วันเสาร์, กุมภาพันธ์ 08, 2568

สโลแกนของ USAID คือการช่วยเหลือจากประชาชนชาวอเมริกัน แต่ปรากฏว่าความช่วยเหลือนี้อาจหยุดลงด้วยการตัดสินใจของคนเพียงคนเดียว "มันเป็นเรื่องป่าเถื่อนที่เรากลับไปสู่ยุคหินอีกครั้ง"



ดิมิโทร เชเรมบีย์ ยกเครดิตให้ USAID ที่ช่วยชีวิตเขาไว้

"ผมยังมีชีวิตอยู่ได้เพราะ USAID" ดมิโตร เชเรมบีย์ กล่าว

เขาใช้ชีวิตอยู่กับเชื้อเอชไอวี (HIV) มาเป็นเวลา 24 ปีในยูเครน

เขาบอกว่า หน่วยงานที่มอบความช่วยเหลือมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ไปทั่วโลก ช่วยป้องกันไม่ให้เชื้อไวรัสเอดส์แพร่กระจายในประเทศนั้นได้

"ผู้ติดเชื้อเอชไอวีทุก ๆ 2 คนในยูเครนได้รับการระบุตัวตนด้วยโครงการนี้" นายเชเรมบีย์กล่าว

แต่ขณะนี้อนาคตของสำนักงานเพื่อการพัฒนาการระหว่างประเทศของสหรัฐอเมริกา (USAID) ต้องเผชิญกับภาวะไม่แน่นอนอย่างมาก

หนึ่งในสิ่งที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ทำทันทีที่กลับมารับตำแหน่งประธานาธิบดีสมัยที่ 2 คือการลงนามในคำสั่งฝ่ายบริหารที่ระงับความช่วยเหลือต่างประเทศเกือบทั้งหมดเป็นเวลา 90 วัน ในระหว่างรอการตรวจสอบ


ทรัมป์ กล่าวว่า USAID ถูกบริหารโดย "กลุ่มหัวรุนแรงฝ่ายซ้าย" และลอยนวลไปได้โดย "การฉ้อโกงครั้งใหญ่" โดยไม่มีการแสดงหลักฐานใด ๆ

นายเชเรมบีย์ หัวหน้าองค์กร100% Life องค์กรใหญ่ที่สุดซึ่งดูแลผู้ป่วยในยูเครน เล่าว่า เมื่อรัสเซียเปิดฉากรุกรานยูเครนเต็มรูปแบบในปี 2022 โกดังที่เก็บยาต้านไวรัสเอชไอวีถูกทิ้งระเบิด

ทว่าด้วยความช่วยเหลือจาก USAID ทำให้สามารถจัดหายาทดแทนและกระจายไปทั่วประเทศได้อย่างรวดเร็ว

"สโลแกนของ USAID คือการช่วยเหลือจากประชาชนชาวอเมริกัน แต่ปรากฏว่าความช่วยเหลือนี้อาจหยุดลงด้วยการตัดสินใจของคนเพียงคนเดียว" เขากล่าว


สัปดาห์นี้เกิดการประท้วงนอกสำนักงานใหญ่ USAID ในกรุงวอชิงตัน ดีซี

USAID ก่อตั้งขึ้นในปี 1961 โดยประธานาธิบดีจอห์น เอฟ. เคนเนดี มีพนักงานประมาณ 10,000 คน และมีงบประมาณเกือบ 40,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 1.3 ล้านล้านบาท) จากค่าใช้จ่ายช่วยเหลือต่างประเทศของรัฐบาลสหรัฐฯ 68,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 2.3 ล้านล้านบาท)

หน่วยงานนี้มีสำนักงานอยู่ในประเทศต่าง ๆ มากกว่า 60 ประเทศทั่วโลก และยังดำเนินการร่วมกับหน่วยงานอื่น ๆ อีกหลายสิบหน่วยงาน อย่างไรก็ตาม งานภาคสนามส่วนใหญ่ดำเนินการโดยองค์กรอื่น ๆ ที่ USAID ทำสัญญาว่าจ้างและจัดหาเงินทุนให้

