#สุทธิชัยหยุ่น #มองข้ามช็อต #โควิด
“อู่ฮั่นโมเดล” คืออย่างไร?
Jul 19, 2021
PPTV HD 36
“สุทธิชัย หยุ่น” มองข้ามช็อต เมื่อ อธิบดีกรมควบคุมโรค “นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์” เผยว่าหากภายใน 2 เดือน สถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19 ยังไม่คลี่คลาย เราอาจต้องทำแบบ “อู่ฮั่น” ปิดเมืองคุมโควิด
“อู่ฮั่นโมเดล” จะเกิดขึ้นเมื่อมาตรการล็อกดาวน์ที่จะประกาศใช้ ในวันพรุ่งนี้ กดตัวเลขผู้ติดเชื้อไม่ได้ จนต้องปิดเมืองแบบอู่ฮั่น
2 เดือนนับจากนี้ หากเราไม่ฉีดวัคซีนที่มีประสิทธิภาพ โอกาสที่เราจะหยุดการแพร่กระจายเชื้อของโควิด-19 เป็นไปได้ยาก!!
ล็อกดาวน์ เป็นเพียงการซื้อเวลาเท่านั้น ปลดล็อกเมื่อไหร่ คนเดินทาง การแพร่กระจายเชื้อเกิดขึ้นแน่ ตราบใดที่การกระจายวัคซีนโควิด-19 ที่มีคุณภาพยังไม่ทั่วถึง
โอกาสจะมีวัคซีนคุณภาพ ทันเวลา มีหรือไม่ “สุทธิชัย หยุ่น” วิเคราะห์ความเป็นได้?!
“ถ้าเป็นแบบอู่ฮั่น น่ากลัว นั่นคือปิดเมืองจริงๆ เริ่มด้วยการไม่ให้มีการเดินทางไปมาหาสู่กัน รถไฟ รถเมล์หยุดหมด ออกจากอู่ฮั่นไม่ได้ รวมถึงเมืองที่อยู่ปริมณฑลด้วย คนออกจากบ้านไม่ได้ ให้สมาชิก 1 คนในบ้านเท่านั้นที่ออกจากบ้านได้ ไปซื้อหาอาหารและยา ทุกคนต้องอยู่ในบ้าน มีหน่วยงานส่งอาหาร”
แล้วในพื้นที่ 13 จังหวัดพื้นที่สีแดงเข้มของไปไทย จะเป็นไปได้หรือไม่?
อู่ฮั่นมีวิธีการเยียวยาในตัว แบบไม่ต้องมาลงทะเบียนรับเงิน!!
“อู่ฮั่นปิดเมืองจริงๆ100% 7 วัน อู่ฮั่น มีแผน และยุทธศาสตร์ มีความพร้อม มีกำลังคน ปฏิบัติการนี้ ต้องแน่ใจว่าไม่มีการเล่นเส้น ไม่มีอภิสิทธิ์ชน ไม่มีข้อยกเว้น หวังว่าเราคงไม่ถึงปิดเมืองแบบอู่ฮั่น แต่มีหลายปัจจัยที่อาจนำไปสู่จุดนั้น ไทยเราพร้อมหรือยัง”
“อู่ฮั่นโมเดล” คืออย่างไร?
Jul 19, 2021
PPTV HD 36
“สุทธิชัย หยุ่น” มองข้ามช็อต เมื่อ อธิบดีกรมควบคุมโรค “นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์” เผยว่าหากภายใน 2 เดือน สถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19 ยังไม่คลี่คลาย เราอาจต้องทำแบบ “อู่ฮั่น” ปิดเมืองคุมโควิด
“อู่ฮั่นโมเดล” จะเกิดขึ้นเมื่อมาตรการล็อกดาวน์ที่จะประกาศใช้ ในวันพรุ่งนี้ กดตัวเลขผู้ติดเชื้อไม่ได้ จนต้องปิดเมืองแบบอู่ฮั่น
2 เดือนนับจากนี้ หากเราไม่ฉีดวัคซีนที่มีประสิทธิภาพ โอกาสที่เราจะหยุดการแพร่กระจายเชื้อของโควิด-19 เป็นไปได้ยาก!!
ล็อกดาวน์ เป็นเพียงการซื้อเวลาเท่านั้น ปลดล็อกเมื่อไหร่ คนเดินทาง การแพร่กระจายเชื้อเกิดขึ้นแน่ ตราบใดที่การกระจายวัคซีนโควิด-19 ที่มีคุณภาพยังไม่ทั่วถึง
โอกาสจะมีวัคซีนคุณภาพ ทันเวลา มีหรือไม่ “สุทธิชัย หยุ่น” วิเคราะห์ความเป็นได้?!
