
Chiranda Kannika
4 hours ago
·


เกิดจากอะไรไปดูต่อใต้คอมเม้นท์

ใครเคยโดน มาเม้นท์เล่าให้ฟังหน่อยค้า
Chiranda Kannika
ความซวยบังเกิด! เมื่อ ‘บัญชีม้า’ โอนเงินไปเข้าบัญชีใครที่เป็นผู้บริสุทธิ์
‘ธปท.’ แจงปม ‘ลูกค้าธนาคาร’ พบยอดเงินในบัญชี ‘ติดลบ’ ส่วนหนึ่งเกิดจากตำรวจแจ้งให้ธนาคาร ‘อายัดเงิน’ บัญชีต้องสงสัย แต่เงินในบัญชีเหลือน้อยกว่าจำนวนเงินที่ตำรวจแจ้งให้อายัด ยัน เร่งปรับปรุงกระบวนการ ‘อายัด’ และ ‘ปลดอายัด’ ให้จัดการกับมิจฉาชีพ-ดูแลผู้เสียหาย โดยไม่กระทบต่อลูกค้าปกติ ให้รวดเร็วมากขึ้น โดยเฉพาะการ ‘ปลดอายัด’ บัญชีกรณีผู้บริสุทธิ์
เมื่อวันที่ 12 ก.ย.68 นางสาวดารณี แซ่จู ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับระบบการชำระเงินและคุ้มครองผู้ใช้บริการทางการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ชี้แจงประเด็นที่มีกระแสข่าว ‘ลูกค้า’ ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์การแสดงผลยอดเงินในบัญชีติดลบ และการปลดอายัดบัญชีล่าช้า
กรณียอดเงินในบัญชีติดลบ ธปท. ได้เร่งตรวจสอบข้อเท็จจริงจากธนาคารที่เกี่ยวข้องแล้ว พบว่าเกิดจาก 2 สาเหตุ คือ
(1) เมื่อวันที่ 1 ก.ย. 2568 มีการปรับปรุงข้อมูลรายการเคลื่อนไหวของเงินฝากช่วงสิ้นวันไม่ครบถ้วน ส่งผลให้บัญชีเงินฝากจำนวนหนึ่งมียอดเงินคงเหลือไม่เป็นปัจจุบัน ซึ่งธนาคารได้แก้ไขให้ถูกต้องเสร็จสิ้นแล้วตั้งแต่วันที่ 2 ก.ย. 2568 ที่ผ่านมา โดย ธปท. ได้สั่งการให้ธนาคารดูแลลูกค้าที่ได้รับผลกระทบทุกราย รวมถึงได้เข้าตรวจสอบและติดตามให้ธนาคารมีมาตรการป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาในลักษณะนี้อีกในอนาคต ตลอดจนกำชับให้ทุกธนาคารมีมาตรการเชิงป้องกันเช่นกัน
(2) เกิดจากกรณีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งธนาคารให้ ‘อายัดเงิน’ ในบัญชีต้องสงสัย แต่เงินในบัญชีเหลือน้อยกว่าจำนวนเงินที่ตำรวจแจ้งให้อายัด ระบบจึงแสดงยอดเงินในบัญชีติดลบ ซึ่งแต่ละธนาคารมีแนวทางการแสดงข้อมูลที่แตกต่างกัน โดย ธปท. ได้สั่งการให้ธนาคารเร่งสร้างความเข้าใจกับลูกค้าให้ชัดเจนแล้ว
ประเด็นการอายัด ‘บัญชีต้องสงสัย’ เพื่อติดตามเงินกลับมาคืนผู้เสียหายให้ได้มากที่สุด ซึ่งอาจจะกระทบการทำธุรกรรมของประชาชนส่วนหนึ่ง นั้น ธปท. , ธนาคารพาณิชย์ และหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายที่เกี่ยวข้อง รับทราบปัญหา และอยู่ระหว่างเร่งปรับปรุงกระบวนการอายัดและการปลดอายัด ให้สามารถจัดการกับมิจฉาชีพ และดูแลผู้เสียหายได้อย่างมีประสิทธิผล โดยไม่กระทบต่อผู้ใช้บริการปกติ รวมทั้งมีความรวดเร็วมากขึ้น โดยเฉพาะการปลดอายัดบัญชีกรณีผู้บริสุทธิ์