กิจกรรมที่ USAID ดำเนินการมีขอบเขตกว้างขวาง ได้แก่ การจัดหาอาหารให้แก่ประเทศที่ประชาชนกำลังอดอยาก การใช้ระบบตรวจจับความอดอยากที่เป็นมาตรฐานระดับโลก ซึ่งใช้การวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อพยายามคาดการณ์ว่าปัญหาขาดแคลนอาหารจะเกิดขึ้นที่ใด

อีลอน มัสก์ มหาเศรษฐี ซึ่งได้รับมอบหมายจาก ทรัมป์ ให้ลดขนาดหน่วยงานของรัฐบาลกลางสหรัฐฯ เรียกหน่วยงานดังกล่าวว่าเป็น "องค์กรอาชญากร" โดยไม่แสดงหลักฐาน และกล่าวว่า "ถึงเวลาตายของมันแล้ว"

แต่ในประเทศเช่นอัฟกานิสถาน การยุติของ USAID อาจก่อให้เกิดปัญหาใหญ่ ด้วยเพราะหน่วยงานนี้เป็นหนึ่งในผู้บริจาคเงินรายใหญ่ที่สุดให้กับภาคส่วนสาธารณสุขของประเทศ โดยให้ทุนสนับสนุนโครงการต่าง ๆ เพื่อช่วยชีวิตแม่และเด็ก

แพทย์ผู้รับผิดชอบโครงการต่าง ๆ ที่ได้รับทุนจาก USAID ในพื้นที่ กล่าวว่า สมาชิกในทีมของเขาจำนวนกว่า 60 คน รวมทั้งพยาบาลผดุงครรภ์ พยาบาล และแพทย์ ได้รับแจ้งให้หยุดงานหลังจากเงินทุนถูกระงับ

"อนาคตดูมืดมน และผลกระทบต่อผู้ป่วยก็มหาศาล" เขากล่าว

"หากการระงับการจัดหาเงินทุนยังคงดำเนินต่อไป คุณแม่จะถูกบังคับให้คลอดบุตรที่บ้าน เนื่องจากสถานพยาบาลต่าง ๆ ต้องปิดทำการ และจะเพิ่มอัตราการเสียชีวิต" พยาบาลผดุงครรภ์คนหนึ่งกล่าว


USAID มอบทุนโครงการต่าง ๆ เพื่อช่วยชีวิตแก่แม่และเด็กทั่วอัฟกานิสถาน

งานของ USAID ยังขยายขอบเขตไปสู่สาขาต่าง ๆ เช่น ความปลอดภัยทางไซเบอร์ด้วย ชาวอิหร่านผู้เป็นนักเคลื่อนไหวต่อต้านการเซ็นเซอร์กล่าวว่า องค์กรของพวกเขาทำงานด้วยเงินทุนของ USAID

"หากต่อต้านรัฐ นักศึกษา หรือผู้รณรงค์สิทธิสตรีถูกจับกุมในอิหร่าน องค์กรพัฒนาเอกชน (NGO) แบบองค์กรที่ฉันทำงานด้วยจะเป็นผู้ดำเนินการล็อกและลบอีเมลและบัญชีโซเชียลมีเดียของบุคคลนั้นทันที" นักเคลื่อนไหว ซึ่งขอสงวนนาม เพราะกังวลเรื่องการถูกเช็กบิลกล่าว

นั่นหมายความว่า หากเจ้าหน้าที่ข่าวกรองอิหร่านบังคับให้ผู้ถูกคุมขังเปิดเผยรหัสผ่าน พวกเขาจะไม่สามารถเข้าถึงการสื่อสารของบุคคลนั้นได้

