ชวนดูจุดยืน #สว67 24 คน ที่ประกาศไว้บน https://t.co/QB3kmvSRyw ในประเด็น #เขียนรัฐธรรมนูญใหม่
— iLawClub (@iLawclub) February 12, 2025
จุดยืนที่ประกาศไว้จะเป็นเหมือนเดิมหรือไม่ 🤔 ติดตามในนัดสำคัญวันที่ 13-14 กุมภาพันธ์ 2568 นี้
📌อ่านจุดยืน สว. 67 ที่เคยประกาศไว้ได้ที่ https://t.co/O74k3LyZDY pic.twitter.com/iXyfaHgm24
เปิดชื่อ 19 สว. 67 เคยประกาศจุดยืนเห็นด้วย “เขียนรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับ” ต้องการอีกอย่างน้อย 48 เสียง ถึงจะผ่าน!
7/02/2025
iLaw
สมาชิกวุฒิสภา (สว.) 200 คน จากระบบแบ่งกลุ่ม – เลือกกันเอง เป็นคีย์แมนสำคัญของเส้นทางการเขียนรัฐธรรมนูญใหม่ เพราะรัฐธรรมนูญ 2560 มาตรา 256 วางเงื่อนไขให้การแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญจะผ่านด่านแรกไปได้ ต้องใช้เสียง สว. โหวต “เห็นชอบ” หนึ่งในสาม หรือ 67 เสียง โดยวันที่ 13-14 กุมภาพันธ์ 2568 ที่รัฐสภาจะพิจารณาข้อเสนอตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญ (สสร.) มาเขียนรัฐธรรมนูญใหม่จากพรรคเพื่อไทยและพรรคประชาชน วาระนี้เป็นนัดสำคัญที่จะส่งผลให้การเขียนรัฐธรรมนูญใหม่เริ่มต้นเดินหน้าได้ก่อนการเลือกตั้งทั่วไปครั้งหน้าในปี 2570 และเป็นวาระพิจารณาแก้รัฐธรรมนูญครั้งแรก ของ สส. และ สว. ชุดนี้
![](https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgmsVoGRjyevJY7UQaNRMQQJAURu2J0iccqZM6fmzpQTWiClTHEnwdoVCUKv_ZeKR6Xrd2d3Vm1YwcFVC5q69BYAjue-ojbBU_BilkJnAKHYbILAW7YRqqx2eEVlUf9GkST5DMrSF2ae74SjzDv9I2HqJH_QoDhX_qMnuxUGBmNfs8YdfjDSbTb_A/w399-h493/54319582227_5341f7059e_c.jpg)
ย้อนกลับไปช่วงแนะนำตัวผู้สมัคร สว. 2567 ก่อนกระบวนการเลือกกันเอง เว็บไซต์ https://senate67.com เปิดให้ผู้สมัครแนะนำตัว-ประกาศจุดยืนในหลากประเด็น ในจำนวนผู้สมัครที่ประกาศจุดยืน 1,715 คน มีผู้สมัครที่ได้รับเลือกเป็น สว. ทั้งสิ้น 24 คน ซึ่งแต่ละคนก็มีจุดยืนที่แตกต่างกันโดย หนึ่งในนั้นคือจุดยืนเรื่องการเขียนรัฐธรรมนูญใหม่ มี สว. อย่างน้อย 19 คน ที่เคยแสดงจุดยืนว่าต้องการเขียนรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับ แต่ในผู้ที่เห็นด้วยกับ “เขียนรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับ” ก็มีเงื่อนไขแตกต่างกันออกไป โดย 10 คนจาก 19 คน ประกาศชัดเจนว่าเห็นด้วยกับการเขียนรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับ ขณะที่อีกเจ็ดคน เห็นด้วยกับการเขียนรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับ แต่ก็ “พร้อมพิจารณา” ร่างแก้รัฐธรรมนูญที่ล็อกห้าม สสร. แตะหมวด 1 บททั่วไป และหมวด 2 พระมหากษัตริย์ และอีกสองคนเห็นด้วยทั้งเขียนรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับและเห็นด้วยกับการล็อกห้าม สสร. แตะหมวด 1 หมวด 2
สว. 10 คน เห็นด้วยเขียนรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับ ทุกหมวด ทุกมาตรา
- ปริญญา วงษ์เชิดขวัญ กลุ่ม 3 การศึกษา จากอำเภอเมืองสมุทรสาคร จังหวัดสมุทรสาคร ภายหลังปริญญาให้สัมภาษณ์กับบีบีซีไทย เมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2568 ว่าแม้จะเคยประกาศจุดยืนเห็นด้วยกับการเขียนรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับและไม่เห็นด้วยกับการล็อคหมวด 1 บททั่วไป และหมวด 2 พระมหากษัตริย์ แต่เมื่อได้เข้ามาทำงานแล้วจุดยืนก็เปลี่ยนไป ตนเห็นด้วยกับการไม่แก้ไขหมวดที่เกี่ยวข้องกับสถาบันกษัตริย์เพราะเป็นหมวด “ต้องห้าม” ของ สว.
