วันพฤหัสบดี, กุมภาพันธ์ 06, 2568
ช่วงนี้คำว่า “คนจีน” ได้เข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันของ “คนไทย”แทบทุกวัน อ่านจีน ภายใต้โอวาทพญามังกร ผ่านมุมมอง “ศ.ยศ สันตสมบัติ”
ภายใต้โอวาทพญามังกรอ่านจีนผ่านมุมมอง “ศ.ยศ สันตสมบัติ”
โดย ภาสกร จำลองราช
สำนักข่าวชายขอบ
05/02/2025
ช่วงนี้คำว่า “คนจีน” ได้เข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันของ “คนไทย”แทบทุกวัน คนจีนที่มีทั้งชาวจีนโดยเฉพาะนักท่องเที่ยว มาเฟียจีนและจีนเทา เหยื่อชาวจีน ไปจนถึงรัฐบาลจีน ต่างถูกพูดถึงวนเวียนอยู่ในกระแสการได้ยินได้ฟังของสังคมไทย
ปัญหาอาชญากรข้ามชาติชาวจีนและแหล่งอาชญากรรมชายแดนรอบประเทศไทยที่ถูกกระทุ้งจากกรณี “ซิง ซิง” ดาราชาวจีน ติดตามด้วยการมาลงพื้นที่ของนายหลิว จงอี ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงความมั่นคงสาธารณะแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน ทำให้กลไกราชการและคณะรัฐมนตรีไทยขยับขับเคลื่อนเข้าใกล้การแก้ไขปัญหามากขึ้น
ยิ่งมีวาระการเยือนประเทศจีนของนายกรัฐมนตรีแพทองธาร ที่เข้าพบประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ด้วยแล้ว ทำให้มาตรการ “ตัดไฟ” ที่ส่งข้ามไปยังแหล่งอาชญากรรมชายแดนไทย-พม่า ถูกนำมาใช้ในชั่วเวลาข้ามคืน ก่อนที่นายกรัฐมนตรีจะบินสู่แดนมังกร ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านั้น เสียงเรียกร้องให้แก้ปัญหาและใช้มาตรการนี้ดังกระหึ่มมานานนับปีแต่ก็ไม่ได้รับการสนองตอบจากรัฐบาลไทย
“จริงๆ แล้วเมื่อดูจากรายชื่อทีมจีนที่มาก็ไม่ได้มีน้ำหนักเชิงนโยบายของจีนสักเท่าไร แต่ก็ถือว่าได้ผลระดับหนึ่งเพราะทำให้รัฐบาลไทยสะดุ้ง” มุมสะท้อนจาก ศ.ยศ สันตสมบัติ คณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
ศ.ยศ ทำวิจัยและเขียนหนังสือให้ความรู้เกี่ยวกับจีนไว้หลายเล่ม ทั้ง “มังกรหลากสี” ที่เป็นเหมือนคู่มือหนึ่งในการรู้เท่าทันจีน รวมทั้งอีกหลายเจาะทะลุม่านไม้ไผ่
ศ.ยศ เห็นว่าทางการจีนจะทำอะไรก็ตาม ก็ต่อเมื่อถูกหยามศักดิ์ศรี เช่น กรณีหน่อคำที่ฆ่าคนจีนบนลำน้ำโขง จนทางการจีนต้องตั้งทีมเข้ามาจับกุมและนำตัวกลับไปลงโทษในจีน
“เขาจะดูว่าคนของเขาเดือดร้อนจริงมั้ย กรณีของซิงซิงนั้น ชัดเจน เพราะโลกออนไลน์พากันกระหน่ำ แต่ครั้งนี้ไม่ใช่คนนอกกระทำ แต่จีนทำกันเอง หากมีจำนวนชาวจีนเดือดร้อนเพิ่มขึ้น ทางการจีนจะเพิ่มแรงกดดันต่อกองกำลังต่างๆ รวมทั้งประเทศไทย มากขึ้น
