"ยิ่งกว่าเสียของ"
ข้ออ้างสำคัญอย่างหนึ่งของ คสช. ในการยึดอำนาจการปกครองปรากฏอยู่ในประกาศ คสช. ฉบับที่ 1/2557 คือเพื่อให้ "ประชาชนในชาติเกิดความรัก ความสามัคคี เช่นเดียวกับห้วงที่ผ่านมา" ทั้งนี้เนื่องจากสังคมไทยมีความขัดแย้งมายาวนาน จนนำไปสู่เหตุการณ์การนองเลือดเมื่อเดือนเมษายน-พฤษภาคม 2553 ทำให้สูญเสียชีวิตประชาชนนับร้อยและบาดเจ็บหลายพันคน รัฐธรรมนูญชั่วคราวมาตรา 44 จึงบัญญัติให้หัวหน้า คสช. มีอำนาจออกคำสั่งให้มีผลในทางนิติบัญญัติ ในทางบริหาร หรือในทางตุลาการ หากเป็นไปเพื่อประโยชน์ในการส่งเสริมความสามัคคีและความสมานฉันท์ของคนในชาติ แต่การยึดอำนาจครั้งนี้กลับทำให้สังคมไทยมีความขัดแย้งมากขึ้น
สาเหตุสำคัญคือ คสช. และรัฐบาลกำลังลืมภารกิจของตน หัวหน้ารัฐบาลและคนรอบข้างจึงปฏิบัติตัวเสมือนเป็นนักการเมืองที่มาจากการเลือกตั้ง สร้างคะแนนนิยมด้วยการทำลายการเมืองฝ่ายตรงข้าม ทั้งยังประดิษฐ์วาทกรรมที่นำไปสู่ความเกลียดชังและสร้างความขัดแย้ง ทั้งที่ คสช. กับพวกเข้ามาด้วยเงื่อนไขพิเศษเพื่อปฏิบัติภารกิจสำคัญตามที่แถลงไว้ในวันยึดอำนาจและต้องออกไปตามสัญญา จึงไม่มีความจำเป็นที่จะต้องเล่นการเมืองเพื่อสร้างคะแนนนิยมเว้นแต่ต้องการสืบทอดอำนาจ โอกาสที่จะสร้างความปรองดองจึงเป็นของรัฐบาลและหัวหน้า คสช. แล้ว แค่เพียงวางตัวให้เป็นกลางและใช้อำนาจที่มีเพื่อสร้างความเป็นธรรมให้กับทุกฝ่ายไม่ใช่เพื่อประโยชน์ทางการเมืองของตัวเอง บ้านเมืองก็จะลดความขัดแย้งเกิดความสงบสุขบรรลุตามภารกิจสำคัญในประกาศ คสช. ฉบับที่ 1/2557 แต่ คสช. และรัฐบาลกลับทำตรงกันข้ามจึงทำให้สังคมมีความขัดแย้งเพิ่มขึ้นและประเทศเสียโอกาสในการพัฒนาทุกด้าน การยึดอำนาจครั้งนี้จึงถือว่า "ยิ่งกว่าเสียของ" ครับ
วัฒนา เมืองสุข
พรรคเพื่อไทย
10 ตุลาคม 2559
Watana Muangsook