วันพุธ, กันยายน 10, 2568

ภาพที่พวกอยู่หลังม่านต้องการ ขอให้เราหันมาเกลียดกันเอง เพราะยิ่งเราแตก พวกเขายิ่งแข็งแรง


Artef Sohko
10 hours ago
·
:: ทักษิณ ชินวัตร ไม่ได้เป็นอะไรไปมากกว่า “เหยื่อ” ของเกมอำนาจที่ยาวนานที่สุดเกมหนึ่งในประวัติศาสตร์ไทย

เขาถูกยกขึ้นสูงด้วยเสียงเลือกตั้งถล่มทลาย
แล้วถูกลากลงต่ำด้วยโครงสร้างอำนาจนิยมที่ไม่เคยยอมรับว่าเสียงชาวบ้านมีความหมาย

เกือบยี่สิบปีที่ผ่านมา สังคมไทยถูกสอนให้เกลียดเขา “ถึงกระดูกดำ”
วาทกรรมศีลธรรมจริยธรรมถูกใช้เป็นพร็อพ
พ่อแม่หลายบ้านส่งต่อความเกลียดชังให้ลูกเหมือนมรดกบังคับ เรียกคนโหยหาทักษิณว่า “ควายแดง”

โตขึ้นมาหน่อยก็เจอม็อบ เจออนาคตใหม่ หลายคนบอกว่า “เบิกเนตร”
เริ่มเห็นใจเสื้อแดง เริ่มมองทักษิณใหม่ว่าเขาก็เป็นเหยื่อเหมือนกัน
แล้วก็เป็นแฟนคลับพิธา ก้าวไกล เป็นด้อมส้มในที่สุด

แต่เรื่องมันไม่จบแบบนั้น
เพราะสุดท้ายชินวัตรเลือกประนีประนอม
ยอมเป็นเครื่องมือฝ่ายที่เคยโค่นเขามาแล้ว เพื่อกันส้มออกไป
ผลลัพธ์: เขาสูญเสียที่ยืน ถูกเกลียดทั้งสองฟาก

ผมเองในฐานะชาวปาตานี
ตากใบ–ทนายสมชาย การละเมิดสิทธิมนุษยชนในหลายกรณี ยังเป็นบาดแผลที่ไม่มีวันหาย
การกลับมาของเขา กลายเป็นการย้ำว่า เมื่อเดิมพันคือการเมือง
คดีเหล่านี้ถูกทำให้เงียบ
เจ็บจนเกลียด แต่ก็ยังเห็นใจว่าเขาเองก็เจ็บ

สิ่งที่น่าเศร้ากว่านั้นคือ อดีตเสื้อแดงคนมีอุดมการณ์จำนวนหนึ่งก็หันตามทักษิณ
จากที่เคยตะโกนเพื่อประชาธิปไตย กลายเป็นคนเกลียดส้มยิ่งกว่าพวกหลังม่าน
ขณะที่ด้อมส้มจำนวนไม่น้อยก็มองคนเหล่านี้ว่าเลวยิ่งกว่าศัตรูเก่าเสียอีก

และนี่แหละ คือภาพที่พวกอยู่หลังม่านต้องการ
พวกเขาไม่ได้สนใจว่าใครชนะใครแพ้
แต่ขอให้เราหันมาเกลียดกันเอง
เพราะยิ่งเราแตก พวกเขายิ่งแข็งแรง

อย่าหลงกล
ไม่อย่างนั้น เราก็จะเป็นเพียง “มรดกของความเกลียดชัง”
ที่ถูกฝังชิปไว้ตั้งแต่รุ่นปู่รุ่นทวด
ทาสของรัฐพันลึกนี้ไปตลอดกาล

https://www.facebook.com/photo/?fbid=1541812006803566&set=a.123568535294594