
iLaw
17 hours ago
·
สมาชิกวุฒิสภา (สว.) ที่ถูกเรียกว่า "คนขายหมู" นั้นชื่อแดง กองมา กลุ่มที่ 10 จากจังหวัดอำนาจเจริญ อาชีพขายหมูไม่ได้มีปัญหา เพราะระบบของสว. ชุดนี้คัดเลือกคนจากการแบ่ง "กลุ่มอาชีพ" จึงควรต้องมีคนทุกอาชีพได้มาเป็นสว. แต่ปัญหาคือ มีการตรวจสอบคุณสมบัติหรือไม่ เพราะอาจสมัครผิดกลุ่มอาชีพ
อ่านเต็มๆได้ทาง https://www.ilaw.or.th/articles/40267
.
นันทนา นันทวโรภาส สว. อีกคนหนึ่งกำลังถูกสอบสวนเรื่อง "มาตรฐานจริยธรรม" จากการเรียกสว. อีกคนหนึ่งว่า "คนขายหมู" ตามอาชีพที่เธอกรอกในเอกสารสมัครเข้าเป็นสว. เพื่อแนะนำตัวให้คนอื่นรู้จักและลงคะแนนให้ ซึ่งแดง ได้ 28 คะแนนในรอบ "เลือกกันเอง" ในกลุ่ม 10 และได้สูงถึง 63 คะแนนในรอบเลือกไขว้ นับเป็นอีกคนที่ได้คะแนนมากแบบ "ล้นกระดาน" จนกระดานที่เตรียมไว้นับคะแนนไม่เพียงพอ
ตามพ.ร.ป.ว่าด้วยการได้มาซึ่งสว. แบ่งกลุ่มไว้ดังนี้ กลุ่มที่ 9 คือ กลุ่มผู้ประกอบกิจการขนาดกลางและขนาดย่อมตามกฎหมายว่าด้วยการนั้น และกลุ่มที่ 10 คือ กลุ่มผู้ประกอบกิจการอื่นนอกจากกิจการตาม 9
ในกลุ่มที่ 9 เรียกกันสั้นๆว่า กลุ่ม SMEs เป็นกิจการค้าขายหรือให้บริการขนาดเล็กและกลาง ตามกฎกระทรวงกำหนดลักษณะของวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม พ.ศ.2562 นิยามว่า วิสาหกิจขนาดย่อม ได้แก่ กิจการผลิตสินค้าที่มีจำนวนการจ้างงานไม่เกิน 50 คน หรือมีรายได้ต่อปีไม่เกิน 100 ล้านบาท กิจการให้บริการ ค้าส่ง ค้าปลีก ที่มีจำนวนการจ้างงานไม่เกิน 30 คน หรือมีรายได้ต่อปีไม่เกิน 50 ล้านบาท วิสาหกิจขนาดกลาง ได้แก่ กิจการผลิตสินค้าที่มีจำนวนการจ้างงาน 50-200 คน หรือมีรายได้ต่อปี 100-500 ล้านบาท กิจการให้บริการ ค้าส่ง ค้าปลีก ที่มีจำนวนการจ้างงาน 30-100 คน หรือมีรายได้ต่อปี 50-300 ล้านบาท
ดังนั้น ผู้ที่สมัครในกลุ่มที่ 10 จึงต้องเป็นผู้ประกอบกิจการที่ “ใหญ่” กว่า SMEs อันได้แก่ กิจการผลิตสินค้าที่มีจำนวนการจ้างงานเกิน 200 คน หรือมีรายได้ต่อปีเกิน 500 ล้านบาท กิจการให้บริการ ค้าส่ง ค้าปลีก ที่มีจำนวนการจ้างงานเกิน 100 คน หรือมีรายได้ต่อปีเกิน 300 ล้านบาท