“แต่จีนก็ไม่ได้มีอำนาจมากมาย เพราะแต่ละกองกำลังในพม่าต่างมีธงของตัวเอง แม้แต่รัฐบาลพม่าก็ทำอะไรไม่ได้ อย่างกรณี กองกำลังกะเหรี่ยง BGF (Karen Border Guard Force) ไปกดดันเขามากก็ไม่ได้เพราะเขามีแนวทางและมีเงินของตัวเอง ถ้าพม่าไม่สามารถทำให้เขาแบ่งเป็นสาธารณรัฐได้ ปัญหาต่างๆก็ยังอยู่ต่อไป เรื่องนี้กระทรวงการต่างประเทศไทยก็รู้ แต่ไม่ทำอะไร”
แหล่งอาชญากรรมริมแม่น้ำเมยเมืองเมียวดีเป็นที่โด่งดังทั่วโลกมานานนับปี หลายคนตั้งคำถามว่าทำไมรัฐบาลไทยถึงไม่ช่วยเหลือเหยื่อจำนวนมากที่ถูกหลอกมาจากประเทศต่างๆ ทั่วโลก เพื่อสร้างเป็นผลงานใหญ่ ผู้เชี่ยวชาญด้านจีนศึกษากล่าวว่า “ผมเข้าใจว่าเงินของพวกมาเฟียจีนมันถึง เขาจ่ายให้คนไทยหลายพันล้านบาท พวกเขาเส้นใหญ่มาก เพราะแม้แต่เรื่องง่ายๆ เช่น การตัดไฟฟ้า ที่ทำได้เลย ยังโยนกันไป โยนกันมา ด้านหนึ่งอาจเป็นเรื่องชิงไหวชิงพริบระหว่างพรรคร่วม แต่อีกด้านหนึ่งน้ำเงินก็ไม่ฉลาดเลย แล้วจะเอาคนแบบนี้มาเป็นนายกฯ หรือ?”
“เขาก็คงเล่นเก้าอี้ดนตรีกันไปเรื่อยๆ ตอนนี้แหล่งอาชญากรรมบางส่วนก็ย้ายไปพญาตองซู (ตรงข้ามกับชายแดน จ.กาญจนบุรี) บางส่วนย้ายไปสีหนุวิลล์ (กัมพูชา) บางส่วนกำลังกลับไปพึ่งจ้าว เหว่ย (คิงส์โรมันส์-เขตเศรษฐกิจพิเศษสามเหลี่ยมทองคำ สปป.ลาว ตรงข้าม อ.เชียงแสน จ.เชียงราย) กลายเป็นว่าคนเหล่านี้อยู่ใกล้เรามากขึ้น เพราะเพียงนั่งเรือไปไม่ถึง 10 นาที”
กลุ่มอาชญากรข้ามชาติที่ย้ายแหล่งทำมาหากินต้มตุ๋นหลอกลวงเป็นวงจรอุบาทว์รอบประเทศไทย ทั้งชายแดนติดกับพม่า กัมพูชาและลาว ทำอย่างไรถึงจะตัดวงจรเหล่านี้ได้นั้น ศ.ยศ เห็นว่าต้องแก้เรื่องความเป็นรัฐล้มเหลวให้ได้ก่อน
“ตอนนี้ประเทศรอบๆ ไทยเป็นรัฐที่ล้มเหลวแทบหมด ไทยเองก็ทำท่าว่าจะเป็นเช่นนั้นด้วย ตราบใดที่ยังมีรัฐล้มเหลวอยู่ คนพวกนี้ก็เข้าไปหากินได้ตลอดโดยเฉพาะอย่างยิ่งในพม่า เพราะปัญหาความมั่นคงในพม่าซับซ้อนมาก มีกองกำลังชาติพันธุ์จำนวนมาก ถ้าแก้ปัญหานี้ไม่ได้ ก็ยาก ความแตกแยกเปิดโอกาสให้ทุนคาสิโนและทุนจีนเทาเข้ามาซื้อได้หมด
“ลาวก็เช่นกัน ถ้ายังยากจนที่สุดในภูมิภาคก็แก้ไม่ได้ กัมพูชาก็มีปัญหาเรื่องการสร้างระบบอุปถัมภ์จนกระทั่งย่ำแย่ เช่นเดียวกับไทยที่เศรษฐกิจผูกขาดเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ”