ทั้งนี้ หากประชาชนพบปัญหาในการใช้บริการทางการเงินและไม่ได้รับการแก้ไขอย่างทันท่วงทีจากสถาบันการเงิน สามารถติดต่อศูนย์รับเรื่องร้องเรียน ธปท. ที่หมายเลข 1213 โดย ธปท. จะเร่งให้สถาบันการเงินตรวจสอบและแก้ปัญหาอย่างเร็วที่สุด
สรยุทธ สุทัศนะจินดา กรรมกรข่าว

Chiranda Kannika
ความซวยบังเกิด! เมื่อ ‘บัญชีม้า’ โอนเงินไปเข้าบัญชีใครที่เป็นผู้บริสุทธิ์
‘ธปท.’ แจงปม ‘ลูกค้าธนาคาร’ พบยอดเงินในบัญชี ‘ติดลบ’ ส่วนหนึ่งเกิดจากตำรวจแจ้งให้ธนาคาร ‘อายัดเงิน’ บัญชีต้องสงสัย แต่เงินในบัญชีเหลือน้อยกว่าจำนวนเงินที่ตำรวจแจ้งให้อายัด ยัน เร่งปรับปรุงกระบวนการ ‘อายัด’ และ ‘ปลดอายัด’ ให้จัดการกับมิจฉาชีพ-ดูแลผู้เสียหาย โดยไม่กระทบต่อลูกค้าปกติ ให้รวดเร็วมากขึ้น โดยเฉพาะการ ‘ปลดอายัด’ บัญชีกรณีผู้บริสุทธิ์
เมื่อวันที่ 12 ก.ย.68 นางสาวดารณี แซ่จู ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับระบบการชำระเงินและคุ้มครองผู้ใช้บริการทางการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ชี้แจงประเด็นที่มีกระแสข่าว ‘ลูกค้า’ ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์การแสดงผลยอดเงินในบัญชีติดลบ และการปลดอายัดบัญชีล่าช้า
กรณียอดเงินในบัญชีติดลบ ธปท. ได้เร่งตรวจสอบข้อเท็จจริงจากธนาคารที่เกี่ยวข้องแล้ว พบว่าเกิดจาก 2 สาเหตุ คือ
(1) เมื่อวันที่ 1 ก.ย. 2568 มีการปรับปรุงข้อมูลรายการเคลื่อนไหวของเงินฝากช่วงสิ้นวันไม่ครบถ้วน ส่งผลให้บัญชีเงินฝากจำนวนหนึ่งมียอดเงินคงเหลือไม่เป็นปัจจุบัน ซึ่งธนาคารได้แก้ไขให้ถูกต้องเสร็จสิ้นแล้วตั้งแต่วันที่ 2 ก.ย. 2568 ที่ผ่านมา โดย ธปท. ได้สั่งการให้ธนาคารดูแลลูกค้าที่ได้รับผลกระทบทุกราย รวมถึงได้เข้าตรวจสอบและติดตามให้ธนาคารมีมาตรการป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาในลักษณะนี้อีกในอนาคต ตลอดจนกำชับให้ทุกธนาคารมีมาตรการเชิงป้องกันเช่นกัน
(2) เกิดจากกรณีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งธนาคารให้ ‘อายัดเงิน’ ในบัญชีต้องสงสัย แต่เงินในบัญชีเหลือน้อยกว่าจำนวนเงินที่ตำรวจแจ้งให้อายัด ระบบจึงแสดงยอดเงินในบัญชีติดลบ ซึ่งแต่ละธนาคารมีแนวทางการแสดงข้อมูลที่แตกต่างกัน โดย ธปท. ได้สั่งการให้ธนาคารเร่งสร้างความเข้าใจกับลูกค้าให้ชัดเจนแล้ว
