วันศุกร์, ธันวาคม 03, 2564
#หลับเพื่อตื่น เบนจา เด็กที่ฝันไกลออกไปถึงเริ่องในอวกาศ คุณไม่สามารถขังเค้าได้หรอก
May Poonsukcharoen
15h ·
วิธีการไปเที่ยวของ Benja Apan คือการ #เที่ยวทิพย์
เบนจาเล่าว่า บจ.มีวิธีการไปเที่ยว คือการหลับตาและจินตนาการ หรือไม่ก็หลับไปเลยเพื่อหนีจากซี่กรงไปเที่ยว เวลาจะหลับบางทีก็จะบอกเพื่อนข้างๆว่าไปเที่ยวก่อนนะ เหมือนหนังเรื่อง Avatar ที่หลับแล้วตัวยังอยู่ในแคปซูล แต่ท่องไปยังอีกโลกได้ เป็นวิธีที่เบนจาใช้เที่ยว
.
เพื่อนในเรือนจำมักจะชอบแซวว่าบจ.นอนบ่อย แต่จริงๆบจ.แค่ไปเที่ยว ยิ่งถ้าหลับแล้วฝันจะดีมากเพราะเป็นวิธีเดียวที่จะพาบจ.ออกไปได้
.
ก่อนหน้านี้เบนจาบอกว่า ตั้งเป้าหมายไว้ว่าหากวันที่ 30 พ.ย. แล้วยังไม่ได้ประกันตัว บจ.จะเริ่มออกกำลังกาย เมื่อวานตอนเยี่ยมเราเลยถามว่าได้ออกกำลังหรือยัง บจ.บอกว่าเริ่มเต้นแอโรบิคตามทีวีที่เรือนจำเปิดช่วงบ่ายๆจะเป็นแอโรบิค
.
อีกเรื่องหนึ่งคือที่บจ.เล่าคือ การเป็นผู้ต้องขังระหว่างการพิจารณานั้น แม้ศาลจะยังไม่ได้ตัดสินคดี แต่สิทธิหรือสถานะต่างๆก็ดูจะแย่กว่าผู้ต้องขังที่ศาลตัดสิน คดีถึงที่สุดแล้วเสียอีก เพราะผู้ต้องขังที่ตัดสินคดีแล้วจะมีโอกาสเรียน จะสามารถทำงานต่างๆในเรือนจำได้ แต่ผู้ต้องขังระหว่างไม่สามารถทำได้
.
ยิ่งกว่านั้น หากยังอยู่ระหว่างการกักโรคด้วยแล้ว ผู้ต้องขังเข้าไปใหม่นั้นจะยิ่งลำบาก เพราะต้องอยู่ในห้องกัก 24 ชั่วโมงเลย หากไม่มีทนายความมาเยี่ยม ระหว่างการกักโรคญาติก็ไม่สามารถเยี่ยมผ่านไลน์ได้ หากญาติฝากเงินไว้ให้ใช้จ่ายซื้อสิ่งของจำเป็นก็ไม่สามารถเบิกมาใช้ระหว่างกักตัวได้ และแย่กว่านั้นคือจะเขียนจดหมายได้ในกรณีเดียวคือกรณีที่เข้ามาในเรือนจำแล้วญาติยังไม่รู้ ให้เขียนไปแจ้งญาติได้แค่นั้น นั่นแปลว่าระหว่างกักโรคผู้ต้องขังแทบจะสื่อสารกับใครไม่ได้เลย
.
การเขียนจดหมายจากเรือนจำนั้น ห้ามบอกว่าลำบาก ห้ามเขียนขอเงิน ห้ามเขียนขอสิ่งของ เจ้าหน้าที่อ้างว่าจะทำให้ญาติไม่สบายใจ OMG อยู่คุกไทยสบายใจจัง
.
เบนจาอยู่ในเรือนจำมา 56 วันแล้ว และเนื่องจากมีคดีความหลายคดี ทำให้เบนจาต้องอยู่ในห้องกักตลอด ยังไม่เคยลงแดนเลย โอกาสที่บจ.จะได้ออกจากห้องคือมีทนายมาเยี่ยมและไปศาลเท่านั้น เท่านั้น
.
