วันศุกร์, เมษายน 16, 2564

ป้าๆ ลุงๆ แถวแอล.เอ.เริ่มกันแล้ว ส่งสารสื่อข้อความ #FREE PENGUIN ระหว่างถกกันให้เพ็นกวิ้นเลิกอดอาหารประท้วง


พูดกันมากถึงการอดอาหารของ กวิ้น และ รุ้งว่าไม่ได้ผล เพราะผู้กำอำนาจในประเทศนี้เหี้ยมโหดอำมหิตเกินกว่าจะใส่ใจกับหลักการสัตยาเคราะห์ หรือการปลิดชีวิตตัวเองของผู้ประท้วง ทำให้สะท้อนย้อนแย้งต่อไปอีกว่า การต่อสู้ด้วยสันติวิธีไม่ได้ผลเช่นกัน

ไม่ว่าจะเป็นการท้วงติงจาก สศจ. ที่อุตส่าห์รั้งรอ “คิดมาหลายวันจะเขียนดีไหม” แต่ท้ายที่สุดก็ “อยากบอกเพ้นกวิ้นว่าเลิกอดอาหารเหอะ” เพราะ “ตอนนี้เข้าขีดอันตรายแล้ว บางทีอาจเกิดอาการฉับพลันได้” ก็ใช่อยู่ หรืออีกความเห็น

Nithinand Yorsaengrat ว่าแค่บันทึกไว้เท่านั้นนะ “ยุติการอดอาหารประท้วง...ไม่เรียกว่าแพ้ แต่เรียกว่าเปลี่ยนวีธีการต่อสู้” ก็เออใช่อีก คนกุมอำนาจชุดนี้ตั้งแต่ระดับแปดหมื่นสี่พันเซลส์ถึง ทึ่มไม่มี ยางอายหลงเหลืออยู่แล้วในกมลสันดาน

มาถึงจดหมายของแม่เพ็นกวิ้น เขียนถึงลูกชาย สุดรักสุดหัวใจอ่านแล้วสะอึกในใจ สะอื้นในความคิด ขอให้ พี่พี้ท-พริษฐ์-ของแม่เปลี่ยนใจมารักษาชีวิตไว้ก่อน ในเมื่อ “แม่ยังส่งพี่ไม่ถึงฝั่งฝันที่พี่ต้องการเลย” ไหนพี่พี้ทเคยบอกแม่ว่าอย่าเพิ่งรีบตาย

“ให้อยู่ดูพี่ประสบความสำเร็จก่อน” ข้อนี้น่าจะทำให้พี่พี้ท ฉุกคิดและยอมเปลี่ยนใจได้ไหม เช่นกันกับ รุ้งปนัสยา ซึ่ง พี่เมเขียนถึงว่า “การต่อสู้นี้ยังอีกยาวไกล” เลิกอดอาหารประท้วง “รักษาสุขภาพและจิตใจให้แข็งแรง” ดีกว่า

ความจริงก็คือ ถ้าหากผู้ที่เราต่อสู้เป็นพวก ผีห่าซาตานการแสดงให้ดูว่าเรายอมทนทุกข์ทรมานกระตุ้นเตือนจิตสำนึกละก็ ไม่มีทางที่พวกมันจะเลิกเขลาแล้วเข้าใจได้ง่าย พวกที่รู้จักแต่การใช้กำลังบีบบังคับผู้อื่นทำตามใจตนจะหยุดได้เมื่อเจอด้วยตนเองเท่านั้น


ดูแต่กรณี บ๊าสหนุ่มนักอุดมการณ์จากเชียงราย เดินทางไกลมานั่งอดอาหารหน้าศาลอาญา วันนี้ ๑๖ เมษา หลังตำรวจขี้ข้าเจ้านายมาหิ้วตัวเอาไปโรงพักแล้ว “ไม่ให้ประกัน...จะเอาตัวไปส่งศาลเชียงรายเพื่อขอฝากขัง ตั้งข้อหา #ม112 และ พรบ.คอมพิวเตอร์”

