
Tawan Ten
19 hours ago
·
คำพูดที่แตกต่างกันในชั่วไม่กี่วัน ของผู้ช่วยรมต.ต่างประเทศ(รัศม์ ชาลีจันทร์)ปรากฎหลังรอยเตอร์ รายงานข่าวยืนยันว่ามีบางประเทศพร้อมรับชาวอุยกูร์ที่ลี้ภัยการเมืองอยู่ในไทย
พร้อมๆกับที่ส.ส.กัณวีร์ เปิดเผยรายงานบันทึกการประชุมของกมธ.สภาฯ ที่คนกระทรวงการต่างประเทศ ยอมรับว่ามีบางประเทศยินดีรับเช่นกัน
ผมขอเรียกพฤติกรรมนี้ ว่า “โกหกสีขาว”(white lie) เช่นที่กิตติรัตน์ ณ ระนอง อดีตรมว.คลัง สมัยรัฐบาลยิ่งลักษณ์ เคยพูดไว้ หลังตัวเลขส่งออกไทยไม่เป็นไปตามเป้า
ครั้งนั้น กิตติรัตน์ อ้างว่า รู้ว่าทำไม่ได้ตามเป้าแต่ต้องยืนยันว่าทำได้ เพราะในตำแหน่งทางการเมืองที่รับผิดชอบ อนุญาต(ไม่รู้ใครอนุญาต)ให้ “โกหกสีขาว”ได้ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจประเทศ
พฤติกรรม+คำพูด ของผู้ช่วยรมต.ต่างประเทศ แม้เจ้าตัวจะไม่ยอมรับว่าเป็นการโกหกสีขาว แบบที่กิตติรัตน์ เคยยอมรับ
แต่วิญญูชน ก็สรุปได้ว่า “ไม่ต่างกัน”
และไม่ว่าจะโกหกสีอะไร ทำไปเพื่อประเทศชาติจริงหรือไม่ นัยสุดท้ายของการโกหก คือ การทุจริตความจริงใจต่อสาธารณะและประชาชน
https://www.facebook.com/photo/?fbid=9252044434850267&set=a.757569330964529
.....

เรื่องเล่าเช้านี้
16 hours ago
·
“กมธ.มั่นคงฯ“ ถกผลกระทบส่ง “อุยกูร์” กลับจีน “โรม” ซัดเดือด บอกแกว่งปากหาเสี้ยน ไปกล่าวหาประเทศอื่นไม่แน่วแน่รับตัว มองจะทำให้ปัญหาเลวร้ายขึ้น ยันขอกล้อง CCTV แน่ เชื่อมีบันทึกไว้ ด้าน “ทูตรัศม์” ยันทำตามกฎหมายระหว่างประเทศ
อ่านข่าว : https://ch3plus.com/news/political/morning/434548
#เรื่องเล่าเช้านี้ #ข่าวช่อง3 #ข่าวการเมือง
https://www.facebook.com/photo/?fbid=1132296322274050&set=a.668507231986297
.....

สรยุทธ สุทัศนะจินดา กรรมกรข่าว
.....

เรื่องเล่าเช้านี้
16 hours ago
·
“กมธ.มั่นคงฯ“ ถกผลกระทบส่ง “อุยกูร์” กลับจีน “โรม” ซัดเดือด บอกแกว่งปากหาเสี้ยน ไปกล่าวหาประเทศอื่นไม่แน่วแน่รับตัว มองจะทำให้ปัญหาเลวร้ายขึ้น ยันขอกล้อง CCTV แน่ เชื่อมีบันทึกไว้ ด้าน “ทูตรัศม์” ยันทำตามกฎหมายระหว่างประเทศ
อ่านข่าว : https://ch3plus.com/news/political/morning/434548
#เรื่องเล่าเช้านี้ #ข่าวช่อง3 #ข่าวการเมือง
https://www.facebook.com/photo/?fbid=1132296322274050&set=a.668507231986297
.....

