วันอาทิตย์, กรกฎาคม 25, 2564

“จะให้ตายยกครัวหรือไงในสลัม” ขอถามดังๆว่าบ้านเมืองนี้ จะมีระบบบริหารที่ดีกว่านี้ได้ไหม หรือใจของพวกเขามืด ดำอำมหิต เห็นชีวิตคนจนเหมือนผักปลา




Prateepungsongtham Hata
Yesterday at 11:40 AM ·

“จะให้ตายยกครัวหรือไงในสลัม”
 
เป็นข่าวที่เศร้าสะเทือนใจต่อการจากไปของนายลิขิต(อู๊ด)ทอนสูงเนิน อาสาสมัครดับเพลิงมูลนิธิดวงประทีป อู๊ด อายุเพียง50เศษต้องมาตายด้วยโควิค19เมื่อวันที่23กค.

ทั้งที่วันที่22กค. ก่อนหน้าอู๊ด แม่..นางสมจิต ทองศรีเผือก ก็พึ่งเสียชีวิตด้วยโควิต19

และขณะนี้เมียของอู๊ด นางละไม ทองสูงเนิน ก็ป่วยด้วยโควิต19 กำลังรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลบุษราคัม ลูกสาว ลูกชายก็ป่วย

ขณะนี้ในชุมชนแออัดมีอัตราผู้ป่วยจากโควิต19 ยกครัวกันมากขึ้นเรื่องๆ

อู๊ดเป็นอาสาที่เสียสละและมีน้ำใจ มีความกตัญญูรู้คุณแม่ เมื่อแม่ป่วยก็พยายามหาที่ตรวจเชื้อ เพราะถ้าไม่มีผลยืนยันอย่างเป็นทางการก็ไม่สามารถเข้ารับการรักษาได้

ผลตรวจเชื้อจึงเป็นกำแพงชนชั้น..กัน..คนจนไม่ให้เข้ารับการรักษาได้ง่าย

เมื่อจะไปตรวจหาเชื้อที่โรงพยาบาลเอกชน ค่าตรวจ 3-4พันบาท ซึ่งคนจนขณะนี้ ก็จนหนักมากเพราะสถานประกอบการก็ปิดเสียเป็นส่วนใหญ่จะหาเงินที่ไหนมาเป็นค่าตรวจรับรองว่าติดโควิต

และการตรวจหาเชื้อรับรองของทางการ(ฟรี)ก็ตรวจให้เพียงวันละไม่กี่คนและต้องไปเข้าคิวตั้งแต่ตีสอง ตีสาม

อาการป่วยของนางสมจิตหนักมาก ทางโรงพยาบาลจึงรับรักษาแต่ เพียงไม่กี่วันนางสมจิตเชื้อเข้าทำลายปอดจนหายใจไม่ได้ก็ต้องตายจากไป

เช่นเดียวกับอู๊ด ที่คอยดูแลแม่ ส่งแม่เข้าโรงพยาบาลทั้งๆที่อู๊ดเองก็ป่วยอยู่แต่ไม่มีใบตรวจยืนยันโรงพยาบาลก็ไม่รับรักษา จนสภาวของอู๊ดหนักมาก จึงรับเข้าโรงพยาบาล

แต่อู๊ดก็อยู่ไม่กี่วันอู๊ดก็จากไป

นี่คือภาพสะท้อนความเหลื่อมล้ำที่ชัดเจน ที่คนจนไม่มีเงิน ไม่มีสิทธที่จะซื้อชีวิตของตัวเองและคนในครอบครัวที่เขารักได้

ขอถามดังๆว่าบ้านเมืองนี้ จะมีระบบบริหารที่ดีกว่านี้ได้ไหม หรือใจของพวกเขามืด ดำอำมหิต เห็นชีวิตคนจนเหมือนผักปลา