หวังว่าเบนจาจะได้ออกมาในเร็ววัน
#ปล่อยเพื่อนเรา
เพิ่มเติม 14.30 น. ศาลอาญากรุงเทพใต้มีคำสั่งไม่อนุญาตให้ประกันเบนจาทั้งคดีซิโนไทยและคดีสถานฑูตเยอรมัน
Montree Thonglang
เด็กที่ฝันไกลออกไปถึงเริ่องในอวกาศ คุณไม่สามารถขังเค้าได้หรอก
#หลับเพื่อตื่น
...
Benja Apan
October 25 ·
มันทรมานเหมือนกันเนอะ ตอนที่มองนาฬิกาและปฏิทิน โดยที่ไม่รู้ว่าวันและเวลาของเราจะมาถึงเมื่อไหร่ และมันยิ่งเจ็บปวดยิ่งไปอีก ที่ต้องตกอยู่ในสภาพนี้ เพราะความอยุติธรรมของผู้ใช้กฎหมายและผู้ที่เรียกตัวเองว่า "ผู้ผดุงความยุติธรรม"
เบนจา
ทัณฑสถานหญิงกลาง
20 ตค 64
November 13 at 8:08 AM ·
"โลกและชีวิตเป็นสิ่งเคลื่อนไหว กาลเวลานำความเปลี่ยนแปลงมาสู่ทุกอย่าง" รัชนี ,ปีศาจ เสนีย์ เสาวพงษ์
#ไม่เอาสมบูรณาญาสิทธิราชย์
November 17 at 6:46 AM ·
เราทราบเรื่องที่เกิดขึ้นกับรุ้งแล้ว แต่เรายังคงไม่ได้เจอกับรุ้งที่นี่ เนื่องจากรุ้งยังติดกักตัว และมีความพยายามที่จะไม่ให้เราเห็นหน้ารุ้ง เราเสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น ไม่สมควรมีใครสักคนที่ต้องถูกพรากอิสรภาพเพราะพูดความจริง
แต่คนที่เราต้องแสดงความเสียใจมากกว่า เห็นทีจะเป็นแก เพราะยิ่งจะทำแบบนี้ นอกจากจะหยุดยั้ง การเปลี่ยนแปลงไม่ได้แล้วยังเป็นการสุมไปให้ตัวแกเองอีกด้วย แกอาจจะขังเราไว้ได้ในซี่กรง แกอาจจะเหยียบย่ำพวกเราด้วยวิธีการต่างๆนานนา หรือทรมานพวกเราจนเราตายจากไป แต่แกจะไม่ได้ความรักและศรัทธาจากผู้คน มิหนำซ้ำยังลดน้อยลงทุกวินาที และสิ่งที่เพิ่มพูน คงเป็นความขยะแขยงและเกลียดชังแทน ผู้คนจะสาปแช่งพวกแก เพราะพวกแกคือต้นเหตุของความทุกข์ยาก ที่วันๆเอาแต่สเวยสุขบนซากศพประชาชน สักวันแกจะต้องพังทลายลงอีกไม่นานหรอก
เมื่อใดที่แสดงสว่างได้ถูกส่องมายังนครอันมืดมิด เมื่อนั้นประชาชนย่อมเห็นความจริง ว่าใครเป็นคนนำพามาซึ่งความทมิฬสู่แผ่นนี้
หยิ่งทะนงองอาจในศักดิ์ศรี
อย่าให้ใครย่ำยีความเป็น
หยิ่งทะนงองอาจในตัวตน
อย่ายอมทนการกดขี่จากชนใด
ด้วยรักและอุดมการณ์
เบนจา อะปัญ
ทัณฑสถานหญิงกลาง
17 พฤศจิกายน 2564
วันที่ 40 ของการถูกขัง
November 20 at 8:06 AM ·
ทนายเล่าให้เบนจาฟังเรื่องที่ facebook เปลี่ยนเป็น Metaverse และวิสัยทัศน์ของมาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก บจ.เลยฝากข้อความมาว่า
“facebook แม่งพัฒนาไปไกลแต่เรายังติดในทัณฑสถานหญิงกลาง ช่วยด้วยอยากสัมผัสโลกอนาคต ปล่อยเพื่อนกู ปล่อยกูด้วย”
November 23 at 7:44 AM ·
