ถึงแล้ว ๑.๕ ล้านโด๊สเซสวัคซีนไฟ้เซอร์ชุดแรกที่รัฐบาลสหรัฐบริจาค อีก ๑ ล้านจะตามมาภายหลัง รมว. สาธารณสุขเป็นคนไปรับกับมือ แล้วคณะบริหารจัดการออกระเบียบแจกจ่ายทันที เพื่อให้เข้าไปอยู่ในแขนประชากรโดยเร็วที่สุด
ใครเป็นผู้ร้องขอผ่านสถานทูต ใครเป็นคนประสานจัดการให้ได้สองล้านครึ่งและส่งมาถึงทันการ หากเปรียบเทียบระยะเวลาแล้วไวกว่าวัคซีนผลิตได้เองในประเทศ นั้นยังไม่ต้องพูดถึง รอไว้นายกฯ เสร็จสรรพภารกิจรับมอบ มากมายหลายอย่างเสียก่อน
Deep Blue Sea @WassanaNanuam แจ้งว่า บต. จะเข้าทำเนียบเช้าวันจันทร์นี้ (๒ ส.ค.) ทำพิธี ‘รับมอบ’ ไฟ้เซอร์จากอุปทูตสหรัฐ แอสตร้าเซเนก้าจากทูตอังกฤษ บ่ายรอพบรองประธานาธิบดีและ รมว.ต่างประเทศสวิสเซอร์แลนด์ รับมอบเครื่องช่วยหายใจ ATK
จากนั้นไปตึกภักดีบดินทร์ ทำพิธีเปิดรถไฟสายสีแดง ‘บางซื่อ-รังสิต/บางซื่อ-ตลิ่งชัน’ เอี่ยมอ่อง ที่รองโฆษกสำนักนายกฯ โฆษณาชักชวนพี่น้องประชาชนไปทดลองเดินทางกัน เปิดให้ใช้บริการฟรีสามเดือน ไม่ต้องห่วงคลัสเตอร์โควิด เพราะคนละเรื่องกัน
คุณคิตตี้ มินเนี่ยน นักทวี้ต @keng_kitty เธอบอกว่า “ต่างชาติยื่นมือช่วยไทยพร้อมๆ กันหลายประเทศนี้ ไม่ใช่เรื่องบังเอิญค่ะ แล้วเบื้องหลังรัฐบาลก็ทำงานด้านการทูตอย่างหนักเช่นกันค่ะ” โดยเฉพาะซีโนแว็คจากจีนล้านโด๊สเซส และแอสตร้าฯ จากญี่ปุ่นล้านกว่า
จะบอกว่าเรื่องขอให้เขาทำทานรัฐบาลนี้ถนัด ก็เขินน่ะ ส่วนไฟ้เซอร์นั่นหมอทศพร เสรีรักษ์ ชวนเพื่อนพ้องไปร้องขอที่สถานทูตอเมริกัน ตั้งแต่เดือนพฤษภาคมโน่น ซึ่งตอนนั้นทั้ง รมว.สา’สุข และพวกหมอๆ เวชบริกร ต่างยักไหล่ไม่สน จะรอของไทยเก๋กว่า
วันนี้เป็นวันที่คนติดเชื้อรายวันสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ๑๘,๙๑๒ ราย ยอดผู้ตาย ๑๗๘ คน ก็สูงสุดกว่าวันไหนๆ ด้วยเหมือนกัน แม้นว่าอัตรา ‘การติดและตาย’ ช่วงกว่าอาทิตย์ที่ผ่านมา อยู่ในเกณฑ์ ‘หมื่นห้าและกว่าร้อย’ มาตลอด
ระเบียบการแจกจ่ายวัคซีนที่ออกมา ให้ใช้ไฟ้เซอร์สำหรับบุคคลากรทางการแพทย์เท่านั้น ยังไม่วายมีลักลั่น ดัง นพ.สลักธรรม โตจิราการ บอก “ไม่ให้วัคซีนไฟเซอร์กับคนที่ได้วัคซีนเข็มเดียวนี่ไม่สมควรครับ น่าจะให้วัคซีนไฟเซอร์ให้คนที่ได้วัคซีนอื่นเข็มเดียว
