Somyot Pruksakasemsuk
12h
การท้าทายที่น่ารักของเด็กเปรตในศาลเยาวชน
หลังรัฐประหาร 2549 การตัดสินคดีความต่างๆของศาลยุติธรรม ‘ในพระปรมาภิไธยของพระมหากษัตริย์’ มีส่วนต่อการผลิกผันการเมืองไทยและทำให้ความเชื่อมั่นต่อความยุติธรรมลดน้อยถอยลงเริ่มจากการยอมรับการทำรัฐประหารว่าชอบด้วยกฎหมาย การตัดสินคดีแบบสองมาตรฐาน การยุบพรรคการเมือง จนกระทั่งล่าสุดการไม่ให้การประกันตัวแกนนำราษฎรที่ถูกยัดเยียด ข้อกล่าวหาตามมาตรา 112 จนมีการชุมนุม เดินขบวนเรียกร้องสิทธิการประกันตัวหลายครั้งล่าสุดตะวันและแบมได้อดอาหารและน้ำ ในเวลาไล่เลี่ยกันมีการออกหมายจับต่อน้องหยก เยาวชนอายุ 15 ปี ด้วยข้อหาตามมาตรา 112 โดยเธอท้าทายต่ออำนาจศาล ด้วยการนั่งหันหลังให้กับบัลลังก์ศาล ไม่ขอประกันตัว ไม่แต่งตั้งทนายความ ทำให้ศาลเยาวชนต้องสั่งคุมขังเธอที่บ้านปราณี
ผมเห็นภาพน้องหยกนั่งหันหลังศาลเช่นนี้แล้ว ดูไปก็เป็นการท้าทายที่น่ารักที่สุดของเด็กอายุ 15ปี การท้าทายของเยาวชนต่อศาลเช่นนี้ไม่เคยปรากฏมาก่อน บางคนอาจอุทานมาก็ได้ว่า ไอ้เด็กเปรต แต่เห็นภาพนี้แล้วก็ยังนึกไม่ออกเลยว่า ความกล้าหาญและความรู้ของเธอเกิดขึ้นได้อย่างไร ผลที่เกิดขึ้นศาลอาจทำให้เธอสุญเสียอิสรภาพในวัยอันสดใส สูญเสียโอกาสทางการศึกษา(กำลังเข้าเรียนม.4 เตรียมอุดม)และชีวิตเยาว์วัยที่มีคุณค่าต่อสังคมไทยไป
แต่ศาลที่เคารพรัก จะรู้สึกกันบ้างไหมว่านี่เรากำลังสู้กับเด็กๆ ในยุคสมัยที่เปลี่ยนแปลงไปมากแล้ว ความคิดเห็นของเด็กเหล่านี้มากับกาลเวลาที่เปลี่ยนแปลงไปแล้ว ลองหาเวลาว่างถอดเสื้อครุยแล้วมารับฟังความคิดเห็นของเด็กเหล่านี้กันอย่างจริงจังแล้วจะเข้าใจว่า ทำไมเราต้องช่วยกันสร้างหลักประกันในสิทธิเสรีภาพการแสดงความคิดเห็นและจะได้เข้าใจว่าทำไมเธอจึงต้องการให้มีการยกเลิกมาตรา 112
ปล่อยเด็กๆเหล่านี้ไปเถิด ไปให้พวกเธอได้เรียนรู้จากประสพการณ์ชีวิตของการลองถูกลองผิด ไปสู่ความฝันในสิทธิเสรภาพ เพื่อการเปลี่ยนแปลงสังคมไทยสู่ความทันสมัย