ตอนนี้นักสู้ผู้น่ารักทั้งสองได้อยู่ด้วยกันแล้ว (ในห้องกักสำหรับคนเวียนออกศาล) คิดถึงคนข้างนอกเสมอมา อยู่ในนี้ช่วยดูแลกันและกันไปก่อน กำลังใจยังเต็มเปี่ยมทั้งคู่ รอวันที่จะพบทุกคนเสมอ
วันนี้อยากเล่าเรื่องคนป่วยให้ฟังด้วย เมื่อมีคนป่วยแต่ละครั้ง ที่นี่ต้องใช้วิธีตะโกนเรียกเจ้าหน้าที่ขึ้นมา (มีกริ่งให้กดเรียกอยู่หนึ่งจุดแต่ใช้งานไม่ได้ตั้งแต่เข้ามาแล้ว) มันยากมาก ในแต่ละครั้งต้องใช้เวลานาน ยิ่งอยู่ชั้นบนก็ยากขึ้นไปอีก เวลามีคนป่วยต้องตะโกนและรอฟัง หากเจ้าหน้าที่ไม่ขานรับก็ต้องตะโกนอีก 10 นาที 20 นาที 25 นาที ก็ว่าไปหากไม่มีคนตอบรับ เราเห็นว่าเป็นวิธีที่ไม่เห็นความสำคัญของคน เพราะทำได้เพียงตะโกนและรอคอยว่าเจ้าหน้าที่จะได้ยินมั้ย จะขึ้นมาหรือเปล่า เมื่อเจ้าหน้าที่ขึ้นมา ท่าทีส่วนใหญ่ก็ไม่ดีทั้งที่คนเจ็บป่วย ไม่มีใครเขาอยากป่วยหรอก
ล่าสุดมีคนป่วยอยู่ห้องด้านข้าง เขาอาเจียน และพยายามเรียกแล้วเจ้าหน้าที่ไม่ได้ยิน รุ้งเลยช่วยเขียนข้อความใส่กระดาษเอาไปชูที่กล้องวงจรปิดให้เจ้าหน้าที่เห็น แต่ก็ไม่มีเสียงตอบรับ จนเราต้องช่วยตะโกนอีกหลายรอบเจ้าหน้าที่จึงจะมา อยากเสนอว่าควรมีระบบสื่อสารระหว่างผู้ต้องขังและเจ้าหน้าที่ที่มีประสิทธิภาพด้วย
เบนจา อะปัญ
ทัณฑสถานหญิงกลาง
23 พฤศจิกายน 2564
November 24 at 5:12 AM ·
วัฒนธรรมเป็นสิ่งที่แปรเปลี่ยนไปตามยุคสมัย
สมัยก่อนเรานุ่งผ้าถุง เปลือยอก นุ่งโจงกระเบน
กินข้าวด้วยมือ อาบน้ำริมคลอง
แต่ปัจจุบันนี้ คนส่วนมากในสังคมก็ไม่ได้ทำแบบนั้นแล้ว
ที่ศาลรัฐธรรมนูญบอกว่า สถาบันพระมหากษัตริย์ที่มีมาหลายร้อยปี แต่อย่าลืมว่าโลกมนุษย์ยุคหินก็ไม่มีสถาบันกษัตริย์มาตั้งแต่แรก (หนูไม่ได้บอกให้เรากลับไปยุคหินนะ)
วัฒนธรรมของเราในวันนี้ ก็เกิดจากการเปลี่ยนแปลงตามยุคสมัยนั่นแหละ
ทั้งนี้ก็เพื่อให้เข้ากับมนุษย์ในสังคมนั้น ๆ
แมลงสาบมันยังมีวิวัฒนาการเลย
มันถึงอยู่ได้มาจนถึงวันนี้
(หนูไม่ได้บอกนะว่าสถาบันคือแมลงสาบ หนูแค่อ้างอิงตามวิทยาศาสตร์เฉย ๆ )
แต่ก่อนเราเป็นลิง เรายังกลายมาเป็นคนได้เลย
การปฏิรูปก็เป็นวิธีหนึ่งที่จะทำให้วัฒนธรรม สถาบันกษัตริย์
ได้ทำการปรับวิธี ปรับตัว เพื่ออยู่ร่วมในสังคมยุคปัจจุบันนั่นเอง
มันก็คือ วิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิตนั่นแหละ
บจ
ทัณฑสถานหญิงกลาง
24 พฤศจิกายน 2564
Benja Apan
Yesterday at 12:41 AM ·
เราดรอปเรียนในเทอมนี้แล้ว หลังจากศาลไม่อนุญาตให้เราประกันตัว