ศ.ยศยังมองเห็นว่า ปัญหาที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคนี้คือความเหลื่อมล้ำที่มีอยู่สูงมาก สงครามและความขัดแย้งเป็นลักษณะที่ปรากฏให้เห็นความชัดเจนของความเหลื่อมล้ำ ในพม่ามีความเหลื่อมล้ำระหว่างกองทัพพม่ากับชาวบ้าน และใช้วิธีกดปราบมาตลอดจนกระทั่งชาวบ้านระเบิดออกมา ในลาวก็เช่นกัน ลูกหลานเจ้าแขวงบางคนขับรถซุปเปอร์คาร์ แต่ชาวบ้านไม่มีจะกิน แถมการผลิตอยู่ในมือรัฐรวมถึงการขายไฟฟ้า แล้วชาวบ้านได้อะไร
เมื่อถามถึงบทบาทของจีนที่พยายามทำตัวเป็นผู้ทรงอิทธิพลในภูมิภาคอุษาคเนย์ ไทยควรกะระยะห่างอย่างไรดีเพื่อไม่ให้ต้องตกอยู่ในระบบ “จิ้มก้อง” เหมือนในอดีต ซึ่ง ศ.ยศ ชี้ว่าความเกรงใจต่อรัฐบาลใดของจีน ไม่เท่ากับว่าทำอะไรแล้วได้อะไร เพราะโดยธรรมชาติของเขา ถ้าทำแล้วไม่ได้อะไร เขาไม่ทำหรอก อย่างกรณีแหล่งอาชญากรรมริมแม่น้ำเมยที่เมืองเมียวดี ถ้าไม่มีดาราจีนมาถูกจับ เขาก็ยังไม่ขยับ
“จริงๆแล้วเขาคงต้องการสร้างอิทธิพพลครองลุ่มน้ำโขงอย่างเบ็ดเสร็จสมบูรณ์ เพื่อให้ทุกประเทศอยู่ใต้โอวาท ตอนนี้จีนกำลังทำสงครามแข่งขันกับอเมริกา เขาต้องยึดอุษาคเนย์ไว้ก่อนเพราะคิดว่าบริเวณนี้เป็นส่วนขยาย (extension) ของเขา สมัยก่อนมีคำหนึ่งคำคือ “Greater China” ซึ่งจีนหมายรวมถึงฮ่องกง มาเก๊าและไต้หวัน แต่เดี๋ยวนี้ Greater China รวมบ้านเราไปด้วย ดังนั้นในแง่ที่เป็นพี่ใหญ่ เขาต้องวางตัวเป็นผู้ดูแล เหมือนสมัยก่อนที่ฮ่องเต้ ต้องไปดูแลรัฐบรรณาการเพื่อไม่ให้ตีกันจนล่มสลาย”
ผู้เขียนหนังสือมังกรหลากสีกล่าวว่า จีนอาศัยความได้เปรียบทางการค้า การลงทุน บังคับให้ต้องยอมตามเขาแบบเบ็ดเสร็จและใช้เป็นเงื่อนไขที่ใช้บีบในหลายประเทศ หากย้อนกลับไปดูสมัยที่จ้าวเหว่ยจะเคลื่อนย้ายมาที่สามเหลี่ยมทองคำฝั่งประเทศลาว เจ้าหน้าที่จีนเป็นคนประสานกับรัฐบาลลาวด้วยตัวเอง เป็นแบบรัฐบาลต่อรัฐบาล ซึ่งคนในรัฐบาลลาวบอกตนว่า หยุดไม่ได้เพราะเป็นข้อตกลงระหว่างรัฐ ซึ่งคำว่ารัฐในจีนมีหลายระดับ
“เช่นเดียวกับเรื่องการตั้งบ่อน-คาสิโน ทุนเหล่านี้มีเส้นสายโยงใยไปในกลไกของพรรคคอมมิวนิสต์หลายระดับ เหมือนกับที่มาเฟียจีนซื้อคนไทยและข้าราชการไทย รวมทั้งนักการเมืองไทย”
เมื่อถามว่าการเปิดเอ็นเตอร์เทนเม้นต์คอมเพล็กซ์และแหล่งคาสิโนถูกกฏหมาย เป็นการรองรับธุรกิจจีนสีเทาดำรอบประเทศไทยด้วยหรือไม่
“แน่นอน เพราะสามารถฟอกเงินได้สะดวกมาก หากทำเมื่อไร อสังหาริมทรัพย์ในไทยจะราคาสูงขึ้น คนไทยจะไม่มีปัญญาซื้อบ้านโดยเฉพาะเขตเมือง ที่ดินและเครื่องมือในการผลิตจะตกอยู่ในมือต่างชาติ ผมยังหวังลึกๆ ว่าจะสร้างไม่ได้เพราะคนต่อต้านเยอะ”
