วันพฤหัสบดี, กรกฎาคม 08, 2564

เอาแล้วไง ไม่ถึงอาทิตย์ติด ๗ พัน มันมาไวกว่าที่คาด อีกสองอาทิตย์ติดเป็นหมื่น


เอาแล้วไง มันมาไวกว่าที่คาดหมาย ขนาดตอนนี้ไม่มีใครกล้าแหลแถไถ ได้แต่ฉอดแล้วโดนอัดเละ ให้รองโฆษกแถลงแจงแทนว่า เดลต้า เริ่มซัลโวแล้วนะ “จะมีผู้ติดเชื้อเพิ่มเป็น ๒ เท่าภายใน ๒ สัปดาห์” นั่นคืออาทิตย์หน้าจะถึงหมื่นรายต่อวัน

ไม่ทันไร วันนี้ (๘ กรกฎา) ติดเพิ่มปาเข้าไป ๗,๐๕๘ ราย ตายอีก ๗๕ ไม่ทันถึงอาทิตย์หน้าอาจได้ถึงหมื่นตามทำนาย สรุปได้หรือยังว่าเป็นเพราะการไร้ความสามารถของผู้บริหารประเทศเป็นเหตุหลัก เริ่มจากแทงกั๊กวัคซีน รอยี่ห้อพระมหากรุณาธิคุณ

กับกันท่ายี่ห้อฝรั่ง เอาแต่ของมหามิตรจีน ที่ประสิทธิภาพต่ำแต่ราคาแพง จนผู้คนกังขาว่ามันมีส่วนต่างเงินทอนกันหรือเปล่า โพนทะนาว่าซิโนแว็คมาไวมาบ่อย ฉีดไปแล้ว ๑๑.๓ ล้านโด๊สเซส (ซึ่งก็ยังน้อยไปอยู่ดี) นัยว่าปูพรมแล้วนา ที่ไหนได้มันแค่ ปูเสื่อ

แม้ว่าตอนหลังนี่จะมีแอสตร้าเซเนก้ากับซิโนฟาร์มเข้ามาเสริม จำนวนฉีดครบสองเข็มก็ยังจิ๊บจ้อย แค่ ๔.๗ เปอร์เซ็นต์ หรือเพียง ๓ ล้านโด๊สเซสกว่าๆ นอกนั้นเป็นเข็มแรก ๘.๒๔๕ ล้านโด๊สเซส อย่าว่าแต่จะพอต้านเชื้อกลายพันธุ์เดลต้าเลย ตัวเดิมอัลฟ่าก็เอาไม่อยู่

ศบค.ยอมรับแล้วว่าการติดเชื้อเพิ่มไม่ได้กระจุกอยู่แต่ในพื้นที่ กทม.และปริมณฑลเท่านั้น เชื้ออกไปแพร่ต่างจังหวัดพอๆ กัน ๕๐-๕๐ อย่างน้อยๆ ๔๐ จังหวัด อีสานมากสุด ๑๗ จังหวัด รองลงมาภาคเหนือ ๑๑ จังหวัด ภาคกลางและตะวันออก ๙ จังหวัด

แล้วใน กทม.นั้นเอง ใช่ว่าจะวนเวียนแต่ในแหล่งพบปะและอาศัยของผู้ใช้แรงงานเท่านั้น มันลุกลามออกไปตามสถานที่ราชการและย่านธุรกิจแล้วด้วย กระทั่งสถานีตำรวจก็ยังติดกันระนาว ดังกรณี สน.พระราชวัง ติดเกือบยกโรงพัก

“ผู้กำกับ ๕ เสือ ติดโควิดไปแล้ว ๔ เสือ อีก ๑ เสือ ไม่ติด คนนั้นคือคนเดียวที่ฉีดแอสตร้าฯ ส่วนที่เหลือฉีดซิโนแวค ๒ โด๊สเซส” ARM SAMYAN@armupdate เก็บเอามาเม้าท์บนทวิตเตอร์ ท่ามกลางเสียงวิจารณ์เรื่องตำรวจเฝ้าทำเนียบรัฐบาลยังติด

