกลื่อนกลาด เมื่อ ๒๔ มี.ค.๒๕๖๒ ปิดฉากพรรคของคนใต้” ทำให้การเลือกตั้งครั้งต่อไป คนที่เดือดเนื้อร้อนใจที่สุดไม่พ้น ปชป. นี่คือเหตุเทพไทหัวร้อน
ย้อนมาที่เวที กทม.เลือกซ่อมแทนที่อดีต ส.ส. สิระ เจนจาคะ ซึ่งถูกศาลรัฐธรรมนูญเด้ง แล้วส่งภริยาลงแข่งแทน นี่ก็ฟัดกันมันหยด จน ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ส่งเสียง “ห่วงว่านอกจากราคาสินค้า #แพงทั้งแผ่นดิน ยังมีเรื่องคนแพง จากการ #เลือกตั้งซ่อม”
ดังทวี้ตของ 𝕄𝕠𝕦𝕚™ @moui วันนี้ “เห็นว่าแจกกล้วยแถวๆ หลักสี่นี่จากพันห้าไปสองพัน สามพัน นาทีนี้ไปถึงห้าพันแล้วเหรอ อู้ฟู้ จัง” ค่อยๆ สาวไปดีๆ เจอต้นทางพลังประชารัฐเขาให้ นัยว่างานนี้แพ้ไม่ได้ ไหนจะตัวเต็งเพื่อไทย ไหนจะตัววิ่งใหม่ก้าวไกล
ไหนไม่สิ้น เจอคนเคยรักหักดิบเสียอีก ‘เหรียญทอง’ ชื่อนี้ทำตัวเป็นลมใต้ปีก ‘บิ๊ก’ ตู่ มาช้านานด้วยทักษะกายกรรมห้อยโหนสถาบันฯ แต่วันนี้ประกาศว่าถูกพลังประชารัฐ ‘เนรคุณ’ ด้วยการที่ปล่อยให้ ‘ส.ส.เถื่อน’ หลักสี่ ปิดโรงพยาบาลสนามของตน
“อย่างน่าเสียดายในระหว่างเดือนพฤษภาคม ๒๕๖๔ ปีที่ผ่านมา มิหนำซ้ำยังใช้อำนาจแจ้งความให้ สน.ทุ่งสองห้องดำเนินคดีผมเสียอีก” ต้นตออย่างนั้น แต่พอถึงปลายเหตุกลับเป็น “พรรคพลังประชารัฐก็ยังคงดูถูกชาวหลักสี่-จตุจักร
ด้วยการส่งภริยาของผู้กระทำความผิดลักลอบเป็น ส.ส.มาให้ประชาชนเลือกซ้ำอีก” ความแค้นต่อสิระแท้ๆ เขาจึงหันไปชูพรรคคไทยภักดี ของ วรงค์ เดชกิจวิกรม แทน เพื่อให้ “ไปสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ นายกรัฐมนตรี ที่ผมเคารพรัก”
เป็นที่ซึมซับรับรู้กันมาพักใหญ่แล้วว่า พรรคพลังประชารัฐในฐานะนักการเมืองหลากพันธุ์ และร้อยพ่อพันแม่ตามแต่ผลประโยชน์ อาจสามารถดีดจากผู้นำที่ติดยึดแต่อำนาจ มีแต่เดชไม่ค่อยมีคุณ เมื่อใดก็เมื่อนั้น อีกไม่นาน อีกไม่นาน
(https://www.matichon.co.th/politics/news_3130540, https://www.matichon.co.th/politics/news_3132798, https://www.khaosod.co.th/politics/news_6829690 และ https://www.facebook.com/nationweekend/posts/10159422617345211)