สรยุทธ สุทัศนะจินดา กรรมกรข่าว
18 hours ago
·
‘กมธ.มั่นคงฯ’ ถกผลกระทบส่ง ’อุยกูร์‘ กลับจีน ไร้เงา ’นายกฯ-รมต.‘ เข้าร่วม ’โรม‘ ซัดเดือด บอกแกว่งปากหาเสี้ยน! ไปกล่าวหาประเทศอื่นไม่แน่วแน่รับตัว มองจะทำให้ปัญหาเลวร้ายขึ้น ยันขอกล้อง CCTV แน่ เชื่อมีเรคคอร์ดไว้ สงสัยขนสื่อไป ’ซินเจียง‘ จะมีอิสระหรือ ด้าน ’ทูตรัศม์‘ การันตีเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด ยันทำตาม กม.ระหว่างประเทศ
วันที่ 6 มี.ค. 2568 ที่รัฐสภา นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎร เปิดเผยว่า วันนี้ได้เชิญนายกรัฐมนตรี , นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม , นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รมว.ต่างประเทศ , พันตำรวจเอกทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม รวมทั้งสภาความมั่นคงแห่งชาติ มาชี้แจงเรื่องการส่งอุยกูร์กลับประเทศจีน แต่ปรากฏว่า ไม่ได้รับความร่วมมือ มีเพียงนายฉัตรชัย บางชวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ , นายรัศม์ ชาลีจันทร์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงการต่างประเทศ , พลตำรวจตรีปรัชญา ประสานสุข รองผู้บัญชาการตำรวจตรวจคนเข้าเมือง มาชี้แจง
นายรังสิมันต์ ย้ำว่า เรื่องการส่งอุยกูร์กลับจีน ทั้งที่ยังอยู่ระหว่างการพิจารณาคดีในชั้นศาล จะถือเป็นการละเมินอำนาจศาลหรือไม่ และมี พ.ร.บ.ป้องกันการซ้อมทรมานและการอุ้มหาย บังคับภายในประเทศด้วย ดังนั้น เรื่องนี้อาจจะกระทบต่อเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง
อีกหนึ่งประเด็นที่ต้องพิจารณา คือผลกระทบกับประเทศไทย เพราะตอนนี้เริ่มมีสถานทูตหลายประเทศ ประกาศแจ้งเตือนคนของประเทศเขาที่มาท่องเที่ยวในประเทศไทย ให้ระมัดระวัง ซึ่งมันเป็นผลกระทบที่เกิดขึ้นในประเทศไทยแล้ว จึงต้องถามถึงมาตรการในการรับมือ ยอมรับว่าวันนี้เราเอาคนอุยกูร์กลับมา เป็นไปไม่ได้แล้ว ไม่สามารถเริ่มต้นอะไรใหม่ได้ แต่สิ่งที่ต้องบริหารกันต่อไปคือ ผลกระทบที่เกิดขึ้น ทางด้านสังคมและทางด้านของการก่อการร้าย รวมไปถึงด้านมิติเศรษฐกิจต่างๆ และสิ่งสำคัญคือเราอยากรู้ว่า เราได้อะไรจากการทำเรื่องนี้ เพราะราคาที่ประเทศไทยต้องจ่าย มันเป็นราคาที่แพง
เมื่อถามถึงการเรียกร้องให้มีการเปิดกล้องวงจรปิดระหว่างส่งตัว คณะกรรมาธิการ จะขอดูด้วยหรือไม่ นายรังสิมันต์ กล่าวว่า ยืนยันว่าจะต้องมีการพูดคุยกันใน กมธ.