Pannaporn Thongsuk is
feeling drained.20h ·
ขอพื้นที่เล็กๆ ระบายส่วนตัว จากการมาช่วยทำงานที่บุศราคัมสองสัปดาห์มานี้ ได้ดูคนไข้หนักโซนแดง คือคนไข้ที่ใช้ออกซิเจนอัตราไหลสูง (High flow nasal canula) กับ คนไข้ใส่ท่อช่วยหายใจรอรีเฟอร์เป็นหลัก.......คนไข้หนักเยอะมาก คนไข้ HFNC 150 กว่าราย, และใส่ท่อช่วยหายใจ 5-6 รายที่รีเฟอร์ไม่ออก ระบบสาธารณสุขกำลังจะล่ม หรือล่มไปแล้วนะ นี่ประเทศไทย หรืออินเดียสองกันแน่.....
แทบทุกวัน หรือเกือบทุกเวรที่เราอยู่เวร จะต้องมีคนไข้ arrest หรือ หัวใจหยุดเต้น อายุไม่มาก 50-60 ปี มีทั้งเดินไปเข้าห้องน้ำ แล้วหมดสติในห้องน้ำ, นอนหายใจ air hunger ข้างเตียง, บางรายก็น่าจะแย่จากภาวะน้ำตาลในเลือดสูง (DKA, HHS) จากการให้สเตียรอยด์ (ที่เราไม่สามารถเจาะ DTX ทุก 1 ชั่วโมงได้) ภาวะโพแทสเซียมสูง เลือดเป็นกรด ต่างๆ นานา.....อย่างเวรดึกวันนี้ โดนตามด้วยคนไข้หมดสติข้างเตียง แบบตัวเย็นซีดไปแล้ว แบบที่พวกเราทำอะไรไม่ได้เลย คนข้างเตียงช่วยกันปั๊มคนไข้ แพทย์ทีม MERT เข้าไปถึงก็ไม่ทันการณ์แล้วจริงๆ ได้แต่โทรหาญาติ ก็ไม่มีเบอร์ ต้องให้คนข้างเตียงดูเบอร์ล่าสุดที่เค้าโทรออกคือเบอร์ภรรยา ภรรยาบอกตีหนึ่งคนไข้โทรหาว่าเหนื่อย ไม่ไหวแล้ว เช้ามืดต้องมาฟังข่าวร้ายว่า สามีได้เสียชีวิตไปแล้ว คงช๊อคมาก ไม่รู้จะพูดอย่างไร......จะต้องมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดซ้ำแล้วซ้ำเล่าอีกเท่าไร......คนไข้บางรายที่อาการแย่ๆ ก็พยายามยื้อด้วย HFNC high setting และจับนอนคว่ำ เพราะการใส่ทิ้ว แทบจะเกือบร้อยเปอร์เซ็นต์ อาการแย่ลงจนถึงเสียชีวิต ด้วยตัวโรคที่เป็นมากขึ้นและการดูแลที่ไม่สามารถ close monitor ได้ดีพอ เนื่องจากเราเป็น รพ. สนาม ยังไงก็ต้องรีเฟอร์ออกเท่านั้น แต่ก็ทำได้ยากมากๆๆ เพราะที่อื่นก็เต็มเหมือนกัน......
หนักใจในสถานการณ์แบบนี้ที่ต้องเจอตลอด........ประเทศไทยมาถึงจุดนี้ได้อย่างไร และจะมีทางออกอย่างไร ยังมองไม่เห็นทาง นอกจากวัคซีน ที่ไม่รู้ว่าจะได้เมื่อไหร่ พยาบาลด่านหน้าทีม MERT ที่ต้องเข้าไปดูคนไข้วิกฤตบางคนยังได้วัคซีนกันไม่ครบเลย คนกลุ่มนี้เค้าทำงานหนักกว่าเราอีก.......จะต้องมีอีกกี่การสูญเสียของคนในครอบครัว.....น่าเศร้าใจจริง.....ในฐานะเราเป็นหมอตัวเล็กๆ คนนึง คงทำหน้าที่ตรงนี้ได้ดีที่สุดเท่านี้ ดูแลคนไข้จำนวนมาก 3-4 พันคนใน รพ.สนาม ก็ต้องเซฟบุคลากร พี่พยาบาลที่เค้าทำงานหนักกว่าเราด้วย.....ดูแลเท่าที่ทำได้ เท่านี้จริงๆ
