วันพุธ, กรกฎาคม 14, 2564

นิวโลว์ให้สุด! วันนี้เครือข่ายแรงงานข้ามชาติเปิดเผยจดหมายของก.แรงงานที่ให้ระงับการตรวจเชื้อโควิดให้แรงงานข้ามชาติในพื้นที่กทม.และปริมณฑล นอกเหนือจากสั่งหยุดงาน กักบริเวณในแคมป์ รัฐเคยเห็นเขาเป็นคนบ้างไหม? ชุมชนแรงงานต่างด้าวไม่ปลอดภัย คนไทยก็ไม่ปลอดภัย !!




Migrant Working Group
11h ·

นิวโลว์ให้สุด!
ณ วันนี้ วิกฤติโควิดอาจจะน่ากลัวน้อยกว่าวิกฤติปัญญาความสามารถในการจัดการเพื่อควบคุมโรคของรัฐบาลแล้ว
รัฐมีนโยบายเลือกปฏิบัติต่อแรงงานข้ามชาติอย่างชัดเจน ไล่เรียงมาตั้งแต่นโยบายการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบการโควิดด้วยการเยียวยาตามาตรา 33 แห่ง พรบ.ประกันสังคม ที่ไม่รวมแรงงานข้ามชาติในระบบประกันสังคม กีดกันไม่ให้แรงงานข้ามชาติเข้าถึงการตรวจหาเชื้อโควิดด้วยการจำกัดให้การตรวจหาเชื้อสามารถตรวจได้เฉพาะแรงงานที่มีเอกสารเท่านั้น ทั้งๆที่รัฐทราบดีว่า "โควิดไม่เลือกที่รักมักที่ชัง" จะชาติไหน มีบัตรหรือไม่ก็มีโอกาสติดโควิดเหมือนกัน และถ้าแรงงานข้ามชาติที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงไม่ว่าจะมีเอกสารหรือไม่มีเอกสารไม่ปลอดภัย พวกเราทุกคนก็ไม่มีทางปลอดภัย
ล่าสุดออกคำสั่งนิวโลว์ขั้นสุดอีกตามหนังสือฉบับนี้ คือยกเลิกการตรวจหาเชื้อในแรงงานข้ามชาติที่มีเอกสารประจำตัวที่เป็นกลุ่มเสี่ยงอีก คำสั่งเช่นนี้คือ ใบอนุญาตปล่อยให้คนตายใช่หรือไม่?
นี่ไม่ใช่การปกป้องแรงงานข้ามชาติแต่เป็นการเรียกร้องเพื่อให้รัฐคุ้มครองพวกเราทุกคน ให้ทุกคนเข้าถึงการควบคุมป้องกันโรคเพื่อความปลอดภัยของทุกคน เพราะพวกเราจะไม่มีความปลอดภัยถ้าทุกคนไม่ปลอดภัย
รัฐต้องหยุด! ดำเนินนโยบายด้วยการเลือกคุ้มครองหรือปกป้องใคร แต่ต้องจัดลำดับความสำคัญให้กลุ่มเสี่ยงทุกกลุ่มเข้าถึงการตรวจหาเชื้อและให้กลุ่มเสี่ยงได้รับวัคซีนโดยเร็วที่สุดเพื่อลดความร้ายแรงของการแพร่ระบาดโดยไม่เลือกปฎิบัติเหมือนที่โควิดไม่เลือกที่จะติดหรือไม่ติดใคร
รัฐต้องหยุด! สั่งการเฉพาะเรื่องคนต่างด้าว เพราะมันเป็นคำสั่งที่ชี้หน้ารัฐเองว่าเป็นคนล้มเหลวในการจัดการโรคระบาดและความล้าหลังของรัฐที่ไม่สามารถก้าวข้ามการไม่เลือกปฏิบัติด้วยเหตุทางเชื้อชาติได้

การเลือกปฎิบัติในทศวรรษที่ 21 เป็นเรื่องน่าละอาย และการเลือกปฏิบัติในภาวะวิกฤติโรคระบาดเช่นนี้เป็นเรื่องที่น่ารังเกียจ #ผู้นำโง่พวกเราจะตายกันหมด