“ถ้าเป็นแบบอู่ฮั่น น่ากลัว นั่นคือปิดเมืองจริงๆ เริ่มด้วยการไม่ให้มีการเดินทางไปมาหาสู่กัน รถไฟ รถเมล์หยุดหมด ออกจากอู่ฮั่นไม่ได้ รวมถึงเมืองที่อยู่ปริมณฑลด้วย คนออกจากบ้านไม่ได้ ให้สมาชิก 1 คนในบ้านเท่านั้นที่ออกจากบ้านได้ ไปซื้อหาอาหารและยา ทุกคนต้องอยู่ในบ้าน มีหน่วยงานส่งอาหาร”
แล้วในพื้นที่ 13 จังหวัดพื้นที่สีแดงเข้มของไปไทย จะเป็นไปได้หรือไม่?
อู่ฮั่นมีวิธีการเยียวยาในตัว แบบไม่ต้องมาลงทะเบียนรับเงิน!!
“อู่ฮั่นปิดเมืองจริงๆ100% 7 วัน อู่ฮั่น มีแผน และยุทธศาสตร์ มีความพร้อม มีกำลังคน ปฏิบัติการนี้ ต้องแน่ใจว่าไม่มีการเล่นเส้น ไม่มีอภิสิทธิ์ชน ไม่มีข้อยกเว้น หวังว่าเราคงไม่ถึงปิดเมืองแบบอู่ฮั่น แต่มีหลายปัจจัยที่อาจนำไปสู่จุดนั้น ไทยเราพร้อมหรือยัง”
.....
Siripan Nogsuan Sawasdee
8h ·
กังวลใจว่าต่อจากนี้ ตัวเลขผู้ติดเชื้อในจังหวัดอื่น ๆ นอกกรุงเทพจะสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ เพราะการประกาศปิดเมือง ยกระดับบคุมเข้ม ในกรุงเทพฯ และปริมณฑล รวม 13 จังหวัด ทำให้ประชาชนกระจายกลับภูมิลำเนาเหมือนผึ้งแตกรัง โดยรัฐไม่มีมาตรการคัดกรองใด ๆ รองรับ ประชาชนเหล่านี้จะนำเชื้อเข้าสู่ชุมชน หมู่บ้าน และครอบครัวที่รักโดยไม่รู้ตัวและไม่ตั้งใจ
คุยกับคุณแม่ ซึ่งตอนนี้กักตัวอยู่ในบ้าน เพราะกลายเป็นกลุ่มเสี่ยง (ต่ำ) จากการไปตลาดเช้าประเดี๋ยวเดียว ทำให้ทราบว่า จากอำเภอที่ก่อนหน้านี้ตัวเลขผู้ติดเชื้อคือ 0 กลายเป็นว่าผู้ใหญ่บ้านต้องตั้งศูนย์กักตัวกันโกลาหล
หลายคนพูดถึงอู่ฮั่นโมเดล ขอย้ำจากที่หลายท่านได้เขียนไว้แล้วว่า ความแตกต่างอย่างสำคัญที่ไทยทำไม่ได้อย่างอู่ฮั่น 3 ประการคือ
1. ไทยไม่มีศักยภาพในการตรวจแบบที่จีนทำ จีนระดมตรวจปูพรม มีอุปกรณ์การตรวจที่ระดมสรรพกำลังผลิตเอง
2. ในช่วงห้ามประชาชนออกนอกเคหสถาน เจ้าหน้าที่รัฐแจกจ่ายอาหารทุกบ้าน
3. ฉีดวัคซีนอย่างกว้างขวางโดยเร็ว
หันมาดูประเทศไทย เราไม่มีความพร้อมทั้งอุปกรณ์และเจ้าหน้าที่ ที่จะระดมตรวจเพื่อแยกคนติดเชื้อออกโดยเร็ว Rapid Antigen Test Kits ที่เริ่มให้ซื้อเองได้ ก็ขายในราคาสูงเกินค่าแรงขั้นต่ำต่อวัน จนปัญญาที่ประชาชนจำนวนมากจะเอื้อมถึงซื้อหามาตรวจเอง (ข่าวล่าสุด ว่าจะแจกฟรี ยืนยันไหมคะ ถ้าจริงจะขอบคุณมาก)
เราไม่เคยให้ความรู้เกี่ยวกับการกักตัวที่บ้าน (Home Isolation) ซึ่งอาจกลายเป็นมาตรการจำเป็นในอนาคต อย่างถูกวิธี เพื่อเตรียมความพร้อมทั้งเชิงจิตใจและเชิงกายภาพให้ประชาชนมาก่อน
ที่สำคัญ แม้จะมีโรงงานผลิตวัคซีนในประเทศ แต่ขณะนี้เรามีวัคซีนไม่พอ!!!