เพื่อขอดูกล้องวงจรปิดด้วย เพื่อที่จะได้ดูพฤติกรรมระหว่างการส่งตัว ว่าเขายินยอมที่จะไปจริงหรือไม่ ตนเชื่อว่ามีแน่นอน แต่อยู่ที่ว่าจะให้หรือไม่ และตนเชื่อว่านี่ไม่ใช่การส่งตัวครั้งแรก ผู้แทนที่เดินทางไปดูได้เข้าไปดู 109 คน ก่อนหน้านี้หรือไม่ ว่าความเป็นอยู่เป็นอย่างไร เพราะตนเชื่อว่าหากจะดูความเป็นอยู่ของ 48 คนที่ส่งไปล่าสุด จะเป็นอย่างไรก็ต้องไปดู 109 คนที่ถูกส่งไปก่อนหน้านี้ ตอนนี้มีภาพออกมาว่า เขาได้เจอครอบครัวเป็นภาพอันหวานชื่น แต่ตนสังเกตหน้าตาของคนที่เดินทางกลับดูไม่เต็มใจ และหน้าตาดูเศร้าหมอง ไม่ได้มีความสุขกับสิ่งที่เกิดขึ้น ดังนั้น หลายๆอย่างมันมีพิรุธ รวมถึงจะต้องมีการถามถึงหนังสือสัญญาว่า สรุปแล้วมีจริงหรือไม่และหน้าตาเป็นอย่างไร
เมื่อถามถึง กรณีจะมีการพาสื่อมวลชนไทยไปดูความเป็นอยู่ของชาวอุยกูร์ 48 คน นายรังสิมันต์ โรม กล่าวว่า เวลาไปดูแบบนั้น มันไม่ใช่วิธีการที่นำไปสู่การตรวจสอบที่แท้จริง เพราะว่าถ้าจะมีการตรวจสอบที่แท้จริง ต้องให้อิสระ แต่ตนไม่มั่นใจว่าสื่อมวลชนที่จะไปครั้งนี้จะมีอิสระหรือไม่
เมื่อถามถึงเอกสารที่ทางจีนการันตีถึงความปลอดภัยของชาวอุยกูร์ นายรังสิมันต์ กล่าวว่าความปลอดภัยต้องดูในหลายบริบท ไม่ใช่ดูแค่จากคำสัญญาเท่านั้น เพราะชีวิตคนเวลามันเกิดอะไรไปแล้ว มันเอาคืนไม่ได้ และ บริบทหลายอย่าง ทั้งเรื่องการแอบส่งไปยามวิกาล การติดสติ๊กเกอร์ดำ มันทำให้เราไม่มั่นใจ ว่ามันเป็นการทำเพื่อคนอุยกูร์จริงๆ
เมื่อถามว่า เรื่องประเทศที่ 3 สรุปแล้วมีความประสงค์จริงหรือไม่ นายรังสิมันต์ โรม กล่าวว่า ตั้งแต่สภาชุดที่แล้ว ตั้งแต่ตอนอยู่ในคณะกรรมการกฎหมาย และได้พูดคุยกับ สมช. ยืนยันว่ามีประเทศที่ 3 ประสงค์ที่จะรับชาวอุยกูร์ แต่เราไม่สามารถจะส่งไปได้ เพราะเรากังวลความสัมพันธ์กับจีน
"ไม่ต้องไปโทษคนอื่น ว่าเขาไม่แน่วแน่ เพราะการโทษแบบนั้นเป็นการแกว่งปากหาเสี้ยน และการไปตำหนิประเทศอื่นไม่แน่วแน่แก้ไข ไม่แน่วแน่ที่จะรับ ผมงงมากว่าการพูดของคุณเป็นอะไรไปแล้ว คุณจะไปทะเลาะกับคนอื่นทำไม ก็ตอบกันตรงๆ ว่าทุกคนรู้อยู่แล้วว่าเรื่องนี้ มันเป็นเรื่องที่คุณกังวลว่าจะกระทบความสัมพันธ์ระหว่างไทยจีน แต่ผมคิดว่ามันเป็นเรื่องที่พูดคุยกันได้ มันมีวิธีการอย่างไรในการแก้ไข แต่คุณจะไปโทษประเทศอื่น ทั้งสหรัฐอเมริกา ตุรกี ไม่แน่วแน่เพียงพอ มันจะยิ่งทำให้เรื่องนี้เลวร้ายยิ่งขึ้น มันทำให้เกิดปัญหาระหว่างประเทศมากยิ่งขึ้น" นายรังสิมันต์ กล่าว
จากนั้น นายรังสิมันต์ เปิดการประชุม โดยนายรัศม์ กล่าวชี้แจงว่า การที่จีนให้คำมั่นกับทางการไทยเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดที่เรามี ทั้งในแง่ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศที่เรามีกับจีน และการปกป้องผลประโยชน์ของชาติและประชาชนชาวไทย รวมทั้งเป็นทางออกที่ดีที่สุดสำหรับชาวอุยกูร์เหล่านั้น ซึ่งทั้งหมดได้ทำไปบนพื้นฐานของกฎหมาย ทั้งกฎหมายไทยและกฎหมายระหว่างประเทศ
https://www.facebook.com/photo/?fbid=1262306655256271&set=a.328293581990921
