ไม่แน่นะ อีกหน่อยอาจ ‘ไม่’ มี ‘ผู้ใหญ่ใจดี’ ให้รถเบ๊นซ์ ‘สนธิญา’ เหมือนที่ ‘เรืองไกร’ ได้ไป ๑ คันงามๆ ก็ได้ เหตุเพราะราย ‘สวัสดี’ นอกจากไม่เนียนอย่าง ‘ลีกิจวัฒนะ’ สักนิด แล้วยังยิงผิดเป้าไปเยอะ ในรายชื่อ ๒๐ คนที่ยื่นให้ ผบช.น.ตรวจสอบ
ประกอบด้วยศิลปินและคนดังวงการบันเทิง รุ่นใหม่ วัยกล้า และกำลังก้าวไปข้างหน้าว่องไว ไม่ยอมเป็นสลิ่ม หยุดอยู่กับที่ อ่อนล้าถอยหลัง หรือลิงค่างห้อยโหนโบราณวัตถุ สิ่งชำรุดทางสังคม-การเมืองของโลกยุคอีเล็คโทรนิค ทั้งรัฐมนตรีว่าการดิจิทัลนั่นเอง
สนธิญาอ้างว่าการร้องเรียน (ที่ไม่ใช่แจ้งความ) กับตำรวจครั้งนี้เพราะมีคนดัง จำนวนมาก แสดงความเห็นต่อสาธารณะ “ไม่ตรงกับความเป็นจริง ทำให้ประชาชนได้รับข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง” โดยละไว้ไม่แจงทั้งหมด ความเป็นจริงที่ตนและต้นสังกัดต้องการ
เขาคงแค่ ‘ขานรับ’ การเล่นบทเข็นเรือติดตมของ รมว.ดีอีเอส ชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ ก่อนหน้านี้ที่ออกมาไล่เบี้ย ‘ข่มขู่’ ทั้งการชุมนุมประท้วงวิธีแก้วิกฤตโควิดผิดพลาดของรัฐบาล และการ ‘คอลเอ๊าท์’ ประจานความไร้น้ำยาทางการบริหารของพวกผู้นำ
กระทรวงดิจิทัลส่งคนเข้าไปเป็นสมาชิกติดตามสื่อสังคมต่างๆ เพื่อควานหาและดักจับผู้กระทำผิด “พบว่ามีข้อความที่น่าจะเข้าข่ายให้ตรวจสอบทั้งหมด ๖๗ เรื่อง...จากเฟซบุ๊ก ๕๒ เรื่อง ทวิตเตอร์ ๖ เรื่อง ยูทู้บ ๖ เรื่อง เว็บบอร์ด ๒ เรื่อง และคลับเฮาส์ ๑ เรื่อง”
กำลังหาทางเอาเรื่อง “ความผิดตาม พรบ.คอมพิวเตอร์ฯ มาตรา ๑๔ จำนวน ๔ เรื่อง” โทษจำคุกไม่เกิน ๕ ปี ปรับ ๑ แสนบาท “ผมอยากเตือนผู้ใช้สื่อออนไลน์ทุกคน...(ต่อ) ความผิดตามกฎหมาย” โดยเฉพาะเกี่ยวกับที่ว่า “ทุกวันนี้มีคนตายเป็นจำนวนมากเพราะโควิด...
เป็นความผิดของรัฐบาลแล้วมันจริงหรือไม่” ตรงนี้แหละที่ รมว.สร้างเฟคนิวส์เสียเอง เขาอ้างว่า “ปัจจุบันหากมองภาพรวมในภูมิภาคอาเซียน ประเทศไทยได้รับการฉีดวัคซีนเป็นอันดับ ๒ ในภูมิภาคนี้” ซึ่งเป็นการโป้ปดชนิดด้านๆ
ในเมื่อจากการตรวจสอบกับเว็บไซ้ท์ Our World in Data เครือข่ายมหาวิทยาลัยอ็อกซ์ฟอร์ด โดยสำนักข่าวประชาไท พบว่า “ประเทศภูมิภาคอาเซียนที่มีอัตราการฉีดวัคซีนสูงสุด ๓ อันดับแรก คือ สิงคโปร์ กัมพูชา และมาเลเซีย ส่วนไทยอยู่อันดับที่ ๕ ไม่ใช่อันดับ ๒”
ซึ่งเรื่องนี้ จอมขวัญ หลาวเพ็ชร์ บอกกับทั่นรัฐมนตรีในรายการของเธอว่า “ดิฉันไม่ได้อยากเป็นที่ ๑ หรือที่ ๒ แต่ดิฉันอยากให้ ‘ลูกจ้างประชาชน’ ทำงานให้มันดีกว่านี้อะค่ะ” แค่นั้นไม่พอ ทั่นดันโชว์เอิ่มมอีกตอนเมื่อถูกย้อนว่า
“รัฐมนตรีก็ต้องตรวจสอบคนในรัฐบาลด้วย รัฐบาลบางทีก็ให้ข้อมูลผิด ท่านก็ไปเอาผิดเขาเรื่องเฟคนิวส์บ้างสิคะ” ทั่นอึ้งอยู่ ๑ วิกว่าๆ ก่อนจะอ้อมแอ้มบอกว่า “มีเหรอ ไม่มีนะ” แล้วก็บุ้ยบ้ายอย่างลอยๆ ว่าการทำงานของรัฐบาลมีการตรวจสอบอยู่แล้ว
ถ้าเป็นในแดนฝรั่งไม่ใช่กะลา (มะพร้าว) เขาว่าอย่างนี้พวกคุณเอ็ง ‘pick up a wrong fight’ เลือกเหยื่อฟัดผิดไปน่ะ “พยายามทำสงครามระหว่างวัยกับคนรุ่นใหม่” เช่นที่ Chatechenko Yingkiattikun ชี้ “เลือกฟ้อง Milli นี่รัฐบาลโคตรคิดผิดเลยนะ”
ศิลปินวัย ๑๘ คนนี้ “แม่งคือตัวแทนกลุ่มเยาวชนคนรุ่นใหม่เลย” เขาว่า “จุดติดเลย คนที่ไม่ Call out ก็ออกมาปกป้อง Milli ในเรื่อง Freedom of speech บ้างก็พูดย้ำปัญหาที่รัฐพยายามจะปิดปาก...พวกคุณแม่ง ‘ตกยุค’ ไปแล้ว
คือไม่คาดหวังว่าคุณจะฉลาด แต่ก็เซอร์ไพรส์ที่พวกคุณแม่งโง่ได้ขนาดนี้...กลายเป็นตัวตลกไปแล้วทั้งชัยวุฒิ ทั้งสนธิญา ท้ายที่สุดวันเวลาแม่งจะกลืนกินพวกคุณ ให้เป็นสิ่งชำรุดทางประวัติศาสตร์” ต่างกับระดับ ‘Pop Culture’ ของยุคนี้
“ไอนวยเนี่ย (ชื่อในวงการ) มันไปสร้างชื่อให้ประเทศไทยมาแล้ว” Rap Against Dictatorship โพสต์ด้วย “มันเป็นตัวแทนศิลปินไทยที่ได้รับเลือกให้ไปเล่นเฟสติวัลออนไลน์ของ 88rising ที่ดังมากๆ ระดับโลก...รัฐบาลมึงเคยรู้มั้ย กระทรวงวัฒนธรรมมึงเคยรู้มั้ย ไอ้เหี้ย”
แล้วพวกเขาก็ไม่รอให้ล่มสลายไปเอง บางคนศอกกลับทันที บอกรอหมายเรียกเมื่อไหร่มาถึง จะ “ฟ้องกลับทั้งเจ้าหน้าที่ ทั้งคนแจ้ง” และรับคำขอโทษด้วยการให้ “ออกจากราชการหรือติดคุก นะจ๊ะ” การุณพล เทียนสุวรรณ โพสต์
ส่วน ดนุภา คณาธีรกุล หรือมิลลิ บอกจะไปรับฟังข้อกล่าวหาของ สน.นางเลิ้งวันนี้ “ขอบคุณทุกคนที่ซัพพอร์ตน้องนะคะ กำลังใจมาก ล้มหลามจริงๆ หนูโอเคนะฮะ สบายดี เครียดอย่างเดียวคือไม่รู้จะใส่ชุดไรไป” ทั่นชัยวุฒิอย่าทำเหม่ออีกสิ
(https://prachatai.com/journal/2021/07/94075 และ https://www.youtube.com/watch?v=g2uA_b9W9dM)