Jaran Ditapichai
23h ·
เอกสารแปลแจกจ่ายในวอชิงตัน เมื่อวานนี้
แถลงการณ์ประเทศไทยต่อการเปลี่ยนผ่านทางอำนาจที่จะถูกยกยกระดับความรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ
ตั้งแต่ที่กษัตริย์วชิราลงกรณ์ขึ้นครองราชย์ในนามรัชการที่10เมื่อวันที่1 ธันวาคม 2559 ประเทศไทยก็ค่อยๆคืบคลานเข้าสู่ระบอบกษัตริย์นิยม ในหลวงรัชกาลที่10ได้ทำการรวบอำนาจผ่านการช่วยเหลือของรัฐบาลทหารภายใต้การปกครองของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา
กษัตริย์วชิราลงกรณ์ได้ใช้วิธีรวบรวมอำนาจในหลากหลายรูปแบบ เช่น เมื่อเดือน กรกฏาคม 2560 รัฐบาลทหารได้แก้ไขกฏหมายจากปี พ.ศ. 2479 เพื่อให้อำนาจกษัตริย์ได้ควบคุมสำนักทรัพย์สินของพระมหากษัตริย์ ที่มีทรัพย์สินมากกว่า หลายแสนล้านบาทซึ่งเมื่อก่อนอยู่ในการควบคุมของกระทรวงการคลัง อีกทั้งหน่วยราชการในพระองค์และราชองค์รักษ์ยังถูกสั่งให้ท่องบทกลอนที่มีเนื้อหาเหมือนในยุคสมบูรณาญาสิทธิราชย์ในรัชกาลที่ 6 ช่วง (ปี 2424- 2468)
ในปี2560 ผู้บัญชาการตำรวจสูงสุดได้กล่าวกับนักข่าวอีกด้วยว่ากษัตริย์คือผู้ที่สั่งให้นายตำรวจทุกคนต้องแต่งเครื่องแบบด้วยชุดสีกากีในโทนเดียวกันทั้งหมด และในปีเดียวกันนั้นเองนายทหารมากกว่าสี่แสนคนได้ถูกสั่งให้ตัดผมและฝึกท่าการแสดงความเคารพแบบใหม่ ซึ่งทั้งสองคำสั่งนี้ได้ถูกออกแบบมาจากทหารองค์รักษ์ในวัง ดังนั้นแล้วข้าราชการไทยรวมถึงตำรวจและครูจึงจำเป็นต้องถูกส่งไปที่ค่ายทหารเพื่อฝึกฝนความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์
ทั้งหมดทั้งมวลนี้คือการพยายามรวบรวมอำนาจของกษัตริย์วชิราลงกรณ์ที่ค่อยๆแผ่อิทธิพลอย่างกว้างไกลในระดับที่นักวิชาการกล่าวว่าไม่เคยมีใครทำมาก่อนนับตั้งแต่การเปลี่ยนแปลงการปกครองในปี2475จนเกิดเป็นการประท้วงเรียกร้องปฏิรูปสถาบันกษัตริย์โดยเหล่านักเรียนนักศึกษาและประชาชนในหลายภาคส่วนดั่งเช่นทุกวันนี้ ข้อเรียกร้องที่เป็นประจักษ์ชัดได้แก่ ยกเลิกประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 เคารพหลักเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น การปล่อยนักโทษทางการเมือง ยกเลิกพ.ร.บ.จัดระเบียบทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ พ.ศ.2561 เพื่อแบ่งทรัพย์สินออกเป็น 2 ส่วนชัดเจน (ทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ อยู่ภายใต้การดูแลของกระทรวงการคลัง) ยกเลิกพระราชอำนาจในการแสดงความเห็นการทางการเมืองเพื่อป้องกันการเซ็นรัฐประหาร เป็นต้นฯ
แต่อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 10 พฤษจิกายน 2654 ศาลรัฐธรรมนูญได้กำหนดให้ข้อเรียกร้องเหล่านี้รวมถึงการจัดประท้วงๆต่างของแกนนำเช่น อานนท์ นำภา คือความพยายามที่จะล้มล้างระบอบการปกครองประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ซึ่งในขณะนี้มีประชาชนมากกว่าร้อยคนได้ถูกกล่าวหาว่าหมิ่นประมาทพระมหากษัตริย์เพียงเพราะพวกเขาแสดงความคิดเห็นและใช้สิทธิตามที่หลักรัฐธรรมนูญไทยให้การรับรอง
ประเทศไทยในวันนี้ค่อยๆคืบคลานไปสู่ความแตกแยกและความรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ ดังนั้นแล้วในฐานะที่ประเทศสหรัฐอเมริกาและไทยมีความสัมพันธ์อันดีงามมากกว่า 200 ปี ผมจึงอยากผลักดันให้สหรัฐอเมริกาใช้อิทธิพลจากความสัมพันธ์ฉันท์เพื่อนนี้ช่วยขัดเกลาให้ประเทศไทย”สยามเมืองยิ้ม”กลับสู่ระบอบประชาธิปไตยที่อยู่ภายใต้หลักนิติธรรมและเคารพหลักสิทธิมนุษยชนเฉกเช่นเดียวกับประเทศอันมีอารยะภายใต้ประชาคมโลกอย่างโดยเร็ว
12 มกราคม 2565
จรัล ดิษฐาอภิชัย
ประธานสมาคมนักประชาธิปไตยชาวไทยไร้พรมแดน