วันจันทร์, กรกฎาคม 05, 2564

วิถีผู้ขบถ เบิร์ด ผู้ชุมนุมที่ถูกดักทำร้ายจนกระดูกหลังร้าว แต่ยืนยันจะร่วมชุมนุมต่อ เพราะนี่คือหน้าที่ในสังคมอันบิดเบี้ยว "… ไม่ได้รู้สึกว่าตัวเองเป็นคนดี แต่มันเป็นหน้าที่ที่เราต้องทำ ไม่ใช่เพื่อให้คนชม แต่เป็นสิ่งที่ต้องทำเมื่อเราอยู่ในสังคมที่มันบิดเบี้ยว”


ประชาไท Prachatai.com
8h ·

เบิร์ด ผู้ชุมนุมที่ถูกดักทำร้ายจนกระดูกหลังร้าว แต่ยืนยันจะร่วมชุมนุมต่อ เพราะนี่คือหน้าที่ในสังคมอันบิดเบี้ยว
.
เวลา 19.33 น. เบิร์ด ประชาชน และผู้ร่วมเสวนากิจกรรมจัดโดยกลุ่มโมกหลวงริมน้ำ เปิดเผยประสบการณ์การถูกดักทำร้าย และความเพิกเฉยของเจ้าหน้าที่พิทักษ์สันติราษฎร์ในการสืบหาตัวผู้กระทำความผิด
.
ก่อนเล่าเหตุการณ์ที่เขาถูกทำร้าย เบิร์ด เล่าให้ฟังถึงจุดเริ่มต้นที่เขาเริ่มออกมาร่วมชุมนุมว่า เป็นเพราะเขารู้สึกโกรธมาก และรับไม่ได้กับการบังคับสูญหายของวันเฉลิมที่กรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา
.
“ผมรับไม่ได้ตอนที่คุณวันเฉลิมถูกอุ้ม และก็คนในสังคม รวมทั้งรัฐ ทั้งสลิ่ม เขาทำเรื่องนี้เป็นเรื่องตลก (make fun) จากการหายตัวไปของวันเฉลิม ผมเลยออกมาเคลื่อนไหวทางการเมืองตั้งแต่ตอนนั้น” เบิร์ด กล่าว
.
เบิร์ด กล่าวว่า ตนไปม็อบมาตลอด จนกระทั่งวันที่ 6 มี.ค. 64 ขณะที่เขากลับบ้านจากการชุมนุมที่หน้าศาลอาญา ถนนรัชดาฯ เบิร์ด ถูกกลุ่มชาย 4 คน สะกดรอยตามมาจากม็อบ และลอบทำร้าย เบิร์ด จนกระดูกที่หลังร้าว
.
เบิร์ด กล่าวต่อว่า วินาทีแรกที่โดนทำร้าย เขาทราบทันทีว่าตำรวจจะไม่ช่วยอะไร แม้จะแจ้งความก็ตาม และก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ หลังเบิร์ดเข้ารักษาที่โรงพยาบาล และเริ่มมีเรี่ยวแรงลุกขึ้นเดินได้ ตำรวจไม่ทำอะไรเลย เบิร์ดต้องหาพยานหลักฐานด้วยตัวคนเดียวทั้งหมดเพื่อเอาผิดกับคนร้าย คุยกับเพื่อนบ้านเพื่อขอภาพในกล้องวงจรปิด สัมภาษณ์พยาน สิ่งที่เกิดขึ้นทำให้เบิร์ดหันมาตั้งคำถามต่อการทำงานของตำรวจว่านี่เป็นงานของตำรวจใช่หรือไม่ ทำไมเหยื่อต้องมาหาหลักฐานเอง
.
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าจะถูกทำร้ายจนบาดเจ็บสาหัส แต่เบิร์ด ยืนยันว่าเขาจะมาร่วมชุมนุมต่อไป เพราะเขารู้สึกว่ามันเป็น 'หน้าที่' ที่ต้่องออกมาส่งเสียง เมื่อสังคมมันบิดเบี้ยว
.
“ตอนที่ผมโดนทำร้าย จนฟื้น เริ่มเดินได้ ผมก็ออกมาเคลื่อนไหวอีกครั้ง … ไม่ได้รู้สึกว่าตัวเองเป็นคนดี แต่มันเป็นหน้าที่ที่เราต้องทำ ไม่ใช่เพื่อให้คนชม แต่เป็นสิ่งที่ต้องทำเมื่อเราอยู่ในสังคมที่มันบิดเบี้ยว” เบิร์ด ทิ้งท้าย
 
https://www.facebook.com/Prachatai/photos/a.376656526698/10158469302001699/