·
‘กมธ.มั่นคงฯ’ ถกผลกระทบส่ง ’อุยกูร์‘ กลับจีน ไร้เงา ’นายกฯ-รมต.‘ เข้าร่วม ’โรม‘ ซัดเดือด บอกแกว่งปากหาเสี้ยน! ไปกล่าวหาประเทศอื่นไม่แน่วแน่รับตัว มองจะทำให้ปัญหาเลวร้ายขึ้น ยันขอกล้อง CCTV แน่ เชื่อมีเรคคอร์ดไว้ สงสัยขนสื่อไป ’ซินเจียง‘ จะมีอิสระหรือ ด้าน ’ทูตรัศม์‘ การันตีเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด ยันทำตาม กม.ระหว่างประเทศ
วันที่ 6 มี.ค. 2568 ที่รัฐสภา นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎร เปิดเผยว่า วันนี้ได้เชิญนายกรัฐมนตรี , นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม , นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รมว.ต่างประเทศ , พันตำรวจเอกทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม รวมทั้งสภาความมั่นคงแห่งชาติ มาชี้แจงเรื่องการส่งอุยกูร์กลับประเทศจีน แต่ปรากฏว่า ไม่ได้รับความร่วมมือ มีเพียงนายฉัตรชัย บางชวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ , นายรัศม์ ชาลีจันทร์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงการต่างประเทศ , พลตำรวจตรีปรัชญา ประสานสุข รองผู้บัญชาการตำรวจตรวจคนเข้าเมือง มาชี้แจง
นายรังสิมันต์ ย้ำว่า เรื่องการส่งอุยกูร์กลับจีน ทั้งที่ยังอยู่ระหว่างการพิจารณาคดีในชั้นศาล จะถือเป็นการละเมินอำนาจศาลหรือไม่ และมี พ.ร.บ.ป้องกันการซ้อมทรมานและการอุ้มหาย บังคับภายในประเทศด้วย ดังนั้น เรื่องนี้อาจจะกระทบต่อเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง
อีกหนึ่งประเด็นที่ต้องพิจารณา คือผลกระทบกับประเทศไทย เพราะตอนนี้เริ่มมีสถานทูตหลายประเทศ ประกาศแจ้งเตือนคนของประเทศเขาที่มาท่องเที่ยวในประเทศไทย ให้ระมัดระวัง ซึ่งมันเป็นผลกระทบที่เกิดขึ้นในประเทศไทยแล้ว จึงต้องถามถึงมาตรการในการรับมือ ยอมรับว่าวันนี้เราเอาคนอุยกูร์กลับมา เป็นไปไม่ได้แล้ว ไม่สามารถเริ่มต้นอะไรใหม่ได้ แต่สิ่งที่ต้องบริหารกันต่อไปคือ ผลกระทบที่เกิดขึ้น ทางด้านสังคมและทางด้านของการก่อการร้าย รวมไปถึงด้านมิติเศรษฐกิจต่างๆ และสิ่งสำคัญคือเราอยากรู้ว่า เราได้อะไรจากการทำเรื่องนี้ เพราะราคาที่ประเทศไทยต้องจ่าย มันเป็นราคาที่แพง
เมื่อถามถึงการเรียกร้องให้มีการเปิดกล้องวงจรปิดระหว่างส่งตัว คณะกรรมาธิการ จะขอดูด้วยหรือไม่ นายรังสิมันต์ กล่าวว่า ยืนยันว่าจะต้องมีการพูดคุยกันใน กมธ.