เหตุจากหนังสือราชการด่วนมาก ที่ กห ๐๓๑๒.๓/๒๑๘ “ขอรับการสนับสนุนวัคซีนป้องกันโรคโควิด-๑๙ Moderna จากสภากาชาดไทย เพื่อลดความเสี่ยงในการแพร่ระบาดของโรค ให้กับกำลังพลและครอบครัว” มีรายชื่อแนบไปเสียด้วยว่าใครมั่ง
เรื่องมันฮือฮามาสองสามวัน จน “ผู้บัญชาการทหารสูงสุดสั่งสอบข้อเท็จจริง” แต่ให้รองโฆษกกองทัพไทยออกมาแก้ต่างไว้ก่อน ไม่ปฏิเสธนะว่าเป็นเอกสารจริง แต่ว่านั่น “ไม่ใช่ลักษณะหนังสือราชการที่ส่งไปหน่วยงานภายนอก”
ประชาชนทั่วไปก็งงสิ หนังสือตราครุฑเขียนถึงเลขาธิการสภากาชาดไทย ไม่ใช่ส่งให้ ‘หน่วยงานภายนอก’ แล้วสภากาชาดเป็นอะไร หน่วยงานภายในหรือไม่ใช่หน่วยงาน สำนักเลขาฯ เนี่ยนะ ขนาดเป็นกรมสารบรรณ ใช้ภาษาเหมือนเพิ่งหัดอ่านเขียน
ก็รู้ละอยากได้วัคซีนดีๆ
เหมือนที่ชาวบ้านทั้งหลายอยากได้ แต่ใช้อำนาจบาตรใหญ่ตัดหน้าคนทั่วไป
ถ้าไม่มีการจับผิดได้ หน่วยเหนือจะรู้ไหมหนอว่ามีการทำหนังสือราชการส่งไปภายนอก
อย่างไม่เป็นทางการ และ/หรือจะมีการสอบสวนเกิดขึ้นไหม
อย่างนี้ทำให้เสียงพูดหนาหูยิ่งขึ้นทุกวัน ไม่ได้กระซิบกระซาบเหมือนก่อนแล้ว ว่า ‘ทหารกับวัง’ เป็นสององค์กรที่เอาเปรียบประชากรภาคส่วนอื่นๆ กอบโกยงบประมาณเป็นว่าเล่น ไม่คำนึงว่าประเทศกำลังตกอยู่ในภาวะย่ำแย่ ทั้งในเรื่องปากท้องและโรคภัย
แม้ไม่ต้องพาดพิงว่าโดยน้ำมือของใคร ทำให้เห็นภาพปรสิตเกาะกินบนหลังจังงังขึ้นมาแล้วสิ ยิ่งเมื่อประชากรยากไร้ด้วยภาวะเศรษฐกิจฝืดเคือง การทำมาหากินถดถอยมาตลอด ๗ ปี แล้วมาโดนพิษโควิดที่รัฐบาลนี้ไม่มีปัญญาแก้ไข อาการบักโกรกยิ่งทับทวีคูณ
ดูตัวอย่างเดียวในจำนวนมากหลายที่ฝ่ายค้าน (โดยเฉพาะพรรคก้าวไกล) พยายามท้วงติง เรียกร้องให้มีการปรับแก้แล้วไม่เคยได้รับการใส่ใจ แต่ละอย่างล้วนชี้ชัดถึงการเอาเปรียบ โดยสององค์กรขนาดใหญ่ที่สุด (กองทัพ) และร่ำรวยที่สุด (ทรัพย์สินในพระมหากษัตริย์)
ล่าสุดในกรณีที่ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล เสนอให้แขวนงบประมาณ ‘ส่วนราชการในพระองค์’ สำหรับปี ๒๕๖๕ จำนวน ๘,๗๖๑ ล้านบาทเอาไว้ก่อน ขณะประชากรกำลังขัดสนหนักในวิกฤตโควิด แต่คนของรัฐบาลกลับต้องการรวบยอด
วิเชียร ชวลิต ประธานกรรมาธิการร่วมของพรรครัฐบาล พปชร. กลับขอผ่านงบฯ ไปก่อนเลย แล้วค่อยกลับมาชี้แจงภายหลังในปีหน้า ทำให้พิธาท้วงติงว่างบประมาณสำหรับส่วนราชการในพระองค์นี้ มีลักษณะไม่ค่อยโปร่งใสอยู่แล้ว ยังจะผลักดันหลบการตรวจสอบไปอีก
“ผมคิดว่าต้องมีคนมาชี้แจง ต้องให้ผู้รับผิดชอบงบประมาณมาชี้แจง ไม่ว่าจะเป็นเลขาธิการนายกรัฐมนตรีหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง” วงเงินตั้งใกล้จะ ๙ พันล้าน มีเอกสารรองรับเพียง ๗ แผ่น ไม่มีรายละเอียดชี้แจงว่าจะเอาเงินไปทำอะไรบ้าง
แม้นว่างบประมาณส่วนนี้จะเพียงส่วนหนึ่งในจำนวนงบประมาณสำหรับสถาบันกษัตริย์ทั้งสิ้น ๓.๓ หมื่นล้าน ที่กระจายไปตามกระทรวงต่างๆ นำไปใช้กันอย่างสบายมือ ปลอดโล่งจากกระบวนการตรวจสอบ มิหนำซ้ำการคงอยู่ของส่วนราชการนี้เหมือนปีศาจ
iLaw เผยแพร่รายงานเมื่อวันก่อน ทำความรู้จักกับ “องค์กรที่ตั้งด้วยกฎหมายที่ออกในยุคคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) รับงบประมาณจากรัฐ แต่ไม่ใช่ส่วนราชการ ไม่ใช่หน่วยงานของรัฐ ระบบกฎหมายอื่นเข้าไปตรวจสอบไม่ได้” นี้ว่า
“เปิดช่องให้พระราชอำนาจของพระมหากษัตริย์ ก้าวล่วงขัดกับหลักการของระบอบประชาธิปไตย” แม้แต่แบบไทยๆ “อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข” ด้วยก็ตาม
(https://prachatai.com/journal/2021/07/94095, https://www.facebook.com/thestandardth/posts/2803051889987685 และ https://prachatai.com/journal/2021/07/94103)