ประเด็นการอายัด ‘บัญชีต้องสงสัย’ เพื่อติดตามเงินกลับมาคืนผู้เสียหายให้ได้มากที่สุด ซึ่งอาจจะกระทบการทำธุรกรรมของประชาชนส่วนหนึ่ง นั้น ธปท. , ธนาคารพาณิชย์ และหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายที่เกี่ยวข้อง รับทราบปัญหา และอยู่ระหว่างเร่งปรับปรุงกระบวนการอายัดและการปลดอายัด ให้สามารถจัดการกับมิจฉาชีพ และดูแลผู้เสียหายได้อย่างมีประสิทธิผล โดยไม่กระทบต่อผู้ใช้บริการปกติ รวมทั้งมีความรวดเร็วมากขึ้น โดยเฉพาะการปลดอายัดบัญชีกรณีผู้บริสุทธิ์
ทั้งนี้ หากประชาชนพบปัญหาในการใช้บริการทางการเงินและไม่ได้รับการแก้ไขอย่างทันท่วงทีจากสถาบันการเงิน สามารถติดต่อศูนย์รับเรื่องร้องเรียน ธปท. ที่หมายเลข 1213 โดย ธปท. จะเร่งให้สถาบันการเงินตรวจสอบและแก้ปัญหาอย่างเร็วที่สุด
สรยุทธ สุทัศนะจินดา กรรมกรข่าว

Chiranda Kannika
ส่วนตัวคิดว่า เจอสมมุติฐานแล้วครับ ว่าทำไมถึงเกิดเหตุบัญชีประชาชนเจออายัดรัวแบบนี้
คือมีผู้ประกอบการแจ้งมาหลายคนว่า บัญชีบริษัทเขาจู่ๆก็ถูกอายัด ทั้งที่ไม่ได้ทำอะไรผิดเลย ไม่ได้เกี่ยวข้องกับบัญชีม้า แก๊งคอล
แต่ปรากฏว่า พอไปแจ้งตำรวจสืบสวนกัน เจอว่า มิจฉาชีพที่เป็นพวกแก๊งค์คอลเซ็นเตอร์แนวๆชวนลงทุน ชวนทำภารกิจ มันแอบเอาบัญชีของบริษัทเหล่านี้ไปใช้ในระลอกแรก
คือ เอาไปสมอ้างว่า เนี่ย ชั้นมีตัวตนจริงนะ เป็นบริษัทนะ ไม่เชื่อลองโอนเข้าไปดูได้ แล้วก็ให้เหยื่อโอนเข้าไปนิดๆหน่อยๆ ร้อยสองร้อย
พอเหยื่อเห็นว่า เออ บัญชีนิติบุคคลจริงว่ะ ก็เชื่อขี้ปากแก๊งค์คอล
ทีนี้แก๊งค์คอล มันก็จะเปลี่ยนบัญชี เป็นบัญชีม้า ให้เหยื่อโอนในระลอกสอง
ซึ่งมีทั้งบัญชีนิติบุคคล บัญชีบุคคลทั่วไป พอเหยื่อรู้ตัวว่าโดนหลอก
ก็ไปแจ้งความ แล้วในลิสท์บัญชีเหล่านั้น ก็จะมีบัญชีของบริษัทแรกติดไปด้วย
ทำให้บริษัทแรกที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ โดนอายัดไปด้วย เพราะตำรวจและธนาคารเชื่อว่าเป็นบัญชีม้าล๊อตเดียวกับที่เหลือ
จากนั้น เส้นทางการเงินของประชาชนที่โอนซื้อขายสินค้ากับบัญชีของบริษัทแรกที่โดนหางเลข ก็ฉิบหายไปหมด โดนมองว่าเป็นม้าลำดับ 2 3 4 อะไรก็ว่ากันไป
แต่คงต้องรอหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอธิบายเหตุผลก่อนว่าจริงๆมันเกิดอะไรขึ้นกันแน่
Drama-addict

https://www.facebook.com/photo/?fbid=24403509722667362&set=a.188819351229737
.....