"หากบริษัทอินเทอร์เน็ตทำงานร่วมกับรัฐบาลเพื่อจำกัดการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตของชาวอิหร่าน เราจะเปิดเผยพวกเขาต่อสาธารณะและทำให้พวกเขา… ถูกคว่ำบาตรโดยสหภาพยุโรปและสหรัฐอเมริกา" นักเคลื่อนไหวกล่าวเสริม

"ตอนนี้งานทั้งหมดนี้กำลังจะต้องยุติลง เพราะการหยุดสนับสนุนด้านเงินทุน"

นอกจากกิจกรรมเหล่านี้ USAID ยังมอบทุนการศึกษาให้กับนักศึกษาระดับปริญญาตรีในอียิปต์ประเทศเดียวถึง 1,077 คน การที่ ทรัมป์ หยุดให้เงินช่วยเหลือระหว่างประเทศและวิจารณ์ USAID ทำให้อนาคตของนักศึกษาเหล่านี้อยู่ในภาวะอึมครึม

"ผมรู้สึกว่าไม่รู้ชะตากรรมของตัวเอง ผมเคยเป็นนักเรียนดีเด่นที่มีอนาคตสดใส แต่ตอนนี้อนาคตของผมดูมืดมน และผมกลัวว่าจะเดินไปผิดทาง" โมฮัมเหม็ด อัชราฟ หนึ่งในนักเรียนที่ได้รับผลกระทบ กล่าว


ทรัมป์และมัสก์วิพากษ์วิจารณ์ USAID อย่างหนัก

ทรัมป์ เป็นผู้วิจารณ์การใช้จ่ายงบของสหรัฐฯ ในต่างประเทศมาอย่างยาวนาน เขากล่าวว่าการใช้จ่ายดังกล่าวไม่คุ้มค่าสำหรับผู้เสียภาษีชาวอเมริกัน ซึ่งรวมถึงโครงการ USAID ซึ่งเขาชี้ว่าเป็นการสิ้นเปลือง แต่ยังไม่ชัดเจนว่าเขาสามารถปิดหน่วยงานได้จริงหรือไม่

การปิด USAID ทั้งหมดตามข้อเสนอของ อีลอน มัสก์ อาจต้องมีการออกพระราชบัญญัติโดยรัฐสภา ซึ่งพรรครีพับลิกันของทรัมป์มีเสียงข้างมากเพียงเล็กน้อยในทั้ง 2 สภา

มีรายงานว่า ฝ่ายบริหารมีแผนที่จะควบรวมหน่วยงานช่วยเหลือต่างประเทศหลักของรัฐบาลสหรัฐฯ เข้ากับกระทรวงการต่างประเทศ มาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ กล่าวว่า ขณะนี้เขาดำรงตำแหน่งรักษาการหัวหน้าหน่วยงาน โดยระบุว่าเจ้าหน้าที่ของหน่วยงานหลายพันคนทั่วโลกจะถูกพักงานในช่วงสิ้นสัปดาห์นี้

สำหรับนายเชเรมบีย์ในยูเครน เดิมพันครั้งนี้ไม่อาจสูงไปกว่านี้อีกแล้ว

"ตอนนี้ชีวิตของผมตกอยู่ในความเสี่ยง หากโรงพยาบาลของผมไม่มียาตัวนี้แล้ว ผมคงต้องหามันจากที่อื่น" เขากล่าว

"แต่โศกนาฏกรรมสำหรับผู้ติดเชื้อเอชไอวีในยูเครนก็คือ คุณไม่สามารถไปที่ร้านขายยาแล้วซื้อยาเหล่านี้ได้ คุณไม่สามารถซื้อมันจากตลาดมืดได้ ผู้ติดเชื้อเอชไอวีที่นี่ไม่มีทางเลือกอื่น" เขากล่าวเสริม

"มันเป็นเรื่องป่าเถื่อนที่เรากลับไปสู่ยุคหินอีกครั้ง"

https://www.bbc.com/thai/articles/c0k52j4mlm5o