พูดกันมากถึงการอดอาหารของ ‘กวิ้น’ และ ‘รุ้ง’ ว่าไม่ได้ผล เพราะผู้กำอำนาจในประเทศนี้เหี้ยมโหดอำมหิตเกินกว่าจะใส่ใจกับหลักการสัตยาเคราะห์ หรือการปลิดชีวิตตัวเองของผู้ประท้วง ทำให้สะท้อนย้อนแย้งต่อไปอีกว่า การต่อสู้ด้วยสันติวิธีไม่ได้ผลเช่นกัน
ไม่ว่าจะเป็นการท้วงติงจาก สศจ. ที่อุตส่าห์รั้งรอ “คิดมาหลายวันจะเขียนดีไหม” แต่ท้ายที่สุดก็ “อยากบอกเพ้นกวิ้นว่าเลิกอดอาหารเหอะ” เพราะ “ตอนนี้เข้าขีดอันตรายแล้ว บางทีอาจเกิดอาการฉับพลันได้” ก็ใช่อยู่ หรืออีกความเห็น
Nithinand Yorsaengrat ว่าแค่บันทึกไว้เท่านั้นนะ “ยุติการอดอาหารประท้วง...ไม่เรียกว่าแพ้ แต่เรียกว่าเปลี่ยนวีธีการต่อสู้” ก็เออใช่อีก คนกุมอำนาจชุดนี้ตั้งแต่ระดับแปดหมื่นสี่พันเซลส์ถึง ‘ทึ่ม’ ไม่มี ‘ยางอาย’ หลงเหลืออยู่แล้วในกมลสันดาน
มาถึงจดหมายของแม่เพ็นกวิ้น เขียนถึงลูกชาย ‘สุดรักสุดหัวใจ’ อ่านแล้วสะอึกในใจ สะอื้นในความคิด ขอให้ พี่พี้ท-พริษฐ์-ของแม่เปลี่ยนใจมารักษาชีวิตไว้ก่อน ในเมื่อ “แม่ยังส่งพี่ไม่ถึงฝั่งฝันที่พี่ต้องการเลย” ไหนพี่พี้ทเคยบอกแม่ว่าอย่าเพิ่งรีบตาย
“ให้อยู่ดูพี่ประสบความสำเร็จก่อน” ข้อนี้น่าจะทำให้พี่พี้ท ฉุกคิดและยอมเปลี่ยนใจได้ไหม เช่นกันกับ ‘รุ้ง’ ปนัสยา ซึ่ง ‘พี่เม’ เขียนถึงว่า “การต่อสู้นี้ยังอีกยาวไกล” เลิกอดอาหารประท้วง “รักษาสุขภาพและจิตใจให้แข็งแรง” ดีกว่า
ความจริงก็คือ ถ้าหากผู้ที่เราต่อสู้เป็นพวก ‘ผีห่าซาตาน’ การแสดงให้ดูว่าเรายอมทนทุกข์ทรมานกระตุ้นเตือนจิตสำนึกละก็ ไม่มีทางที่พวกมันจะเลิกเขลาแล้วเข้าใจได้ง่าย พวกที่รู้จักแต่การใช้กำลังบีบบังคับผู้อื่นทำตามใจตนจะหยุดได้เมื่อเจอด้วยตนเองเท่านั้น
ดูแต่กรณี ‘บ๊าส’ หนุ่มนักอุดมการณ์จากเชียงราย เดินทางไกลมานั่งอดอาหารหน้าศาลอาญา วันนี้ ๑๖ เมษา หลังตำรวจขี้ข้าเจ้านายมาหิ้วตัวเอาไปโรงพักแล้ว “ไม่ให้ประกัน...จะเอาตัวไปส่งศาลเชียงรายเพื่อขอฝากขัง ตั้งข้อหา #ม112 และ พรบ.คอมพิวเตอร์”
อ้างว่าเคยโพสต์ข้อความและคลิปบนเฟชบุ๊ค ๒๕ รายการ เข้าข่าย “ติดคุกยาว” ตามมาตรฐานอาญาสิทธิอันสมบูรณ์ Sunai @sunaibkk ถามว่า “นี่เพราะประท้วงอดอาหารหน้าศาลอาญาเลยถูกจัดหนักหรือ” คงไม่ใช่ ที่จริงแล้วเตรียมฉกอยู่นาน เพิ่งเข้าทาง