สำหรับท่านที่เชื่อมั่นว่าวัคซีนจีนมีคุณภาพสูง เพียงแต่มาเจอเชื้อกลายพันธุ์เดลต้า ประสิทธิภาพเลยลดลงนั้น ดิฉันขอแนะนำให้อ่านข่าวในลิงค์ความเห็นด้านล่าง นักวิทยาศาสตร์จีนยอมรับตั้งแต่ “เดือนเมษายน” ว่าวัคซีนเชื้อตายของจีนมีประสิทธิศักดิ์ต่ำ และขณะนี้จีนก็กำลังหันมาผลิตวัคซีน mRNA แล้ว
ดิฉันเอาใจช่วยรัฐบาล เพราะความสำเร็จในการจัดการวิกฤติโควิด หมายถึงการรักษาชีวิตประชาชนจำนวนมาก
ขอให้ท่านเริ่มบริหารสถานการณ์ด้วยสมอง สติ ปัญญา ความขยัน และหัวใจที่มองเห็นความทุกข์ยากของประชาชนเป็นที่ตั้งเถิด
Siripan Nogsuan Sawasdee
8h ·
กังวลใจว่าต่อจากนี้ ตัวเลขผู้ติดเชื้อในจังหวัดอื่น ๆ นอกกรุงเทพจะสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ เพราะการประกาศปิดเมือง ยกระดับบคุมเข้ม ในกรุงเทพฯ และปริมณฑล รวม 13 จังหวัด ทำให้ประชาชนกระจายกลับภูมิลำเนาเหมือนผึ้งแตกรัง โดยรัฐไม่มีมาตรการคัดกรองใด ๆ รองรับ ประชาชนเหล่านี้จะนำเชื้อเข้าสู่ชุมชน หมู่บ้าน และครอบครัวที่รักโดยไม่รู้ตัวและไม่ตั้งใจ
คุยกับคุณแม่ ซึ่งตอนนี้กักตัวอยู่ในบ้าน เพราะกลายเป็นกลุ่มเสี่ยง (ต่ำ) จากการไปตลาดเช้าประเดี๋ยวเดียว ทำให้ทราบว่า จากอำเภอที่ก่อนหน้านี้ตัวเลขผู้ติดเชื้อคือ 0 กลายเป็นว่าผู้ใหญ่บ้านต้องตั้งศูนย์กักตัวกันโกลาหล
หลายคนพูดถึงอู่ฮั่นโมเดล ขอย้ำจากที่หลายท่านได้เขียนไว้แล้วว่า ความแตกต่างอย่างสำคัญที่ไทยทำไม่ได้อย่างอู่ฮั่น 3 ประการคือ
1. ไทยไม่มีศักยภาพในการตรวจแบบที่จีนทำ จีนระดมตรวจปูพรม มีอุปกรณ์การตรวจที่ระดมสรรพกำลังผลิตเอง
2. ในช่วงห้ามประชาชนออกนอกเคหสถาน เจ้าหน้าที่รัฐแจกจ่ายอาหารทุกบ้าน
3. ฉีดวัคซีนอย่างกว้างขวางโดยเร็ว
หันมาดูประเทศไทย เราไม่มีความพร้อมทั้งอุปกรณ์และเจ้าหน้าที่ ที่จะระดมตรวจเพื่อแยกคนติดเชื้อออกโดยเร็ว Rapid Antigen Test Kits ที่เริ่มให้ซื้อเองได้ ก็ขายในราคาสูงเกินค่าแรงขั้นต่ำต่อวัน จนปัญญาที่ประชาชนจำนวนมากจะเอื้อมถึงซื้อหามาตรวจเอง (ข่าวล่าสุด ว่าจะแจกฟรี ยืนยันไหมคะ ถ้าจริงจะขอบคุณมาก)
เราไม่เคยให้ความรู้เกี่ยวกับการกักตัวที่บ้าน (Home Isolation) ซึ่งอาจกลายเป็นมาตรการจำเป็นในอนาคต อย่างถูกวิธี เพื่อเตรียมความพร้อมทั้งเชิงจิตใจและเชิงกายภาพให้ประชาชนมาก่อน
ที่สำคัญ แม้จะมีโรงงานผลิตวัคซีนในประเทศ แต่ขณะนี้เรามีวัคซีนไม่พอ!!!
สำหรับท่านที่เชื่อมั่นว่าวัคซีนจีนมีคุณภาพสูง เพียงแต่มาเจอเชื้อกลายพันธุ์เดลต้า ประสิทธิภาพเลยลดลงนั้น ดิฉันขอแนะนำให้อ่านข่าวในลิงค์ความเห็นด้านล่าง นักวิทยาศาสตร์จีนยอมรับตั้งแต่ “เดือนเมษายน” ว่าวัคซีนเชื้อตายของจีนมีประสิทธิศักดิ์ต่ำ และขณะนี้จีนก็กำลังหันมาผลิตวัคซีน mRNA แล้ว
ดิฉันเอาใจช่วยรัฐบาล เพราะความสำเร็จในการจัดการวิกฤติโควิด หมายถึงการรักษาชีวิตประชาชนจำนวนมาก
ขอให้ท่านเริ่มบริหารสถานการณ์ด้วยสมอง สติ ปัญญา ความขยัน และหัวใจที่มองเห็นความทุกข์ยากของประชาชนเป็นที่ตั้งเถิด