ธำรงศักดิ์ เพชรเลิศอนันต์
15h ·
การสังหารหมู่คนลาวอีสานโดยทหารไทยบางกอกที่มี 100 คนที่มีอาวุธปืนยาวสมัยใหม่และปืนใหญ่สมัยใหม่เมื่อ 4 เมษายน 2445 ที่บ้านสะพือ อุบล คนลาวอีสานที่มีเพียงมีดพร้าและนั่งภาวนา ถูกยิงตายที่นี่ 300 กว่าคน จาก 9 โมงเช้าถึงราวบ่ายโมง ถูกจับร้อยโซ่ใส่ขื่อคากว่า 400 คน
นี่คือภาพทุ่งสังหารคนลาวอีสานที่รวมตัวกันเป็นกลุ่มผู้มีบุญกว่าพันคนในวันนั้น (ภาพจาก the Isaan Record กรกฎาคม 2564)
พระญาณรักขิต (ศิริจันโท จันทร์ ต่อมาคือ พระอุบาลีคุณูปมาจารย์ เกจิชื่อดังสายธรรมยุติแห่งอุบล) ขณะนั้นเป็นเจ้าคณะมณฑลอีสาน ผู้อำนวยการการศึกษามณฑลอีสาน วัดสุปัฏ อุบล
ได้บันทึกภาพที่ได้ทราบด้วยตัวอักษร เขียนให้ กรมขุนสรรพสิทธิประสงค์ ข้าหลวงใหญ่ต่างพระเนตรจากกรุงเทพที่มณฑลอีสาน ผู้แทนกษัตริย์สยามรัชกาลที่ 5 รับทราบว่า
ฝ่ายประชาชนคนลาวอีสาน "ตั้งใจจะพากันตายให้ดูเท่านั้น"
เพราะ"เมื่อกองทัพ (ไทย) ยกเข้ามาประชิด เขาเตือนกันว่าใครอย่ายิงอย่าทำอะไรหมด ให้นั่งภาวนา"
ดังนั้น ทหารไทย "เราก็ยิงแต่ข้างเดียว เอาไชยชนะได้"
พระญาณรักขิตเขียนสรุปว่า "การเอาชนะกับคนตายพันนั้น อาตมายังเห็นว่าไม่น่าอัศจรรย์"
("การสร้างความปรองดองระหว่างสยามกับท้องถิ่นหลังความขัดแย้งกรณีกบฏผู้มีบุญอีสาน 2444-2445" งานวิจัยโดย ปริญ รสจันทร์ เกศินี ศรีวงค์ษา และ อมรรัตน์ นาคเสพ คณะครุศาสตร์ มรภ.ร้อยเอ็ด 2555, หน้า 141-142.)
กองทัพไทยยิงคนลาวอีสานกลุ่มผู้มีบุญกว่าพันคนที่นั่งภาวนาตายเกลื่อนกราดที่ตรงนี้
ยิ่งอ่านยิ่งรับฟัง รู้สึกยิ่งเศร้ากับชีวิตประชาชนคนลาวอีสาน 120 ปีมาแล้ว ดูแล้วชะตากรรมชีวิตคนไทยเราไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปเลย.