วันพุธ, ธันวาคม 08, 2564
จม. จาก เบนจา อะปัญ เวลาอยู่ข้างเรา
Benja Apan
10h ·
สวัสดีค่ะทุกคน
.
วันนี้ครบรอบสองเดือนแล้วที่เราเข้ามาอยู่ในทัณฑสถานหญิงกลาง ถูกปฏิเสธสิทธิการปล่อยตัวชั่วคราวมาหลายต่อหลายครั้ง ถูกพรากจากอิสรภาพและคนที่เรารัก ถูกทำลายอนาคตทางการศึกษา ถูกทำลายชีวิตและความฝันในวัย 22 ปี โดยสิ่งที่เรียกว่า “กระบวนการยุติธรรม”
.
หนูไม่เคยคิดว่าความปรารถนาดีต่อสังคม อยากให้ชีวิตของผู้คนดีขึ้น อยากให้สังคมมีความเท่าเทียม สิ่งเหล่านี้จะเป็นภัยความมั่นคง การยืนหยัดที่จะใช้เสรีภาพในการแสดงออก การวิพากษ์วิจารณ์ระบบและโครงสร้างสังคมอย่างบริสุทธิ์ใจ จะทำให้หนูต้องตกอยู่ในสถานะอาชญากร บางทีหนูก็สงสัยนะ ว่าหนูเป็นภัยความมั่นคงต่อชาติจริงๆหรอ
.
บางคนบอกว่าหนูหัวรุนแรงเกินไป เสียงของหนูเปลี่ยนอะไรไม่ได้หรอก หนูช่างไม่ฉลาดเสียเลยที่เอาตัวเองมาเสี่ยงกับอะไรแบบนี้ หนูควรไปใช้ชีวิตของตัวเอง และถ้าไม่อยากอยู่ที่นี่ก็ออกไปซะ สารพัดคำพูดต่าง ๆ นานา จนทำให้หนูเกิดคำถามกับตัวเองว่าหนูผิดอะไร หนูผิดหรอที่คิดว่าคนเราเกิดมาเป็นมนุษย์เหมือนกัน เราเลือกเกิดไม่ได้นี่ เราเลือกชาติตระกูลไม่ได้ ถ้าเลือกได้ใครมันจะอยากเกิดมาต่ำต้อย ใครจะเกิดมายากจน ใคร ๆ ก็คงจะเลือกเกิดในตระกูลที่สูงส่งกันหมด ถ้าบอกว่ามันเป็นเวรกรรม หรือเป็นเรื่องวาสนา หนูก็ว่ามันไม่แฟร์เท่าไหร่นะ รัฐต่างหากที่เป็นตัวกำหนดสถานะทางสังคมของเรา ไม่ใช่โชคชะตา เวรกรรม หรือวาสนาใด ๆ หรอก มันเป็นเรื่องของคนมีอำนาจที่อยากจะรักษาอำนาจตัวเองไว้ไม่ให้เสื่อมสลาย คนรวยก็คงไม่อยากจน คนมียศถาบรรดาศักดิ์ก็คงไม่อยากสูญเสียมันไป ใครมันจะอยากสูญเสียอำนาจในตนเองล่ะ จริงไหม
.
อำนาจเป็นสิ่งน่ากลัวแต่ไม่ใช่สิ่งเลวร้าย มันขึ้นอยู่กับว่าใครเป็นผู้ถืออำนาจนั้น และเขาใช้อำนาจเพื่อใครเพื่อตนเองหรือคนอื่น หนูยังคงยืนยันว่าอำนาจอธิปไตยเป็นของปวงชนทุกคนไม่ใช่ของใครคนใดคนหนึ่งหรือเพียงกลุ่มหนึ่ง ผู้ปกครองที่มีหน้าที่ปกครอง ไม่ได้หมายความว่าเขาสูงส่งหรือมีอำนาจเหนือประชาชน แต่มันหมายความว่าเขาถืออำนาจประชาชน และต้องใช้มันเพื่อประโยชน์สูงสุดของประชาชน ไม่ใช่ใช้เพื่อเอารัดเอาเปรียบ กดขี่ หรือทำนาบนหลังคน เพื่อผลประโยชน์ของตนเอง
.
สิ่งเหล่านี้ที่หนูพูดไม่ได้กล่าวหาหรือจาบจ้วงใครแต่หากเป็น “สามัญสำนึก” ของมนุษย์คนหนึ่งเท่านั้น ถึงหนูจะไม่ได้เรียนกฎหมาย ไม่มีอำนาจตัดสิน ที่จะชี้ถูกผิด หรือชี้ขาดเสรีสิทธิ ในชีวิตใคร แต่หนูยอมจำนนต่อความผิดปกติในสังคมไม่ได้ ยอมจำนนต่อการกดขี่ หรือมองดูผู้คนถูกกดขี่อย่างนิ่งเฉยดูดายไม่ได้ และด้วยสถานะผู้ต้องขังซึ่งไร้อิสรภาพอยู่ ณ เวลานี้ นี่คือสิ่งที่หนูพอจะทำได้
.
หนูยังคงหวังว่าหนูและเพื่อน ๆ ที่ถูกจองจำอยู่ จะได้รับอิสรภาพในเร็ววัน ยังคงหวังว่า “สามัญสำนึก” จะบังเกิดกับผู้ที่ถืออำนาจของประชาชนในที่สุด
.
เวลาอยู่ข้างเรา
เบนจา อะปัญ
วันที่ 61
ทัณฑสถานหญิงกลาง