การขายหมูหน้าเขียงในตลาด โดยปกติแล้วไม่ได้มีการจ้างงานมากขนาดเกิน 200 คน และตามที่แดง กองมา เขียนไว้ในใบสมัครว่าขายหมูกำไรกิโลกรัมละ 10 บาท ก็ไม่น่าจะมีรายได้ต่อปีเกิน 300 ล้านบาท แต่ตามระบบสว. ที่เป็นอยู่นี้ตอนสมัคร กกต. ไม่ได้ตรวจสอบคุณสมบัติและหลักฐานการทำงานว่า ใครสามารถสมัครในกลุ่มนั้นๆ ได้จริงหรือไม่ ต้องการเพียงผู้รับรองหนึ่งก็รับสมัครในกลุ่มต่างๆ ได้เลย แต่หลังจากมีเรื่องร้องเรียนกกต. ก็ไม่เคยให้คำชี้แจงที่ชัดเจนถึงเกณฑ์คุณสมบัติที่จะสมัครในกลุ่มต่างๆ
ในการเลือกสว. ชุดนี้ ในกลุ่ม 10 ซึ่งเป็นกลุ่มที่นิยามคุณสมบัติได้ไม่ชัดเจน มีผู้สมัครสองคนที่สมัครในอำเภอเมือง จังหวัดอำนาจเจริญ คือ แดง กองมา และสมพาน พละศักดิ์ ซึ่งเขียนในใบสมัครว่า ขายก๋วยเตี๋ยวไก่มะระ ทั้งสองคนจับมือมีสิทธิลงคะแนนให้กันเองทุกระดับของการเลือก และกอดคอผ่านเข้ารอบมาด้วยกัน โดยสุดท้ายได้รับเลือกเป็นสว. ด้วยคะแนนแบบ "ล้นกระดาน" ทั้งสองคน ในรอบสุดท้ายแดง ได้อันดับที่สี่ 63 คะแนน สมพานได้อันดับที่ห้า 61 คะแนน ซึ่งจังหวัดอำนาจเจริญนั้นมีผู้สมัครที่เข้ารอบสุดท้ายได้ถึง 36 จาก 40 คน (แทบยกจังหวัด) ได้รับเลือกเป็นสว. 5 คน ได้คะแนนแบบ "ล้นกระดาน" ทุกคน และจังหวัดนี้ในภาพใหญ่มีสส. ทั้งสองคนจากพรรคภูมิใจไทย
ประเด็นการกล่าวถึง "คนขายหมู" จึงอาจไม่ใช่ปัญหาว่า เป็นการดูถูกอาชีพใด เพราะทุกอาชีพควรจะมีพื้นที่สมัครมาเป็นสว. ได้ตามระบบนี้ แต่ปัญหาคือ การทำกิจการขนาดเล็กต้องสมัครในกลุ่ม 9 ไม่ใช่กลุ่ม 10 และระบบปัจจุบันกกต. ไม่ได้ตรวจสอบ หากมีผู้ใดสมัครผิดกลุ่ม ก็ยังไปลงคะแนนได้ อาจได้รับเลือก และอาจได้เ ป็นสว. เข้ามานั่งเป็นกมธ.และลงมติเรื่องต่างๆ โดยไม่ถูกต้องตามกติกา หากระบบยังเป็นเช่นนี้อยู่ และยังต้องมีเลือกสว. ครั้งต่อไป กลุ่มอาชีพต่างๆ ก็จะไม่มีความหมายเพราะทุกคนจะลงสมัครกันทุกกลุ่มโดยไม่มีใครตรวจสอบ และการให้พื้นที่กับอาชีพต่างๆ จะไม่มีทางเป็นจริงอีกต่อไป ระบบการเลือกสว. จะเป็นเพียงระบบที่ใครมีพวกมากก็ลงสมัครและเลือกกันเองให้มากๆ ก็จะได้เป็นสว. โดยไม่ต้องสนใจคุณสมบัติและการประกอบอาชีพกันจริงๆ
https://www.facebook.com/photo/?fbid=1243219791184971&set=a.625664036273886