วันพุธ, กุมภาพันธ์ 12, 2568

ผู้นำกะเหรี่ยง DKBA แจงไม่รู้ไม่เห็นมาก่อนมีเหยื่อต่างชาติถูกบังคับเป็นสแกมเมอร์ พร้อมบอก “เรื่องคอลเซ็นเตอร์ เราไม่มีความรู้จริงๆ แค่จะเบิกเงินทางเอทีเอ็ม เรายังทำไม่เป็น" 555


สำนักข่าวชายขอบ
9 hours ago
·
ผู้นำกะเหรี่ยง DKBA แจงไม่รู้ไม่เห็นมาก่อนมีเหยื่อต่างชาติถูกบังคับเป็นสแกมเมอร์ระบุพร้อมทำตามความต้องการของรัฐบาลไทย ประสาน“กัณวีร์”ช่วยเหยื่อต่างชาติอีกนับร้อย
---------
เมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2568 ผู้นำกองกำลังกะเหรี่ยงพุทธประชาธิปไตย หรือ DKBA (Democratic Karen Buddhist Army) ประกอบด้วย พล.ต.ซอ ส่วย วะ รองผู้บัญชาการทหารกองกำลัง DKBA พล.จ.ซอ ซาน อ่อง ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารกองกำลัง DKBA และ พล.จ.ซอ ซาย จ่อละ หรือ “โกซาย” ผู้บัญชาการกองพลที่ 1 DKBA ได้ร่วมกันให้สัมภาษณ์ โดย พล.จ.ซอ ซาย จ่อละ กล่าวว่า นโยบายของ DKBA ไม่ให้มีการซื้อขายคน และพวกเราพร้อมจับมือกับประเทศไทยทำงานเพื่อให้ทุกอย่างดีขึ้น
“ส่วนตัวแล้ว ผมมีเป้าหมายคืออย่าให้ชาวบ้านมีหนี้สินก็พอแล้ว จริงๆแล้วนักข่าวไม่ได้เข้ามาดูในพื้นที่ มีแต่ข่าว เราอยากให้พวกเขามาดูที่ช่องแคบ เรื่องยาเสพติดเราก็ไม่เห็น พวกเรายังเอาป้ายต่อต้านยาเสพติดไปติดที่หมู่บ้านต่างๆ เราต้องร่วมกันสู้กับยาเสพติด ส่วนที่คนจีนทำงานออนไลน์ เขาบอกเราว่ามาทำงานออนไลน์หรือคาสิโนออนไลน์ เราไม่รู้เรื่องที่เขามาค้ามนุษย์ พวกเราจึงประชุมเพื่อแก้ไขให้หมดไป ตอนเขามาขอเช่าพื้นที่ เขาก็แจ้งว่าทำออนไลน์คาสิโน”โกซาย กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่รัฐบาลไทยออกมาตรการตัดไฟฟ้า ตัดสัญญาณอินเตอร์เน็ตและตัดการส่งน้ำมัน ส่งผลกระทบอย่างไรบ้าง พล.จ.ซอ ซาย จ่อละ กล่าวว่า ตอนนี้ชาวบ้านไม่มีไฟฟ้าและน้ำมันใช้ โดยที่ช่องแคบมีโรงเรียนหลายแห่ง ทั้งโรงเรียนสอนภาษาอังกฤษ และโรงเรียนของคนยากไร้ ซึ่งต่างก็ใช้ไฟฟ้าเพราะต้องอ่านหนังสือและใช้อินเตอร์เน็ต
“ถ้าไม่มีน้ำมัน ชาวไร่ที่ทำข้าวโพดและไร่ถั่วก็ลำบาก เราอยู่ติดประเทศไทย อะไรที่ไทยไม่ชอบ เราก็ไม่ทำ เราขอยืนยัน ถ้าไฟฟ้าถูกเอาไปใช้ในการต้มตุ๋นหลอกลวงทางออนไลน์ เราจะเอาคนพวกนั้นออกไป จริงๆเขามีกันเพียงกลุ่มนิดเดียว เราไม่อยากให้อยู่ในพื้นที่”โกซาย กล่าว