หรือคนที่ได้วัคซีนครบมานานเกินสามเดือนในกรณีที่ได้ Sinovac มา หรือ ๖ เดือนถ้าได้ AZ มาครับ” ถ้างั้นไปดูกันในรายละเอียดสักหน่อย เริ่มจากว่าต้องเป็นบุคคลากรที่ปฏิบัติหน้าที่กับผู้ป่วยโควิดโดยตรงเท่านั้น มีชื่อปรากฏในฐานข้อมูลของกระทรวงสาธารณสุข
อันนั้นดีแล้ว ไม่มีใครว่าอะไร พอมาถึงตอนกำหนดให้บุคคลากรผู้จะได้รับไฟ้เซอร์ ฉีดซิโนแว็คมาแล้วสองเข็มเป็นเวลาอย่างน้อย ๔ สัปดาห์ ชักจะเริ่มทะแม่งละสิ ชนิดที่ Thanapol Eawsakul โพล่งเลยทันทีว่าเป็นการจัดสรรวัคซีนแบบ
“ถ้าจะฉีดวัคซีนคุณภาพดี ต้องฉีดวัคซีนคุณภาพห่วยคู่ไปด้วย...มันกลยุทธ์เหล้าพ่วงเบียร์ ที่เสี่ยเจริญ (สิริวัฒนภักดี) เคยทำมาเมื่อ ๓๐ ปีที่แล้ว” เขาว่าตอนนั้นเบียร์เสี่ยเจริญขายไม่ออก แต่เหล้าของเขาดัง ฉะนั้น “ถ้าอยากจะซื้อเหล้าก็ต้องซื้อเบียร์พ่วงด้วย”
การจัดสรรไฟ้เซอร์ล็อตแรกนี่ละม้ายคล้ายกัน ถึงแม้ฉีดซิโนแว็คเข็มแรก แต่ได้แอสตร้าฯ เป็นเข็มสองแล้วก็ไม่ให้ไฟ้เซอร์เป็นบู้สเตอร์ หรือถ้าฉีดซิโนแว็คและแอสตร้าฯ อย่างใดอย่างหนึ่งเป็นเข็มแรกเข็มเดียว จะใช้ไฟเซอร์เป็นเข็มสองตามวิธีผสมของอังกฤษก็ไม่ได้
ข้อเสนอของ นพ.มานพ พิทักษ์ภากร หัวหน้าศูนย์วิจัยเป็นเลิศฯ ศิริราช ที่ว่าวัคซีนไฟ้เซอร์จากอเมริกา ๒.๕ ล้านโด๊สเซส หักไป ๕ แสนสำหรับบุคคลากรทางการแพทย์ด่านหน้าแล้ว ที่เหลืออีก ๒ ล้าน “ให้เอามาใช้ในสูตร AZ เข็มหนึ่ง PZ เข็มสอง”
สำหรับคนทั่วไปในกลุ่มเสี่ยง เช่นคนอายุมากและผู้มีโรคประจำตัว จะทำให้มีประชาชนถึง ๒ ล้านคนได้รับไฟ้เซอร์วัคซีนชั้นดี นัยว่าสูตรนี้จะทำให้กระตุ้นภูมิต้านทานได้ดีกว่า ทว่าข้อเสนอนี้น่าจะเป็นหมัน เพราะการเน้นใช้ไฟ้เซอร์ปิดท้ายซิโนแว็ค
อย่างไรก็ตาม แม้นว่าในระยะหน้าสิ่วหน้าขวาน ที่การติดเชื้อและการตายเพิ่มมากเป็นรายวัน จะมีวัคซีนบริจาคจากชาติต่างๆ สหรัฐ อังกฤษ ญี่ปุ่น จีน รวมแล้วประมาณกว่า ๕ ล้านโด๊สเซส ถ้าการจัดสรรยังลักลั่น ตัดบัวไม่ขาดกับวัคซีนด้อยคุณภาพ ราคาแพง
หรือมีการเอารัดเอาเปรียบ มีเส้นสายฝากคนไข้ โดยระดับอาจารย์แพทย์ ดังมีนักเรียนแพทย์บ่นออกสื่อสังคมละก็ ความพยายามที่จะเปิดประเทศให้จงได้ รับนักท่องเที่ยวฤดูหน้าตอนปลายปี ระวังจะกลายเป็นมิคสัญญียิ่งกว่าบราซิลและอินเดีย
(https://www.facebook.com/thestandardth/posts/2809681042658103 และ https://news.thaipbs.or.th/content/306550)