แล้วยังจะมีหน้าให้กระทรวงต่างประเทศออกมาหาซีน โฆษกแถลงว่าพวกเราเองนะที่ทำให้ได้วัคซีนไฟ้เซอร์ล้านครึ่งซึ่งสหรัฐบริจาค ว่าใช้การทูตเชิงรุกตามตื๊อสหรัฐตั้งแต่เดือนกุมภาโน่น แท้จริงเรื่องนี้เป็นที่สหรัฐเองใช้นโยบายรุกคาดตัดหน้าจีนเสียมากกว่า

วานนี้ (๗ กรกฎา) สถานทูตอเมริกาประชาสัมพันธ์ แจงยับว่าช่วยไทยในเรื่องโควิดมาแล้วเท่าไหร่ “เป็นมูลค่ากว่า ๔๐ ล้านดอลลาร์ (๑,๒๘๐ ล้านบาท) โดยเฉพาะด้าน “เครื่องช่วยหายใจ หน้ากากกรองอากาศ ชุดตรวจหาการติดเชื้อ หน้ากากอนามัย

แว่นตานิรภัย และอุปกรณ์ป้องกันอื่นๆ สำหรับแพทย์และพยาบาลชาวไทย มูลค่ารวม ๒๘.๕ ล้านดอลลาร์” แล้วยังจะมีจำนวนวัคซีนล็อตใหม่กำลังจะมา “กว่า ๒๓ ล้านโด๊สเซสให้กับประเทศต่างๆ ในเอเชีย ซึ่งจะทำให้ภูมิภาคนี้รวมถึงประเทศไทยปลอดภัย”


การที่ กทม.เริ่มโครงการตรวจหาเชื้อเชิงรุก ตั้งหน่วยตรวจโดยแบ่งพื้นที่เป็น ๖ โซน เปิดตรวจทุกวันระหว่างเวลา ๘ โมงเช้าถึงบ่ายสอง ปรากฏว่าที่หน่วยวัดพระศรีมหาธาตุ มีคนไปรอรับบัตรคิวที่จะเริ่มแจกตอน ๖ โมงเช้ากันยาวเหยียดตั้งแต่กลางดึก

Pat_ThaiPBS@Pat_ThaiPBS รายงานเมื่อตอน ๙ โมงกว่าว่า “แจกคิวครบ ๙๐๐ คิวแล้ว / หลายคนเดินทางมา แต่ไม่ได้คิวต้องเดินทางกลับ/ คนได้คิวแรก เดินทางมาถึง ๖ โมงเย็น เมื่อวานนี้/ส่วนคนได้คิว ๖๑๒ เดินทางมาถึงวัด ราวๆ ตี ๓”

ดูเอาก็แล้วกัน ว่าสถานการณ์เริ่มจะเข้าขั้นเอน็จอนาจแล้วไหม ขณะที่สำนักข่าวนิคเคอิของญี่ปุ่นตีพิมพ์ดัชนีจัดอันดับประเทศต่างๆ ที่จัดการวิกฤตโควิดได้ดีแค่ไหน จีนอันดับ ๑ สิงคโปร์ ๑๒ สหรัฐ ๒๗ สหราชอาณาจักร ๔๘ ลาว ๖๖ แต่ไทยไปโน่น ๑๑๘

ผู้นำไทย ประยุทธ์ จันทร์อะไรนะ ซึ่งอยู่ระหว่างกักตัวเป็นวันที่สาม ออกพีอาร์จัดฉาก ประชุมทางไกล ในห้องทำงาน ถ่ายภาพขณะเซ็นหนังสือ แต่เน้นรูปบนฝาผนัง โหนรัชกาลในสัมปรายภพ ว่า “สืบสาน รักษา ต่อยอด งานโครงการหลวง”

ทำนอง ปิดทองหลังพระ ที่ wasanawong@WasanaWW ให้ความกระจ่าง “เป็นโฆษณาชวนเชื่อที่เผด็จการประเทศนี้ทำมานานแล้ว เดี๋ยวนี้ไม่ต้องพึ่งวาสนา นาน่วมแล้วนะจ๊ะ ถ่ายเองโพสต์เองนักเลงพอ #ผู้นําตายเราจะรอดกันหมด”

(https://www.facebook.com/thestandardth/posts/2789762227983318, https://www.matichon.co.th/local/quality-life/news_2817729 และ  https://www.matichon.co.th/news-monitor/news_2817753)