พล.จ.ซอ ซาย จ่อละ กล่าวอีกว่า “เราพร้อมให้ความร่วมมือประเทศไทยร้อยเปอร์เซ็น ตอนนี้ได้ช่วยต่างชาติส่วนใหญ่เป็นชาวปากีสถาน อินโดนีเซีย แต่ไม่ค่อยมีคนจีน ตอนนี้เราช่วยมาแล้วกว่า 200 คน ส่งกลับทางไทยบ้าง ส่งพม่าบ้าง ส่งข้ามสะพานก็มี ผมประกาศไปแล้วว่าใครไม่อยากอยู่ก็ออกไปได้ เรามีศูนย์ประสานงานช่วยเหลืออยู่ที่ช่องแคบ ใครมีอะไรก็มาแจ้งได้”
พล.ต. ซอ ส่วย วะ รองผู้บัญชาการทหารกองกำลัง DKBA กล่าวว่า นโยบายของเรา คือหากได้ข้อมูลชัดเจนของเหยื่อพร้อมพิกัดชัดเจน เราจะประสานงานช่วยเหลือออกมา เรามีนโยบายชัดเจน 4 ข้อ(อ่านรายละเอียดในข่าว https://transbordernews.in.th/home/?p=41337 ) และขอให้ประชาชนรับทราบว่าเราร่วมมือกับรัฐบาลไทยเต็มที่ เราไม่รู้จริงๆว่ามีคนถูกบังคับอยู่ข้างใน ถ้ารู้ก็พร้อมช่วยเหลือ
“ชื่อเสียงของ DKBAอาจไม่ดี เราอยากให้ข่าวที่ออกมาถูกต้อง ทั้งเรื่องค้ามนุษย์และยาเสพติด เราอยากทำให้พื้นที่ของเรามีความสุข ไม่อยากให้มีปัญหา เราอยากให้มีมิตรภาพ ไม่อยากให้เสียหายเพราะจีนเทา ตอนนั้นคนจีนไม่ได้แจ้งว่าจะมาทำอะไรบ้าง เรื่องยาเสพติดและสแกมเมอร์เราเองก็ไม่รู้เรื่อง เมื่อรู้เราก็ปราบปรามอย่างเต็มที่ ถ้าเราได้ข้อมูลเหยื่อชัดเจน เราจะเข้าไปช่วยออกมาทันที” พล.ต.ซอ ส่วย วะ กล่าว
รองผู้บัญชาการทหารกองกำลัง DKBA กล่าวว่า เรามีสัญญาเช่าพื้นที่ แต่หากใครทำผิดกฎหมายก็ถูกปราบปราม เรามีความปรารถนาดี หากใครต้องการมาลงทุเกี่ยวกับการทำข้าวโพดหรือมันสำปะหลัง เราก็ยินดี
“เรื่องคอลเซ็นเตอร์ เราไม่มีความรู้จริงๆ แค่จะเบิกเงินทางเอทีเอ็ม เรายังทำไม่เป็น เราจึงต้องศึกษาว่าสแกมเมอร์เป็นอย่างไร หากใครทำไม่ถูก เราก็ให้ออกไปเพื่อประชาชนมีความสุข” พล.ต.ซอ ส่วย วะ กล่าว
พล.จ. ซอ ซาน อ่อง ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารกองกำลัง DKBA กล่าวว่า เรายินดีตอบคำถามทุกเรื่องและพร้อมเปิดเผยทุกอย่าง เรายินดีให้ชาวโลกรู้ว่าเราบริสุทธิใจ นักธุรกิจที่มาลงทุนเรามีสัญญาเช่า 30 ปี แต่อาจไม่ถูกกฎหมายเพราะเป็นแค่ซื้อกระดาษที่เขียน แต่ใครที่ทำไม่สุจริตเราก็จะยกเลิกสัญญา อนาคตเราอยากเห็นความร่วมมือมากกว่านี้ เพื่อประชาชนชายแดนอยู่อย่างมีความสุข
นายกัณวีร์ สืบแสง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเป็นธรรม เปิดเผยว่าได้ลงพื้นที่ อ.แม่สอด และ อ.พบพระ จ.ตาก หลังจากได้รับการประสานจากกองกำลังกะเหรี่ยง DKBA ว่าได้ช่วยเหลือเหยื่อการค้ามนุษย์ชาวต่างชาติกว่า 170 คน โดยมี 46 คน จาก 7 ชาติที่ยืนยันตัวตนและนำมาอยู่ในที่ปลอดภัยแล้ว ส่วนที่เหลืออยู่ระหว่างการจัดทำทะเบียน เพื่อประสานส่งให้ทางการไทยในการช่วยเหลือส่งให้กับแต่ละประเทศต่อไป เพื่อเข้าสู่การคัดกรองผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์