อ้างว่าเคยโพสต์ข้อความและคลิปบนเฟชบุ๊ค ๒๕ รายการ เข้าข่าย “ติดคุกยาว” ตามมาตรฐานอาญาสิทธิอันสมบูรณ์ Sunai @sunaibkk ถามว่า “นี่เพราะประท้วงอดอาหารหน้าศาลอาญาเลยถูกจัดหนักหรือ” คงไม่ใช่ ที่จริงแล้วเตรียมฉกอยู่นาน เพิ่งเข้าทาง

ล่าสุด สมณะดาวดิน“พระที่อดอาหารเรียกร้อง #ปล่อยเพื่อนเรา เป็นวันที่สาม และนั่งหน้าศาลอาญาเป็นวันที่สอง เล่าว่ามีตำรวจและ ไม่รู้ใคร แวะเวียนมาคุยเรื่อยๆ หลายชุด” และเมื่อ “ช่วงบ่ายแก่ๆ ตำรวจคนหนึ่งมาขอคุยส่วนตัวและแจ้งว่า

ถ้าหากนายสั่งอะไรมาก็จะต้องทำตาม” ไม่รู้ว่า นาย ขนาดไหนสั่งมา หากต้องทำตามทุกอย่างไป ย่อมไม่มีค่าแห่งความเป็นคนเหลืออยู่แล้ว ก็ไม่จำเป็นต้องอรุ่มอร่วยด้วยนัก หักได้หักเลย แต่จะหักได้วิธีไหนคงต้อง สมคบคิดกันให้เหมาะก่อน

เพียงอย่าใช้เวลานานนัก บางคนบอกว่าควรต้องเคารพการตัดสินใจของเขา เจ้ากวิ้นผู้เป็นอัจฉริยะคล้ายคลึง จิตร ภูมิศักดิ์ ในอดีตคนนี้ แต่การสูญเสียชีวิตให้เป็น Myrtle ของเขาจะได้ประโยชน์แก่ขบวนการสร้างใหม่ประชาธิปไตยไทยแค่ไหน

ต้องคิดดูก่อนตราบเท่าที่ยังมีช่องทางให้คิดหาอยู่ วีธีการเขียนจดหมายเปิดผนึกถึงน้องๆ ในคุก เป็นอันหนึ่งซึ่งทำให้ทั้งประเทศรับรู้ว่า กระบวนการอยุติธรรมในศาลไทยโหดเหี้ย ม น่าอับอายแค่ไหน แรงกดดันไม่เพียงไปเจอมันไม่ได้พอทำเนา

แต่ถ้าพวกเขาไม่กล้าโผล่หน้าไปที่ไหนในโลก เนื่องจากล้วนจะเจอแต่กับการประณามละก็น่าลองเริ่มรณรงค์กันตั้งแต่บัดนี้ เห็นมีป้าๆ ลุงๆ แถวแอล.เอ.เริ่มกันขึ้นมาแล้ว ถือป้ายถ่ายรูปออกโซเชียล ใครมีช่องทางไหน ไปทุกที่ เหมือนยุทธวิธี ป่าล้อมเมือง เมื่อก่อน

ป้ายที่ว่าอาจเป็นแผ่นเอสี่หรือขนาดเล็ตเตอร์ หรือจะเป็นภาพดิจิทัลก็ดี ความสำคัญอยู่ที่ช่วยกันบอกชาวโลก ว่านักศึกษาคนหนึ่งที่มีอุดมคติและทัศนวิสัยมุ่งแต่จะทำให้ประชาชนรุ่งเรือง และประเทศชาติรุ่งโรจน์ ด้วยระบอบประชาธิปไตย

กลับต้องถูกจองจำทั้งที่ยังไม่มีการตัดสินความผิด เช่นนี้ใครจะละเลยไม่ส่งสารสื่อข้อความ #FREE PENGUIN กันละหรือ

(https://www.facebook.com/Prachatai/posts/10158289467011699, https://twitter.com/iLawFX/status/1382945075747975169 และ https://twitter.com/sunaibkk/status/1382858486980087810)