อุตส่าห์กลั้นใจพูดคำว่า “เสียใจ...พยายามแก้ปัญหาอุปสรรคที่มีมากมาย” ก็ยังไม่วาย “ต้องมีความร่วมมือระหว่างกันด้วยข้อมูลข้อเท็จจริงที่ตรงกันถึงจะแก้ปัญหาได้” แต่ข้อเท็จจริงตอนนี้ก็คือ ไทยเป็นอันดับหนึ่งจำนวนผู้ติดเชื้อ
ไม่ใช่ “ตัวเลขต่างๆ ของเพื่อนบ้าน...มีหลายประเทศ มากกว่าเราหลายเท่า” อย่างที่เขา (ฟายตู่) หลอกลวง ไม่ต้องไปดูที่ไหน วันนี้จำนวนผู้ติดเชื้อในไทยอีก ๑๗,๓๔๕ ราย ตายใหม่ ๑๑๗ คน เมื่อวานติดเพิ่ม ๑๗,๖๖๙ ราย ที่ไม่รอดมีถึง ๑๖๕ คน
การให้ ผอ.นัทสัมภาษณ์อัดเทปเมื่อคืนนี้ ไม่มีอะไรมากไปกว่ารักษาผิวของตนเองเท่านั้น ยังคงผลักไสความผิดไปที่ประชาชน “สิ่งสำคัญคือความร่วมมือในการปฏิบัติ หากยังมีการทำในสิ่งที่ห้าม ก็จะแก้ปัญหาไม่ได้” แต่ปัญหาจริงๆ มันอยู่ในสิ่งที่ห้ามนั่นแหละ
“รัฐบาลขยายอำนาจปิดเน็ต-ปิดไอพีแอดเดรส-ยัดคดีประชาชน ติดดาบ กสทช. อำนาจเต็มแบนสื่อ-ยัดคดีอินฟลูเอนเซอร์-สกัดดาราแสดงออก -ปิดกั้นเพจ-ปิดปากประชาชน” ดังที่ sirote klampaiboon @sirotek สรุปไว้บนทวิตเตอร์
ทำให้กระทั่ง ส.ส.พรรครัฐบาล ในเครือข่ายสื่อใหญ่รายหนึ่ง ยังต้องออกมาทัดทาน แสดงการเห็นพ้องกับกลุ่ม ๖ สมาคมสื่อมวลชน ที่แถลงการณ์ “คัดค้านคำสั่งของนายกรัฐมนตรีฯ ว่าการกระทำดังกล่าวเท่ากับเป็นการปิดปากสื่อมวลชน ซึ่งไม่ต่างจากการปิดหูปิดตาประชาชน”
วทันยา วงษ์โอภาสี ส.ส.พลังประชารัฐโพสต์ยาวถึงมาตรการล่าสุด ว่าเป็น “การจำกัดสิทธิและเสรีภาพ ของพลเมืองไทย” และว่าการเอาแต่บังคับใช้กฎหมายจะไม่แก้ปัญหาได้ดังที่หวัง น่ากลัวยิ่งกว่าคือ การที่ผู้บริหารประเทศไม่ได้ยินเสียงากประชาชน
เป็นไปได้ที่มาดามเดียร์พูดอย่างนี้ เพราะการเหลิงอำนาจของทีมงานประยุทธ์ ล้ำเส้นเสรีภาพ และเข้าเนื้อสื่อสายหลักในเครือ ‘นิวส์เน็ตเวิร์ค’ ของเธอและฉาย บุนนาค ผู้เป็นสามี ไม่เท่านั้นการออกคำสั่งสถานการณ์ฉุกเฉินฉบับที่ ๒๙ นี้ยังไม่ถูกต้องในทางเทคนิค
“รัฐโยนเผือกร้อนให้ กสทช.และ ISPs แล้วล่ะ ทางปฏิบัติทำได้ไหมคะ” Supinya Klangnarong@supinya อดีต กสทช.ท้วงทันที “ทุกวันนี้คนที่สั่งระงับเพจหรือโพสต์ต่างๆ ใน social media ก็คือตัวแพล็ตฟอร์มเอง หรือมีคำสั่งจากศาลไป”
ไม่ใช่ กสทช.และเจ้าหน้าที่ตำรวจ “ถ้ารัฐคิดว่าการปิดกั้นจะทำให้เกิดความกลัว ผลที่ออกมามักจะตรงกันข้ามเสมอ ลองดูย้อนทุกรัฐบาลในอดีตที่ผ่านมา” อดีตนักกิจกรรมต้านระบอบทักษิณ คู่คิดคู่เคียงของ สุริยะใส กตะศิลา อดีตแกนนำ พธม. ส่งเสียงทวี้ต
ในด้านความชอบธรรมตามกฎหมายของคำสั่งดังกล่าว เป็นที่น่ากังขายิ่งว่าเป็นการฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญ และขัดกับคำวินิจฉัยของศาลอาญาในประเด็นนี้ ดังที่ นรเศรษฐ์ นาหนองตูม ทนายสิทธิมนุษยชนอธิบายไว้ ถึงเนื้อหา รธน.๖๐ มาตรา ๓๕ และ ๓๖