ศ.ยศเห็นว่า ขณะนี้กำลังเกิดกระแสต่อต้านคาสิโนถูกกฎหมายในไทยเพิ่มขึ้นมาก โดยกลุ่มที่ไม่เอาด้วยกับรัฐบาลอยู่แล้ว สามารถสร้างแนวร่วมได้เพิ่มขึ้นเยอะ ฉะนั้นหากรัฐบาลต้องการอยู่ตลอดรอดฝั่ง ต้องคิดใหม่
“ปัญหาคือตอนนี้เขาต้องพยายามหาเงิน หนึ่งในวิธีการที่ง่ายสุดคือลงทุนจากคาสิโน ใบอนุญาตแต่ละใบต้องจ่ายให้รัฐ แต่อีกส่วนหนึ่งต้องให้ใครอีกหรือไม่ เขาจะสร้างคาสิโนพร้อมกัน 4-5 แห่ง สิ่งที่ตามมาคือยาเสพติดและอาชญากรรมจะเพิ่มขึ้น เพราะระบบตรวจสอบรวนเร ซึ่งเป็นเหมือนกันหมดทุกที่
“ยิ่งเจ้าหน้าที่บ้านเราเป็นที่พึ่งไม่ค่อยได้อยู่แล้ว คุณจะมั่นใจได้อย่างไรว่าพื้นที่ที่มีบ่อนจะคุมได้ ดังนั้นประชาชนจะเดือดร้อนมากขึ้น ความสงบสุขจะหายไป มันคุ้มหรือไม่กับการที่ต้องไปจัดสรรงบประมาณเพิ่มขึ้นมหาศาลเพื่อแก้ปัญหาเหล่านี้ นี่เรายังไม่พูดถึงเรื่องการฟอกเงิน ”
เมื่อถามต่อไปว่า เหตุผลหนึ่งที่ผู้นำในรัฐบาลและผู้นำจิตวิญญาณของพรรคเพื่อไทยใช้อธิบายคือต้องการเอารายได้ใต้ดินมาไว้บนดิน จริงๆ แล้วจะเป็นเช่นนั้นหรือไม่ ศ.ยศกล่าวว่า ไม่จริง เรื่องอะไรที่พวกอยู่ใต้ดินสบายๆ แล้วจะต้องมาอยู่บนดินให้เสียภาษี
“มันอาจมีประเภทขึ้นมาผลุบๆโผล่ๆ เพื่อทำให้เห็นว่านโยบายนี้ดี มีประโยชน์และได้ผล แต่ที่เหลือส่วนใหญ่เชื่อว่ายังอยู่ใต้ดินเหมือนเดิม การพนันออนไลน์ก็เช่นกัน ก็ยังอยู่ใต้ดินเหมือนกัน เพราะเขาจะอยู่ในการดูแลของรัฐบาลและยอมเสียภาษีไปทำไม
“ที่อ้างว่าเอามาไว้บนเดินแล้วจะทำให้พวกใต้ติดหายไปนั้นไม่จริงหรอก บทเรียนจากหวยใต้ดิน เมื่อก่อนอ้างว่าให้เอามาขึ้นบนดิน อีกหน่อยเจ้ามือหวยก็ตายหมด แล้วจริงที่ไหนกัน ถ้าคุณยังไม่รื้อระบบอุปถัมภ์ มันทำไม่ได้หรอก แทนที่คุณจะประคับประคองด้วยการทำให้สังคมมีความเสี่ยงน้อยที่สุด แต่คุณกลับนำคาสิโนเข้ามา ยิ่งทำให้สังคมไทยเกิดความเสี่ยงมากขึ้น ทั้งๆ ที่ระบบเดิมก็ง่อนแง่นอยู่แล้ว
“ผมยังภาวนาว่า ขอให้เขาทำไม่ได้ เพราะไม่เช่นนั้น ทุนจีนสีเทาและดำจะเข้ามาอีกเยอะมาก อย่าลืมว่าระบบการเงินของเราไม่ได้เข้มแข็ง ดูแค่กรณีที่ประชาชนเรามากมายถูกสแกมเมอร์หลอกเงินกันหมดเนื้อหมดตัวซิ ที่สิงคโปร์เขาจัดการภายใน 1 สัปดาห์เสร็จและธนาคารต้องร่วมรับผิดชอบ แต่บ้านเราทำไม่ได้เลย”
https://transbordernews.in.th/home/?p=41330