วันพฤหัสบดี, กรกฎาคม 29, 2564

ไทยรัฐทำอันนี้ดี ไปสัมภาษณ์คนที่มาฉีดวัคซีน กลุ่มนึง 70 คน ช่วยกันออกเงิน เหมารถกันมาจากกาญจนบุรี สรุปคือจองผ่านระบบปกติไม่ได้ เลยต้องถ่อกันมาถึงบางซื่อ สรุปคือคนไทยตื่นตัวมาก ช่วยเหลือกันเองทุกอย่าง ขาดอยู่อย่างเดียวนั่นแหละคือ วัคซีน

เบื้องหน้าคือคลื่นมหาชน เบื้องหลังก็คลื่นมหาชน หรือความจริงคือรอบๆ ตัวนั้นเต็มไปด้วยผู้คนมากมาย จุดเกิดเหตุการณ์วันนี้เหมือนภาพซ้ำที่ศูนย์ฉีดวัคซีนสถานีกลางบางซื่อ ที่ทุกคนต่างลืมความสำคัญของการเว้นระยะห่าง เพื่อป้องกันโรคแพร่ระบาด เพราะมีเรื่องสำคัญกว่าที่ต้องลุ้นอยู่ตรงหน้า คือการได้ฉีดวัคซีนโควิด-19 ให้ได้


เหมือนอย่างที่ชาวบ้านกลุ่มหนึ่งประมาณ 70 คน ส่วนใหญ่คือผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป จากเทศบาลตำบลพระแท่นลำพระยา อ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรี ออกจากบ้านมาตั้งแต่เช้ามืด ขึ้นรถตู้พร้อมเสบียงข้าวเหนียว หมูปิ้ง ไก่ย่าง ใช้เวลาเดินทางเกือบ 2 ชั่วโมง ก็มาถึงที่ศูนย์ฉีดวัคซีนสถานีกลางบางซื่อ แม้จะเจอคนจำนวนมหาศาล แต่ก็รอ และเมื่อได้ฉีดแล้วบ่ายๆ ก็รวมตัวกันกลับบ้าน

ภารกิจพาชาวบ้านมาครั้งนี้ นายจอน สุทธิบุตร นายกเทศมนตรีตำบลพระแท่นลำพระยา เล่าที่มาที่ไปว่า ในพื้นที่ตำบลพระแท่นลำพระยามีประชากรอยู่ประมาณ 3,000 คน มีผู้สูงอายุ 600 คน ที่ผ่านมาเกือบทั้งหมดยังไม่ได้ฉีดวัคซีน และยังไม่มีความชัดเจนว่าจะได้ฉีดเมื่อไร แม้จะมีการแจ้งชื่อกับอาสาสมัครประจำหมู่บ้าน และลงทะเบียนไปบ้าง แต่ก็ยังไม่มีความคืบหน้า

เมื่อชาวบ้านได้ยินว่า ที่ศูนย์ฉีดวัคซีนสถานีกลางบางซื่อเปิดให้ผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไปวอล์กอิน หรือเดินทางมาฉีดได้โดยไม่ต้องลงทะเบียน จึงสนใจ และที่ต้องเร่งมาเพราะมีข่าวว่าที่ศูนย์ฉีดวัคซีนสถานีกลางบางซื่อจะปิดไม่ให้วอล์กอินแล้ว โดยมีถามกันล่วงหน้าประมาณ 2 วันว่าใครจะไปบ้าง ซึ่งบางหมู่บ้านก็สนใจ แต่บางหมู่บ้านก็ไม่พร้อมจะไป

ครั้งนี้เป็นการดำเนินการพาชาวบ้านมาครั้งแรก มีชาวบ้านไปประมาณ 70 คน โดย 90% เป็นผู้สูงอายุ ส่วนที่เหลือเป็นผู้ติดตามมาช่วยเหลือ เผื่อต้องกรอกเอกสารที่ผู้สูงอายุทำเองไม่คล่อง ส่วนค่าใช้จ่ายเป็นค่ารถตู้ คันละ 2,000 บาท ที่สมาชิกสภาเทศบาลตำบลช่วยกันออกให้ บางคนช่วย 1,000 บางคน 2,000 บาท ได้มาหมื่นกว่าบาท ก็เพียงพอค่ารถตู้ 6-7 คัน และของกิน น้ำ ระหว่างทางบ้าง แต่ถ้าแวะกินข้าวชาวบ้านก็ออกเอง



ตอนนี้ยังไม่สามารถเบิกงบประมาณมาใช้อย่างอื่นได้มากนัก เพราะต้องกันงบประมาณ 1 ล้านบาท เพื่อจ่ายค่าซื้อวัคซีนซิโนฟาร์ม ที่ขอจองไว้ฉีดให้ชาวบ้านอายุ 18 ปีขึ้นไป โดยเบื้องต้นขอจองไปสำหรับ 400 คน และยังต้องกันงบส่วนหนึ่งสำหรับการตั้งศูนย์พักคอยผู้ติดเชื้อโควิด-19 อีกด้วย

ที่ตำบลพระแท่นลำพระยา ที่มีประชากรอยู่ประมาณ 3,000 คน มียอดผู้ติดสะสมตั้งแต่ปีที่แล้วกว่า 40 ราย เสียชีวิต 4 ศพ ขณะนี้พักรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลที่ตัวอำเภอ 19 ราย และในช่วง 14 วันที่ผ่านมา ยังพบผู้ติดเชื้อ 4-5 ราย ที่เดินทางมาจากกรุงเทพมหานคร และสมุทรปราการ แต่ยังไม่ได้แพร่ระบาดวงกว้าง เพราะเมื่อเดินทางมาจากพื้นที่สีแดงเข้ม ก็เข้าสู่ขั้นตอนการตรวจหาเชื้อ และกักตัว 14 วัน



ทำอย่างไรภาพเหล่านี้จะไม่เกิดขึ้น คำตอบที่ชัดเจนที่ไม่ต้องเป็นผู้บริหาร หรือระดับรัฐมนตรีตอบ ก็คือ ต้องมีการกระจายวัคซีนอย่างทั่วถึง เพราะสถานการณ์แบบนี้ ถ้าเลือกได้คงไม่มีใครอยากเดินทางมาด้วยความลำบาก ต้องมาเสี่ยงเจอผู้คนมากมายในช่วงโรคกำลังระบาดหนัก ซึ่งชาวบ้านตำบลพระแท่นลำพระยา จ.กาญจนบุรี ไม่ใช่แค่คนกลุ่มเดียวที่มากันในวันนี้ แต่ยังมีคนไทยอีกหลายตำบล รอบเมืองหลวงที่พากันมา ด้วยความหวังในการดูแลสุขภาพของตัวเองให้รอดพ้นจากโควิด-19 ให้ได้

https://www.thairath.co.th/scoop/theissue/2151795