คุณหมอทีวีสีกลับมาแล้ว ‘ฉอด’ โมเดล ‘เถียงนา’ ว่าน่ารักมากกกก เนื่องจาก ‘surge’ หรือการติดเชื้อโควิดเพิ่มไม่ขาดสายในตอนนี้นั้น กรมควบคุมโรคพบว่า “การกระจายเชื้อมาจากการเดินทางไปภาคตะวันออกเฉียงเหนือ” มากที่สุด
รองลงไปเป็นภาคเหนือ “คาดว่ามาจากพี่น้องคนใช้แรงงาน” อันนี้เขาประเมินตามตัวเลขเมื่อวานนี่ (๖ กรกฎา) ซึ่งก็อยู่ในเกณฑ์ใกล้เคียงกับสถิติที่เป็นมาตลอดอาทิตย์ และไม่ได้ห่างจากสถิติก่อนหน้านั้นเป็นแรมเดือนเท่าไรนัก
ฉะนี้คำพูดของเลขาฯ ศูนย์ปฏิบัติการโควิด พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ ตอบข้อซักถามผู้สื่อข่าวเรื่องว่าจะมีการล็อคดาวน์เต็มรูปแบบไหม ว่าขอดูให้ครบ ๑๕ วันก่อน เพื่อ “ประเมินทีเดียวให้ครบถ้วน...ขณะนี้ตัวเลขผู้ติดเชื้อยังทรงตัวอยู่” ไม่ถูกต้อง
วันนี้จำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มอีก ๖,๕๑๙ ราย คนตายก็ ๕๔ ตายสะสมไม่ถึงสองเดือนนี่เข้าไปสองพันแล้ว ไม่เรียกว่า ‘ทรงตัว’ ควรต้องบอกว่า ‘ไม่ยอมลด’ จึงจะตรงกับความเป็นจริง แล้วทำให้เกิดจิตสำนึกในความเร่งด่วน ‘sense of urgency’ เสียบ้าง
ดูจากตัวเลขติดเชื้อเมื่อ ๓ กรกฎา มีคนไปค้นของประเทศต่างๆ ในภูมิภาคมาเทียบ ของไทยสูงโด่ที่ ๖ พันกว่า รองลงไปเป็นพม่าไม่ถึง ๒ พัน ลองอ่านที่แพทย์นิติเวชท่านหนึ่งเล่าทางเฟชบุ๊ค “สถานการณ์โควิดใน กทม. นั้นหนักมากขนาดไหน”
‘Smith Fa Srisont’ ว่าได้ทำการ “swab ตรวจโควิด-19 จากศพ แล้วเจอ positive เยอะมาก...หนักมากครับ ผู้ป่วยกับตายที่เห็นนี่ไม่เป็นตัวเลขจริงแน่นอนครับ มีเยอะกว่านั้นมาก” รายหนึ่ง “รู้แน่นอนว่าเป็นโควิดแต่ไม่มีเตียง admit แล้วก็ตายในที่เกิดเหตุ”
และจากที่ นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน พูดเองว่าเกิดคลัสเตอร์ใหม่ๆ ทั้งใน กทม.และต่างจังหวัด กระจายไปทั่วบริเวณที่ตั้งโรงงาน ทั้งสมุทรสาคร ชลบุรี นนทบุรี ปทุมธานี ไปถึงตากและแม่สอด จึงไม่ใช่เรื่องที่จะมาเล่าให้มันดูจุ๋มจิ๋มน่ารัก
จากที่ ศิโรตม์ คล้ามไพบูลย์ ทวี้ตเรื่องนี้ว่า “ทวีศิลป์อย่าพูดอะไรแบบนี้อีก...ไม่ควรฉอดขนาดนี้ หมอทุกคนก็รู้ว่าคนติดเชื้อรอบนี้คือสายพันธุ์เดลต้า ปอดอักเสบลามเร็ว พูดแบบนี้จะทำให้ชาวบ้านเข้าใจว่าเอาคนติดเชื้อไปทิ้งให้ไกลๆ แล้วหายเอง”
ใช่เลย (ขอใช้คำฝรั่งอีกที) ‘insensitivity’ ไม่มีความเห็นอกเห็นใจ เสียจน กานดา นาคน้อย @kandainthai แนะว่า “แบบนี้ รบกวนปล่อยทหารเกณฑ์จากภาคอีสานกลับบ้านให้ดูก่อน กองทัพทำเป็นโครงการนำร่องเลย อย่าช้า”