เพื่อขอดูกล้องวงจรปิดด้วย เพื่อที่จะได้ดูพฤติกรรมระหว่างการส่งตัว ว่าเขายินยอมที่จะไปจริงหรือไม่ ตนเชื่อว่ามีแน่นอน แต่อยู่ที่ว่าจะให้หรือไม่ และตนเชื่อว่านี่ไม่ใช่การส่งตัวครั้งแรก ผู้แทนที่เดินทางไปดูได้เข้าไปดู 109 คน ก่อนหน้านี้หรือไม่ ว่าความเป็นอยู่เป็นอย่างไร เพราะตนเชื่อว่าหากจะดูความเป็นอยู่ของ 48 คนที่ส่งไปล่าสุด จะเป็นอย่างไรก็ต้องไปดู 109 คนที่ถูกส่งไปก่อนหน้านี้ ตอนนี้มีภาพออกมาว่า เขาได้เจอครอบครัวเป็นภาพอันหวานชื่น แต่ตนสังเกตหน้าตาของคนที่เดินทางกลับดูไม่เต็มใจ และหน้าตาดูเศร้าหมอง ไม่ได้มีความสุขกับสิ่งที่เกิดขึ้น ดังนั้น หลายๆอย่างมันมีพิรุธ รวมถึงจะต้องมีการถามถึงหนังสือสัญญาว่า สรุปแล้วมีจริงหรือไม่และหน้าตาเป็นอย่างไร
เมื่อถามถึง กรณีจะมีการพาสื่อมวลชนไทยไปดูความเป็นอยู่ของชาวอุยกูร์ 48 คน นายรังสิมันต์ โรม กล่าวว่า เวลาไปดูแบบนั้น มันไม่ใช่วิธีการที่นำไปสู่การตรวจสอบที่แท้จริง เพราะว่าถ้าจะมีการตรวจสอบที่แท้จริง ต้องให้อิสระ แต่ตนไม่มั่นใจว่าสื่อมวลชนที่จะไปครั้งนี้จะมีอิสระหรือไม่
เมื่อถามถึงเอกสารที่ทางจีนการันตีถึงความปลอดภัยของชาวอุยกูร์ นายรังสิมันต์ กล่าวว่าความปลอดภัยต้องดูในหลายบริบท ไม่ใช่ดูแค่จากคำสัญญาเท่านั้น เพราะชีวิตคนเวลามันเกิดอะไรไปแล้ว มันเอาคืนไม่ได้ และ บริบทหลายอย่าง ทั้งเรื่องการแอบส่งไปยามวิกาล การติดสติ๊กเกอร์ดำ มันทำให้เราไม่มั่นใจ ว่ามันเป็นการทำเพื่อคนอุยกูร์จริงๆ
เมื่อถามว่า เรื่องประเทศที่ 3 สรุปแล้วมีความประสงค์จริงหรือไม่ นายรังสิมันต์ โรม กล่าวว่า ตั้งแต่สภาชุดที่แล้ว ตั้งแต่ตอนอยู่ในคณะกรรมการกฎหมาย และได้พูดคุยกับ สมช. ยืนยันว่ามีประเทศที่ 3 ประสงค์ที่จะรับชาวอุยกูร์ แต่เราไม่สามารถจะส่งไปได้ เพราะเรากังวลความสัมพันธ์กับจีน
"ไม่ต้องไปโทษคนอื่น ว่าเขาไม่แน่วแน่ เพราะการโทษแบบนั้นเป็นการแกว่งปากหาเสี้ยน และการไปตำหนิประเทศอื่นไม่แน่วแน่แก้ไข ไม่แน่วแน่ที่จะรับ ผมงงมากว่าการพูดของคุณเป็นอะไรไปแล้ว คุณจะไปทะเลาะกับคนอื่นทำไม ก็ตอบกันตรงๆ ว่าทุกคนรู้อยู่แล้วว่าเรื่องนี้ มันเป็นเรื่องที่คุณกังวลว่าจะกระทบความสัมพันธ์ระหว่างไทยจีน แต่ผมคิดว่ามันเป็นเรื่องที่พูดคุยกันได้ มันมีวิธีการอย่างไรในการแก้ไข แต่คุณจะไปโทษประเทศอื่น ทั้งสหรัฐอเมริกา ตุรกี ไม่แน่วแน่เพียงพอ มันจะยิ่งทำให้เรื่องนี้เลวร้ายยิ่งขึ้น มันทำให้เกิดปัญหาระหว่างประเทศมากยิ่งขึ้น" นายรังสิมันต์ กล่าว
จากนั้น นายรังสิมันต์ เปิดการประชุม โดยนายรัศม์ กล่าวชี้แจงว่า การที่จีนให้คำมั่นกับทางการไทยเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดที่เรามี ทั้งในแง่ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศที่เรามีกับจีน และการปกป้องผลประโยชน์ของชาติและประชาชนชาวไทย รวมทั้งเป็นทางออกที่ดีที่สุดสำหรับชาวอุยกูร์เหล่านั้น ซึ่งทั้งหมดได้ทำไปบนพื้นฐานของกฎหมาย ทั้งกฎหมายไทยและกฎหมายระหว่างประเทศ
https://www.facebook.com/photo/?fbid=1262306655256271&set=a.328293581990921