ปชป.+รทสช.จะได้ ส.ส.แค่ ๕๖ คน ส่วน ภท.+พปชร.ได้ ๑๐๕ รวมทั้งพวง ๑๖๑ เสียง ขณะที่ฟากนี้ เพื่อไทยจะได้ ส.ส. ๒๔๐ ก้าวไกลได้อีก ๑๑๐ รวมกัน ๓๕๐ “ทำให้ขั้วรัฐบาลเดิมไม่สามารถตั้งรัฐบาลได้โดยเด็ดขาด”
เพื่อไทยกับก้าวไกลสบายบรื๋อ “ถ้ารวมกับ สว.สายลุงป้อมอีก ๑๐๐ กว่าคน ก็ตั้งรัฐบาลใหม่และนายกฯ” ได้คล่อง “ดังนั้นถ้าพรรคใดถูกสอบสวนเพื่อยุบพรรค ซึ่ง กกต.ต้องใช้เวลาอย่างเร็วที่สุด ๓๐ วัน สำหรับกระบวนการร้องเรียน
อีกเรื่องสำหรับเพทุบายฝ่ายประยุทธ์ ซึ่งพูดกันอยู่ตลอดสองอาทิตย์ว่า อาจจะเกิดการสอบสวนเพื่อยุบพรรค แต่นั่น กกต.ต้องใช้เวลาอย่างเร็วที่สุด ๓๐ วัน ยิ่งขณะนี้กรรมการ กตต.พากันลาเที่ยว (สันทัด,ฉัตรไชย ไปฮังการีและสโลวาเกีย
อิทธิพร (ประธาน ไปแอฟริกา) กับ ‘ปกรณ์’ ไปเยอรมันและสวิส ‘ฐิติเชฏฐ์’ ไปสหรัฐ เลิศวิโรจน์ ไปนิวซีแลนด์และออสเตรเลีย ถึงกำหนดกลับก็จะเหลือเวลาอีกไม่ถึง ๒๐ วัน จึงจะส่งศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย จากนั้น ส.ส.อาจทำการย้ายพรรคได้
อีกเรื่องเขาบอก “แว่วข่าวว่า ทันทีที่มีการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ จะมีการตั้ง ‘คณะกรรมการสมานฉันท์แห่งชาติ’ เพื่อก้าวข้ามความขัดแย้ง “เริ่มต้นใหม่ประเทศไทยในทันที พร้อมๆ กับการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจอย่างเร่งด่วนที่สุด”
ไม่รู้ไพศาลไปได้ยินมาจากแหล่งไหน ว่า “มีการต่อสายเตรียมหารือกับผู้บริหารสูงสุดของสถาบันการเงิน ที่ดูแลการสนับสนุนทางการเงินของประเทศในเส้นทางสายไหมไว้แล้ว พร้อมกับมองหาผู้แทนทางการค้า ที่จะไปเจรจาความกับต่างประเทศ อย่างน้อย ๕-๑๐ คนด้วย
แหมนี่ ถ้าเป็นไปตามที่ไพศาลทำนายละก็ ประเทศชาติอาจจะลงหลักปักเสาประชาธิปไตยได้จริงๆ เสียที