ให้สมกับที่โฆษกกลาโหม พล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ อวดอ้างไว้ “แจงปมทหารขอวัคซีน ๖ หมื่นโด๊สเซส ไม่ได้เอาเปรียบ เพราะเป็นประชาชนเหมือนกัน” ถ้างั้นจะรับเหมาวัคซีนซิโนแว็คอีก ๑๐.๙ ล้านโด๊สเซส ซึ่ง ครม.เพิ่งอนุมัติใช้เงินกู้ ๖,๑๑๑ ล้านซื้อด้วยมั้ย
แล้วประชาชนทั่วไปก็ตั้งหน้ารอวัคซีนไฟ้เซอร์ ๒๐ ล้านโด๊สเซส ที่ว่ากันว่า อนุทิน ชาญวีรกูล ลงนามจัดซื้อไปเรียบร้อยเมื่อกลางเดือนที่แล้ว “แต่จะได้ตอนไหนยังไม่ระบุแน่ชัดเพราะ ‘จองช้า’ สั่งแล้วไม่ได้มาทันที ประเทศอื่นที่สั่งไว้มีอีกเยอะ”
𝙬𝙚𝙢 ♡@msxjnr ทักว่า “ต้องตามคิวอ่ะ” กำหนด ๑ ตุลา ถึง ๓๑ ธันวา คงไม่มา ๑ ตุลาแน่ๆ แต่จะได้ ๓๑ ธันวาไหม “สรุปก็คือรอไปนะ คนไทย” ถึงอย่างนั้นก็ยังดีที่มีการเปลี่ยนแปลงแผนฉีดวัคซีนไฟ้เซอร์ที่สหรัฐบริจาค เสียงโหวกเหวกโวยวายทำให้เปลี่ยนใจได้
หมออุดม คชินทร ที่ปรึกษา ศบค.ยอมรับว่าวัคซีนไฟ้เซอร์สามารถต่อสู้กับเชื้อไวรัสกลายพันธ์เบต้าและเดลต้า (ที่กำลังจะมาแทนที่อัลฟ่า) ได้ดีกว่าซิโนแวคและแอสตร้าเซเนก้า คงจะนำไปฉีดเพิ่มภูมิคุ้มกันแก่บุคลากรทางการแพทย์ด่านหน้า
สมเหตุสมผลดังหมอ ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา พยายามชี้แจงว่า “บุคลากรสาธารณสุขต้องการเข็มที่สาม” เพราะไม่เพียงกลายเป็นผู้นำเชื้อไปแพร่คนไข้อื่นๆ แล้วการติดเชื้อ “ต้องหยุดปฏิบัติงานและพลอยทำให้เพื่อนร่วมงานตัองถูกกักตัว” ด้วย
เกิดขาดแคลนบุคคลากรทางการแพทย์เข้าไปอีก ดังนี้ช่วงสามสี่เดือนข้างหน้า หากยอมรับฟังเสียงของเหตุและผลจากผู้ปฏิบัติภารกิจด่านหน้า ไม่ว่าจะเป็นแพทย์-พยาบาลที่ต้องรับมือกับโควิดโดยตรง หรืออาสาสมัครกู้ภัยและดับเพลิงกองหน้า
อย่าปล่อยให้พวกเวชบริกรหรือมุขมนตรีบริการ ออกมาหาแสงหาซีนกันบ่อยเกินไปนัก ก็จักประคับประคองกันไปพอได้ เมื่ออัตราการตายจากโควิดลดเหลือหลักหน่วยแล้วละก็ ประยุทธ์ จันทร์อะไร อยากจะทำบุญสะเดาะเคราะห์ ก็ยินดี
ตู่ชายเขาพัฒนาความคิดความอ่านขึ้นมาอีกนิด (เหนือชั้นกว่าตู่หญิง นันทิดา แก้วบัวสาย นายก อบจ.สมุทรปราการอยู่หน่อย) “สั่งหาแนวทาง ทำบุญออนไลน์” ไฮเท็คเสียด้วย ก็พร้อมจะบอกว่าเถอะนะ “ชั่งหัวมัน”
(https://prachatai.com/journal/2021/07/93847, https://www.facebook.com/sorrayuth9115/posts/355461502607462, https://news.thaipbs.or.th/content/305120 และ https://www.matichon.co.th/politics/news_2815937)