เขาระบุว่า “อำนาจสั่งให้ระงับการให้บริการอินเตอร์แก่เลขที่อยู่ไอพี (IP address) นั้นทันที แม้จะไม่อยู่ในสถานการณ์ฉุกเฉินร้ายแรง” เป็นการ “ขยายอำนาจให้แก่ กสทช. ให้มีอำนาจมากกว่าอำนาจของศาลที่กำหนดไว้ตาม พรบ.คอมฯ”
อีกทั้ง “ยังมีลักษณะปิดกั้นการสื่อสารในอนาคตด้วย เพราะปิดกั้นอินเตอร์เน็ตไปโดยไม่มีกำหนดเวลาไว้แต่อย่างใด ซึ่งขัดต่อแนวคำวินิจฉัยของศาลอาญา” เขาเสนอให้ ‘ประชาชน’ “ควรจะยืนยันเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญ ด้วยการฟ้องเพิกถอนข้อกำหนดฉบับดังกล่าวโดยเร็ว”
แต่จะทำได้หรือไม่ แค่ไหน ทีมของประยุทธ์ก็ลุกล้ำอย่างเหลิงไปมากเกินการแล้ว ทิพานัน ศิริชนะ ประจำสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี รับลูก ชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีดีอีเอส ออกแถลงว่าการที่มีคลิปผู้ป่วยโควิดล้มตายตามข้างถนนจำนวนมากนั้น
“น่าสงสัยว่าเป็นการรับจ้างไปนอนล้มในสถานที่ต่างๆ เพื่อถ่ายภาพและส่งคลิป...ต้องเอาผิดกับผู้เกี่ยวข้องทั้งขบวนการ...เข้าข่ายฝ่าฝืนข้อ ๑๑ แห่งข้อกำหนดฉบับที่ ๒๗” พรก.ฉุกเฉิน โทษปรับ ๔ หมื่น คุก ๒ ปี หรือผิด พรบ.คอมพิวเตอร์ คุก ๕ ปี ปรับ ๑ แสน
กลับปรากฏว่าคลิปชายนอนดิ้นบนถนนริมทางเท้าเมื่อ ๒๖ ก.ค. ซึ่งใช้อ้างว่าเป็นขบวนการรับจ้างนั่น แท้จริง มีโรคลมชัก ผู้พบเห็นหวาดระแวงว่าเป็นอาการป่วยจากโรคโควิด ภายหลังเมื่อหายชัก มีภาพเขานอนอยู่อีกที่ในเสื้อผ้าชุดเดียวกัน ก็เพราะเขาเป็นคนไร้บ้าน
Chatechenko Yingkiattikun ตั้งข้อสังเกตุไว้น่าคิด ว่าการออกมากล่าวหาประชาชนทำเฟคนิวส์ ของ รมว.ดีอีเอส และทีมเลขานายกฯ รวมทั้ง นัทรียา ทวีวงศ์ อดีตผู้อำนวยการสำนักโฆษกฯ และ วรัชญ์ ครุจิต ที่ปรึกษาการสื่อสาร ศบค. นักวิชาการสื่อจากนิด้า
เป็นกระบวนการ “เล่นงานฝั่งตรงข้าม ปั่นข่าวอวยนาย และผูกขาด 'ความจริง'” กันเสียเอง โดยพาะวรัชญ์ นั่นเจ้ากี้เจ้าการ ‘จับผิดสื่อ’ ต่อรายการ ‘เล่าข่าว’ ของ สรยุทธ สุทัศนะจินดา อย่างมั่วซั่วงี่เง่า ท้ายสุดโดนโต้กลับด้วยข้อเท็จจริง จนต้องแถลงขอโทษ
กระนั้นก็ยังไม่สำนึก เขาหันไปเล่นงานรายการของ จอมขวัญ หลาวเพชร์ ต่อ “สอนวิธีการเป็นพิธีกร แบบไม่เอียงตกขอบ” ชาวบ้านรอดูกันอยู่ว่าเขาจะโดนศอกกลับขนาดไหน แต่ที่แน่ๆ เป็นที่ประจักษ์แจ้งแล้วว่า เขาก็แค่อีกหนึ่งในมือป่วน ปกป้องรัฐบาลประยุทธ์
(https://www.facebook.com/permalink.php?story_fbid=1997921490374481&id=100004699487419, https://www.facebook.com/ronsan.huadong/posts/4192985874128042, https://www.facebook.com/TERODigital/posts/4234318366654819 และ https://www.matichon.co.th/politics/news_2856925)