"ต้องขอขอบคุณทาง DKBA ที่เข้าไปให้การช่วยเหลือเหยื่อค้ามนุษย์ออกมา ผมได้ประสานงานทางสถานทูตต่างๆ และขอขอบคุณทางรัฐบาลไทย เจ้าหน้าที่ไทยและภาคประชาสังคม เราเห็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ที่จะช่วยเหลือพวกเขา" นายกัณวีร์ กล่าวว่า
สส.พรรคเป็นธรรมกล่าวว่า ก่อนหน้านี้ทาง DKBA ไม่เข้าใจเรื่องออนไลน์คาสิโน สแกมเมอร์ แต่พอเขาเริ่มทราบเรื่องมาเรื่อยๆ ทำให้รู้สึกตื่นตัว เรื่องคอลเซ็นเตอร์ จึงสั่งการอย่างเร่งด่วนในการช่วยเหลือเหยื่อค้ามนุษย์ออกมาให้ได้
นายกัณวีร์กล่าวว่า ได้มีโอกาสพูดคุยกับผู้นำ DKBA ที่ดูแลพื้นที่บ้านช่องแคบ โดยต่างยืนยันว่าไม่ได้รู้เรื่องการกระทำของกลุ่มนายทุนจีนที่เข้ามาทำสแกมเมอร์และค้ามนุษย์ เมื่อรู้ก็ได้ช่วยเหลือเหยื่อมาตลอดและจะร่วมกับไทยในการปราบปรามซึ่งแสดงให้เห็นว่าเขาจะให้ความร่วมมือในการกวาดล้างสิ่งเหล่านี้
สส.พรรคเป็นธรรมกล่าวว่า ต้องมีการวางมาตรการทลายแก๊งค์คอลเซ็นเตอร์ ขบวนการค้ามนุษย์ ทำงานร่วมมือกับกองกำลังชาติพันธ์ให้ดี โดยให้เขาจัดการพื้นที่ของเขา ส่วนการช่วยเหลือเหยื่อค้ามนุษย์ สิ่งที่จะทำต่อไปคือต้องนำรายชื่อล่าสุด จำนวน 170 กว่าชีวิต ส่งให้ทางศูนย์ประสานงานชายแดนจังหวัดตาก และนำข้อมูลส่งให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องรับเหยื่อค้ามนุษย์เข้ามาไทย เพราะไทยเราเป็นประเทศทางผ่าน เหยื่อกว่า 90 % ผ่านทางชายแดน จึงต้องนำเข้าสู่กลไกระดับชาติ คัดกรองผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์
"บางคนติดอยู่ในขุมนรก กว่า 4 เดือน เห็นรูปจริงๆว่ามีไฟฟ้าช็อต มีการใช้ปืน ถ้าเป็นสมาชิกในครอบครัวของเราจะรู้สึกอย่างไร รู้สึกยินดีที่พวกเขาได้รับการช่วยเหลือ อย่างน้อยพรุ่งนี้พวกเขาได้เข้าสู่ขั้นตอนการคัดกรองจะได้กลับบ้าน" นายกัณวีร์ กล่าวและว่า ตนเองทำงานเบื้องหลังเรื่องนี้มาหลายเดือนแล้วที่จะประสานให้กองกำลังต่างๆช่วยกันเรื่องนี้ ซึ่งเขาต้องเข้าใจว่ามันเป็นความเดือดร้อนที่ต้องร่วมกันแก้ไขปัญหา
ทั้งนี้จำนวนชาวต่างชาติ ที่อยู่ในการช่วยเหลือของ DKBAและมีรายชื่อยืนยันตัวตน มีจำนวน 46 คน ประกอบด้วย ฟิลิปปินส์ 12 คน เคนยา 4 คน แทนซาเนีย 1 คน บราซิล 2 คน เอธิโอเปีย 21 คน ปากีสถาน 2 คน บังคลาเทศ 2 คน เนปาล 2 คน

https://www.facebook.com/photo/?fbid=1208337064630433&set=a.504230305041116