ก่อนหน้านี้ เราลงทะเบียนและเข้าสอบตามปกติ แต่อย่างที่หลายคนอาจจะเห็นช่วงสอบ Midterm เราก็ยังต้องไปศาล ไปสถานีตำรวจ และถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจรังควาญ และเราก็ถูกตำรวจจับ
เราจำเป็นต้องเลือกว่าจะลงทะเบียนต่อไปและหวังว่าศาลจะอนุญาตให้ประกันตัว หรือจะ drop การเรียนไว้ก่อน ช่วงที่เราเกิดปัญหาอาจารย์คณะเรา ไม่ได้ยื่นมือเข้ามาช่วยเหลืออะไร มีเพียงเพื่อนที่ช่วยเท่าที่ช่วยได้ แต่ก็ไม่เหมือนความช่วยเหลือจากอาจารย์ ไม่เหมือนกับอาจารย์คณะทางสังคมที่ให้ความช่วยเหลือเพื่อน ๆ เมื่อต้องเข้าเรือนจำเราจึงไม่ได้คาดหวังว่าเขาจะเห็นความสำคัญของการเรียนต้องจัด class เรียนให้เราเฉพาะ
การต้องอยู่ในเรือนจำกับการเรียนสายวิศวกรรมที่ต้องมีการคำนวณนั้นยากลำบาก แค่ผลกระทบจากการต้องเรียน online ก็ไม่สะดวกมากอยู่แล้ว ถ้าต้องเรียนในเรือนจำ ถ้าเราคำนวณไม่ได้จะถามใคร จะค้นหาคำตอบอย่างไร เราจึงตัดสินใจดรอปการเรียนในเทอมนี้เนื่องจากติดอยู่ในเรือนจำ เพราะเราคาดหวังผลการเรียนที่ดี เพื่อใช้ในการเรียนต่อปริญญาโทและปริญญาเอก
ถึง ณ ตอนนี้ เราไม่มีเหตุจำเป็นแบบเพื่อนที่ต้องออกไปสอบปลายภาค แต่เราก็ยังเป็นนักศึกษา และต้องการออกไปเรียน เราเรียนวิศวกรรมเครื่องกลเพื่อเป็น foundation เพื่อไปต่อปริญญาโท Aerospace Engineering เราอยากทำงานด้านอวกาศ แต่เราวางแผนว่าจะเรียนให้จบปริญญาเอก เพราะไม่ได้หวังว่าจะเป็นวิศวกรไปตลอด บั้นปลายชีวิตอยากเป็นอาจารย์ เลยอยากเรียนเฉพาะทางเพื่อเอามาพัฒนาประเทศในสาขาที่ประเทศไทยก็ยังขาดความรู้ด้านนี้ เพราะการเป็นอาจารย์และนักวิจัยก็สามารถทำคู่กันไปได้
ตอนนี้เราเกรดเฉลี่ยประมาณ 3.3 เราอยากเรียนเมื่อเราพร้อม เราจึงดรอปไว้ก่อนเพราะไม่อยากให้การติดคุกมีผลต่อเกรดและอนาคต ถึงเราดรอปและไม่มีกำหนดสอบในเทอมนี้ แต่ปล่อยเราเถอะ เรายังต้องเรียน เรามีประโยชน์มากกว่าที่จะกักขังเราไว้ในเรือนจำเฉย ๆ แค่นี้ยังทำลายอนาคตเราไม่พออีกหรือ
ตอนนี้เราสงสัยว่านอกจากอาจารย์บางท่านที่เข้าใจนักศึกษา แต่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ As a whole ในฐานะที่เป็นองค์กรนั้นหายไปไหนเหรอ และตอนนี้ก็เริ่มสงสัยว่าหรือเราเองที่เข้าใจผิดมาตลอด เริ่มงงว่าเราผิดจริงเหรอ
ตอนนี้ถูกแยกห้องกับรุ้งและในห้องมีอยู่ 27 คน ต้องนอนเบียดกัน นอนงอเข่า เพื่อนในห้องบอกว่า “เดี๋ยวก็ชิน” แต่เราสงสัยว่าทำไมต้องชิน ในเมื่อเราทำให้ดีกว่านี้ได้ ในเรือนจำเองก็ต้องพัฒนา
เบนจา อะปัญ
ทัณฑสถานหญิงกลาง
30 พฤศจิกายน 2564