.jpg)
สรยุทธ สุทัศนะจินดา กรรมกรข่าว
4 hours ago
·
ธปท.แจงยิบ ปม ‘อายัดบัญชี’ รับ กระทบผู้ใช้บัญชี หลังยกระดับมาตรการ ทำ ‘คนบริสุทธิ์‘ โดนลูกหลง เตรียมปรับแนวทางใหม่พรุ่งนี้! โดยเฉพาะไม่ให้กระทบรายเล็ก
กลายเป็นประเด็นร้อนในสื่อสังคมออนไลน์ หลังมีประชาชนจำนวนมาก พบว่าบัญชีธนาคารของตนเองถูกอายัด ส่งผลให้ยอดเงินติดลบ และไม่สามารถทำธุรกรรมได้ ซึ่งล่าสุดประชาชนเริ่มกังวลต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จนบางรายรีบถอนเงินออกมาเก็บเป็นเงินสด
วันที่ 13 ก.ย.68 คุณอรมนต์ จันทพันธ์ ผู้อำนวยการฝ่ายคุ้มครองและตรวจสอบบริการทางการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย ชี้แจงกับทีมข่าว ‘เรื่องเล่าเช้านี้’ ว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นเกี่ยวข้องกับมาตรการจัดการ ‘บัญชีม้า’ ทั้งจากธนาคารพาณิชย์ ธนาคารแห่งประเทศไทย ศูนย์ปฏิบัติการเพื่อป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ศปอท.) และตำรวจ เพื่อป้องกันและยึดเงินคืนให้ผู้เสียหายจากการถูกหลอกลวง
โดยความเข้มข้นของมาตรการดังกล่าวอาจทำให้ “คนดี” หรือประชาชนทั่วไป ที่เป็นผู้ใช้บัญชีปกติได้รับผลกระทบไปด้วย ซึ่งทาง ธปท. กำลังเร่งปรับปรุง ‘วิธีการใหม่’ ซึ่งจะเริ่มมีผลในวันพรุ่งนี้ คาดว่าจะลดผลกระทบต่อประชาชนทั่วไปได้อย่างชัดเจน
สำหรับผู้ที่ได้รับผลกระทบซึ่งถูกอายัดบัญชีโดยไม่เป็นธรรม ธปท.ได้แจ้งไปยังธนาคารเพื่อให้เร่งตรวจสอบและแก้ไข หากยืนยันว่าเป็นผู้ใช้บัญชีปกติ ต้องดำเนินการปลดอายัดภายใน 2–3 วัน เพื่อไม่ให้เกิดความเดือดร้อน
ขณะเดียวกัน คุณอรมนต์ ยังอธิบายถึงขั้นตอนการตรวจสอบเส้นทางเงิน โดยสำหรับพ่อค้า แม่ค้ารายย่อย จะมีการกำหนดเกณฑ์ว่า หากเป็นเงินก้อนเล็กๆ จะไม่ถูกนำมาเกี่ยวข้อง ดังนั้น พ่อค้าแม่ค้ารายย่อยทั่วไปไม่ต้องเป็นกังวล
ส่วนข้อมูลที่มีการแชร์ว่า มีเงินโอนเข้ามาในบัญชีเพียง 100 บาท ซึ่งมาจากการที่มีคนไปโกงเงินผู้เสียหาย แล้วโอนมาที่บัญชีของผู้ใช้โซเชียลดังกล่าว จึงถูกแจ้งความ จนเป็นที่มาในการถูกยายัดบัญชีนั้น คุณอรมนต์ ระบุว่า มาตรการที่กล่าวไปข้างต้น ว่า พ่อค้าแม่ค้ารายย่อย จะไม่มีผลกระทบกับเรื่องที่เกิดขึ้น เป็นมาตรการที่เพิ่งดำเนินการ ซึ่งจะมีผลในอนาคตต่อจากนี้ จึงทำให้ช่วงที่ผ่านมา อาจจะมีบางคนได้รับผลกระทบไปบ้างแล้ว ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการแก้ไข เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบกับรายเล็กอีก
ทั้งนี้ หากบัญชีถูกอายัดไปแล้ว ต้องดูว่าหากการอายัดมาจากตำรวจ ผู้ที่ได้รับผลกระทบต้องติดต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจหรือ สน.ที่เกี่ยวข้อง