ล่าสุด ‘สมณะดาวดิน’ “พระที่อดอาหารเรียกร้อง #ปล่อยเพื่อนเรา เป็นวันที่สาม และนั่งหน้าศาลอาญาเป็นวันที่สอง เล่าว่ามีตำรวจและ ‘ไม่รู้ใคร’ แวะเวียนมาคุยเรื่อยๆ หลายชุด” และเมื่อ “ช่วงบ่ายแก่ๆ ตำรวจคนหนึ่งมาขอคุยส่วนตัวและแจ้งว่า
ถ้าหากนายสั่งอะไรมาก็จะต้องทำตาม” ไม่รู้ว่า ‘นาย’ ขนาดไหนสั่งมา หากต้องทำตามทุกอย่างไป ย่อมไม่มีค่าแห่งความเป็นคนเหลืออยู่แล้ว ก็ไม่จำเป็นต้องอรุ่มอร่วยด้วยนัก หักได้หักเลย แต่จะหักได้วิธีไหนคงต้อง ‘สมคบคิด’ กันให้เหมาะก่อน
เพียงอย่าใช้เวลานานนัก บางคนบอกว่าควรต้องเคารพการตัดสินใจของเขา เจ้ากวิ้นผู้เป็นอัจฉริยะคล้ายคลึง จิตร ภูมิศักดิ์ ในอดีตคนนี้ แต่การสูญเสียชีวิตให้เป็น Myrtle ของเขาจะได้ประโยชน์แก่ขบวนการสร้างใหม่ประชาธิปไตยไทยแค่ไหน
ต้องคิดดูก่อนตราบเท่าที่ยังมีช่องทางให้คิดหาอยู่ วีธีการเขียนจดหมายเปิดผนึกถึงน้องๆ ในคุก เป็นอันหนึ่งซึ่งทำให้ทั้งประเทศรับรู้ว่า กระบวนการอยุติธรรมในศาลไทยโหดเหี้ย ม น่าอับอายแค่ไหน แรงกดดันไม่เพียงไปเจอมันไม่ได้พอทำเนา
แต่ถ้าพวกเขาไม่กล้าโผล่หน้าไปที่ไหนในโลก เนื่องจากล้วนจะเจอแต่กับการประณามละก็น่าลองเริ่มรณรงค์กันตั้งแต่บัดนี้ เห็นมีป้าๆ ลุงๆ แถวแอล.เอ.เริ่มกันขึ้นมาแล้ว ถือป้ายถ่ายรูปออกโซเชียล ใครมีช่องทางไหน ไปทุกที่ เหมือนยุทธวิธี ‘ป่าล้อมเมือง’ เมื่อก่อน
ป้ายที่ว่าอาจเป็นแผ่นเอสี่หรือขนาดเล็ตเตอร์ หรือจะเป็นภาพดิจิทัลก็ดี ความสำคัญอยู่ที่ช่วยกันบอกชาวโลก ว่านักศึกษาคนหนึ่งที่มีอุดมคติและทัศนวิสัยมุ่งแต่จะทำให้ประชาชนรุ่งเรือง และประเทศชาติรุ่งโรจน์ ด้วยระบอบประชาธิปไตย
กลับต้องถูกจองจำทั้งที่ยังไม่มีการตัดสินความผิด เช่นนี้ใครจะละเลยไม่ส่งสารสื่อข้อความ #FREE PENGUIN กันละหรือ
(https://www.facebook.com/Prachatai/posts/10158289467011699, https://twitter.com/iLawFX/status/1382945075747975169 และ https://twitter.com/sunaibkk/status/1382858486980087810)