Nurses Connect
13h ·
พรุ่งนี้แล้ว ที่เราจะนำเสียงของเพื่อนเราไปส่งให้ถึงมือสภาการพยาบาลและกระทรวงสาธารณสุข
พรุ่งนี้แล้ว ที่เราจะได้พูดคุยกับคนที่มีหน้าที่โดยตรงในการเรียกร้องและต่อรองกับผู้มีอำนาจเพื่อคนในหน่วยงานของตนเองและเพื่อประชาชน
พรุ่งนี้แล้ว ที่เราจะได้นำความเดือดร้อนของเพื่อนเรา พี่น้องเรา ไปให้คนที่ดูเหมือนจะปิดหูปิดตา มองไม่เห็นปัญหาเชิงโครงสร้างมาเป็นระยะเวลาเกือบสองปีตั้งแต่มีการแพร่ระบาดของโควิด
พรุ่งนี้แล้ว ที่เราจะยืนยันข้อเรียกร้องของเรา จะต้องไม่มีเพื่อนเราเจ็บป่วยหรือเสียชีวิตจากความล่าช้าที่จะได้รับการป้องกันความเสี่ยงที่มีประสิทธิภาพ
ทำเพื่อเพื่อนของเรา ที่เจ็บป่วยทั้งกายและใจ
ทำเพื่อเพื่อนของเรา ที่ต้องเสียชีวิตจากมาตรการการจัดการกับโรคระบาดของรัฐที่ไร้ประสิทธิภาพ
ทำเพื่อเพื่อนของเรา ที่ถูกกดดันจากสภาพแวดล้อมในที่ทำงานที่ไม่เป็นมิตร
ทำเพื่อเพื่อนของเรา ที่ยังไม่ได้รับค่าแรงที่เป็นธรรม ถูกเอาเปรียบเป็นเวลานาน
ทำเพื่อเพื่อนของเรา ที่ไม่ได้รับสวัสดิการที่ดีเพียงพอทั้งๆที่เผชิญความเสี่ยงสูง
ทำ เพื่อที่จะประกาศว่า เราจะไม่ยอมส่งต่อสังคมแบบนี้ต่อไปอีกในอนาคต!
เราเชื่อว่า การสบตากับปัญหาอย่างซื่อตรง ยอมรับ และแก้ไขมัน กล้า'เรียกร้อง' ต่อกรกับผู้มีอำนาจกว่า เพื่อคนในปกครองของตนเอง เป็นความกล้าหาญอย่างถึงที่สุด ที่เราหวังว่าจะมีในตัวผู้นำของเรา
เราหวังเช่นนั้นแล
พบกันพรุ่งนี้ 10 นาฬิกา!
#30กรกฎาไปสภาการพยาบาล
#ภาคีพยาบาล
PS.พี่น้องพยาบาลคนไหนสะดวกเดินทางไปด้วยกัน ติดต่อได้ที่กล่องข้อความเลยนะคะ
Nurses Connect
8h ·
พวกเราตัวแทนของบุคลากรด่านหน้า ทั้งแพทย์ พยาบาล ช่างเทคนิค รังสี เวรเปล เจ้าหน้าที่ท่านอื่นๆ ที่ปฏิบัติงานในโรงพยาบาลและสัมผัสกับผู้ป่วย ร่วมกับประชาชนกว่า 62,000 คนที่ลงชื่อผ่านแคมเปญ change.org/VaccineWeTrust รวมทั้งประชาชนที่แสดงพลังผ่าน #เก็บไฟเซอร์ไว้ให้ใคร ขอให้กระทรวงสาธารณสุข มีความชัดเจนในแผนกระจายวัคซีนไฟเซอร์ ดำเนินงานด้วยความโปร่งใสและกระจายวัคซีนให้ถึงมือผู้ควรได้รับตามความเสี่ยงและความจำเป็น
หมอไม่ทน, ภาคีบุคลากรสาธารณสุข, Nurses Connect, สมาพันธ์นิสิตนักศึกษาแพทย์นานาชาติแห่งประเทศไทย (IFMSA-Thailand), DNA บุคลากรทางการแพทย์และอาสาสมัคร, นิสิตนักศึกษาแพทย์เพื่อประชาธิปไตย และภาคีเทคนิคการแพทย์ จึงขอเรียกร้องต่อกระทรวงสาธารณสุข ดังนี้
1. นำวัคซีน mRNA มาเป็นวัคซีนหลักให้ประชาชนคนไทยทุกคน
2. ชี้แจงและเปิดเผยข้อมูลว่ามีบุคลากรฯ ได้รับวัคซีน AstraZeneca เป็นบูสเตอร์โดสจำนวนเท่าใด และยังเหลือบุคลากรฯ ที่ยืนยันจะรับ Pfizer เป็นจำนวนเท่าใด รวมถึงแจ้งความคืบหน้าในการรับวัคซีน
3. นำข้อมูลสำคัญที่จะพิสูจน์ความโปร่งใสกลับมาบรรจุในระบบ Cold-chain tracking นั่นคือเส้นทางการกระจายวัคซีนโดยระบุยี่ห้อและล็อตต่างๆ ของวัคซีน และเปิดให้ประชาชนทุกคนเข้าถึงข้อมูลได้ง่าย เพื่อแสดงความรับผิดชอบของรัฐต่อประชาชน และให้ประชาชนได้เข้ามามีส่วนร่วมในการก้าวข้ามวิกฤต
4. มีความชัดเจนในการสื่อสารข้อมูลต่างๆ แก่ประชาชน ด้วยการรายงานความคืบหน้าในการจัดสรรวัคซีนพร้อมหลักฐานยืนยันอย่างสม่ำเสมอเพื่อไม่ให้เกิดความสับสนและความไม่มั่นใจ โดยข้อมูลที่สื่อสารจากแต่ละแผนกของหน่วยงานราชการ ควรเป็นข้อมูลที่สอดคล้องกัน
โดยในพรุ่งนี้ พวกเราจะไปยื่นหนังสือแสดงข้อร้องเรียนต่อกระทรวงสาธารณสุข เวลา 11.00 ขอให้ประชาชนร่วมถามไปพร้อมกันผ่านทางโซเชียลมีเดียทุกท่านผ่าน hashtag #เก็บไฟเซอร์ไว้ให้ใคร เพราะพวกเราทุกคนต้องการความโปร่งใส
เครือข่ายบุคลากรสาธารณสุข
29 กรกฎาคม 2564
บันทึก Live คุยกับบุคลากรทางการแพทย์ ว่าด้วยข้อเรียกร้องความโปร่งใสในแผนกระจายวัคซีนไฟเซอร์ https://t.co/rsNJBJpRv6
— prachatai (@prachatai) July 29, 2021