นอกจากนี้ คุณอรมนต์ ขอให้ผู้ได้รับผลกระทบอดทนรออีกนิด เนื่องจากมาตรการในการจับกุมบัญชีม้านั้น เพื่อต้องการกวาดล้างจับกุมให้ได้รวดเร็ว และให้ได้มากที่สุด ซึ่งขณะนี้ ทาง ธปท. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พยายามแก้ไขกระบวนการดำเนินงานให้ดียิ่งขึ้น เพื่อให้กระทบต่อ “คนดี” หรือประชาชนทั่วไปให้น้อยที่สุด
เมื่อถามถึงความเข้มข้นของมาตรการว่ามีระดับอย่างไร และเหตุใดจึงไปกระทบถึงผู้ค้ารายย่อย คุณอรมนต์ ชี้แจงว่า พ.ร.ก.ที่เกี่ยวกับบัญชีม้าถูกประกาศใช้แล้ว ทำให้มีการ ‘ยกระดับ’ การรับผิดชอบร่วมกันระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เมื่อมีความเสียหายเกิดขึ้น หน่วยงานต้องติดตามเส้นทางการเงินให้ครบและรวดเร็ว เพื่อกักเงินคืนให้ผู้เสียหายให้ได้มากที่สุด ดังนั้นทุกฝ่ายจึงพยายามติดตามเงินมากขึ้นกว่าที่เคยทำมา ทำให้การติดตามเส้นเงินอาจขยายความยาวของการตรวจสอบออกไป ไม่ได้หยุดอยู่แค่การไล่ดูแถวเดียว หรือสองแถวเหมือนเดิม ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้บัญชีที่มีการเคลื่อนไหวเล็กๆ ถูกกระทบเป็นวงกว้างในบางกรณี
เมื่อถามถึง กรณีที่มีข้อสงสัยว่า โดยปกติบัญชีม้าจะเป็นบัญชีที่เปิดเพื่อรับการโอนเท่านั้น ไม่ควรกระจายไปถึงร้านค้า จนทำให้เกิดความเสียหายดังกล่าว คุณอรมนต์ชี้แจงว่า ปัจจุบันการเปิดบัญชีม้าอาจเกิดขึ้นผ่านร้านค้า โดยมีทั้งบัญชีใหม่และบัญชีเก่าที่เคยใช้งานตามปกติ แต่เมื่อเจ้าของบัญชีเดิมประสบปัญหารายได้ไม่ดี อาจตัดสินใจขายบัญชีออกไป ทำให้ยากต่อการตรวจสอบว่าเป็นบัญชีใหม่หรือบัญชีเดิมที่เพิ่งขาย
คุณอรมนต์ ยังบอกด้วยว่า ‘บัญชีม้า’ ไม่ได้หมายถึงบัญชีที่ขายขาดเสมอไป ส่วนใหญ่เป็นบัญชีที่มีความเคลื่อนไหวตามปกติ เมื่อขายแล้ว ผู้ซื้ออาจนำไปใช้ทันที ปัจจุบันการขายขาดบัญชีแทบไม่มีแล้ว เพราะการโอนเงินจำนวนมากต้องสแกนหน้า ส่วนใหญ่จะเป็นการขายแบบ “เลี้ยงบัญชี” ให้ดูเหมือนบัญชีปกติ
นอกจากนี้ บัญชีที่ถูกนำไปใช้เป็นบัญชีม้า มักเป็นบัญชีที่เคยใช้งานมาก่อนแล้ว มีประวัติการเคลื่อนไหวอยู่แล้ว ซึ่งทำให้ธนาคารตรวจสอบได้ยาก ซึ่งผู้ซื้อบัญชีม้าในปัจจุบัน มักต้องการบัญชีที่มีการใช้งานจริงมาก่อน เพื่อให้ดูไม่ผิดสังเกต เนื่องจากดูน่าเชื่อถือกว่า และยากต่อการตรวจสอบของธนาคาร การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมนี้ ทำให้ธนาคารต้องปรับระบบตรวจจับอยู่ตลอดเวลา
ขณะนี้ทาง ธปท.ได้ประสานงานอย่างใกล้ชิดกับทางธนาคาร ซึ่งยังไม่พบความผิดปกติที่เป็นภัยต่อความมั่นคงของธนาคารพาณิชย์
คุณอรมนต์ ย้ำว่า ทางหน่วยงานจะเร่งแก้ไขผลกระทบทั้งในปัจจุบันและในอนาคต พร้อมแนะนำให้ผู้ที่ได้รับผลกระทบ เข้ามาติดต่อเพื่อรับการช่วยเหลือ หวังว่าจะช่วยให้ประชาชนกลับมามีความเชื่อมั่นในระบบการเงินอีกครั้ง
https://www.facebook.com/photo?fbid=1410468047106797&set=a.328293581990921
