Prateepungsongtham Hata
Yesterday at 11:40 AM ·
“จะให้ตายยกครัวหรือไงในสลัม”
เป็นข่าวที่เศร้าสะเทือนใจต่อการจากไปของนายลิขิต(อู๊ด)ทอนสูงเนิน อาสาสมัครดับเพลิงมูลนิธิดวงประทีป อู๊ด อายุเพียง50เศษต้องมาตายด้วยโควิค19เมื่อวันที่23กค.
ทั้งที่วันที่22กค. ก่อนหน้าอู๊ด แม่..นางสมจิต ทองศรีเผือก ก็พึ่งเสียชีวิตด้วยโควิต19
และขณะนี้เมียของอู๊ด นางละไม ทองสูงเนิน ก็ป่วยด้วยโควิต19 กำลังรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลบุษราคัม ลูกสาว ลูกชายก็ป่วย
ขณะนี้ในชุมชนแออัดมีอัตราผู้ป่วยจากโควิต19 ยกครัวกันมากขึ้นเรื่องๆ
อู๊ดเป็นอาสาที่เสียสละและมีน้ำใจ มีความกตัญญูรู้คุณแม่ เมื่อแม่ป่วยก็พยายามหาที่ตรวจเชื้อ เพราะถ้าไม่มีผลยืนยันอย่างเป็นทางการก็ไม่สามารถเข้ารับการรักษาได้
ผลตรวจเชื้อจึงเป็นกำแพงชนชั้น..กัน..คนจนไม่ให้เข้ารับการรักษาได้ง่าย
เมื่อจะไปตรวจหาเชื้อที่โรงพยาบาลเอกชน ค่าตรวจ 3-4พันบาท ซึ่งคนจนขณะนี้ ก็จนหนักมากเพราะสถานประกอบการก็ปิดเสียเป็นส่วนใหญ่จะหาเงินที่ไหนมาเป็นค่าตรวจรับรองว่าติดโควิต
และการตรวจหาเชื้อรับรองของทางการ(ฟรี)ก็ตรวจให้เพียงวันละไม่กี่คนและต้องไปเข้าคิวตั้งแต่ตีสอง ตีสาม
อาการป่วยของนางสมจิตหนักมาก ทางโรงพยาบาลจึงรับรักษาแต่ เพียงไม่กี่วันนางสมจิตเชื้อเข้าทำลายปอดจนหายใจไม่ได้ก็ต้องตายจากไป
เช่นเดียวกับอู๊ด ที่คอยดูแลแม่ ส่งแม่เข้าโรงพยาบาลทั้งๆที่อู๊ดเองก็ป่วยอยู่แต่ไม่มีใบตรวจยืนยันโรงพยาบาลก็ไม่รับรักษา จนสภาวของอู๊ดหนักมาก จึงรับเข้าโรงพยาบาล
แต่อู๊ดก็อยู่ไม่กี่วันอู๊ดก็จากไป
นี่คือภาพสะท้อนความเหลื่อมล้ำที่ชัดเจน ที่คนจนไม่มีเงิน ไม่มีสิทธที่จะซื้อชีวิตของตัวเองและคนในครอบครัวที่เขารักได้
ขอถามดังๆว่าบ้านเมืองนี้ จะมีระบบบริหารที่ดีกว่านี้ได้ไหม หรือใจของพวกเขามืด ดำอำมหิต เห็นชีวิตคนจนเหมือนผักปลา