- แล ดิลกวิทยรัตน์ กลุ่ม 7 ลูกจ้าง ผู้ใช้แรงงาน จากเขตพระนคร กรุงเทพมหานคร
- นรเศรษฐ์ ปรัชญากร กลุ่ม 9 ผู้ประกอบการ SMEs จากเขตคันนายาว กรุงเทพมหานคร
- นิคม มากรุ่งแจ้ง กลุ่ม 10 ผู้ประกอบกิจการอื่น จากอำเภอเมืองสมุทรสาคร จังหวัดสมุทรสาคร
- มานะ มหาสุวีระชัย กลุ่ม 13 วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี จาก อำเภอเมืองศรีสะเกษ จังหวัดศรีสะเกษ
- ประหยัด จตุพรพิทักษ์กุล กลุ่ม 17 ประชาสังคม จากอำเภอแม่วาง จังหวัดเชียงใหม่
- อังคณา นีละไพรจิตร กลุ่ม 17 ประชาสังคม จากเขตธนบุรี กรุงเทพมหานคร
- ประภาส ปิ่นตบแต่ง กลุ่ม 17 ประชาสังคม จากอำเภอนครชัยศรี จังหวัดนครปฐม
- เทวฤทธิ์ มณีฉาย กลุ่ม 18 สื่อสารมวลชน นักเขียน จากอำเภออัมพวา จังหวัดสมุทรสงคราม
- นันทนา นันทวโรภาส กลุ่ม 18 สื่อสารมวลชน นักเขียน จากอำเภอพระนคร กรุงเทพมหานคร
- วีระพันธ์ สุวรรณนามัย กลุ่ม 4 สาธารณสุข จากอำเภอเมืองพิษณุโลก จังหวัดพิษณุโลก
- ปิยพัฒน์ สุภาวรรณ กลุ่ม 7 ลูกจ้าง ผู้ใช้แรงงาน จากอำเภอบางกรวย จังหวัดนนทบุรี
- เกียรติชาย ไมตรีวงษ์ กลุ่ม 8 สิ่งแวดล้อม อสังหาริมทรัพย์ พลังงาน จากอำเภอเมืองสมุทรปราการ จังหวัดสมุทรปราการ
- ประทุม วงศ์สวัสดิ์ กลุ่ม 11 ท่องเที่ยว โรงแรม จากอำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี
- วุฒิพงษ์ พงศ์สุวรรณ ร.น. กลุ่ม 13 วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีจากอำเภอสามโคก จังหวัดปทุมธานี
- ชวพล วัฒนพรมงคล กลุ่ม 16 ศิลปะ ดนตรี บันเทิง กีฬา จากอำเภอเมืองสมุทรสาคร จังหวัดสมุทรสาคร
- สุนทร พฤกษพิพัฒน์ กลุ่ม 19 อาชีพอิสระ จากอำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี
- ยุคล ชนะวัฒน์ปัญญา กลุ่ม 15 ผู้สูงอายุ ผู้พิการ กลุ่มชาติพันธ์ และกลุ่มอัตลักษณ์อื่น จากอำเภอนายายอาม จังหวัดจันทบุรี
- เอกชัย เรืองรัตน์ กลุ่ม 20 อื่นๆ จากอำเภอบางคล้า จังหวัดฉะเชิงเทรา
ไว้ใน คำถามประชามติที่รัฐบาลเศรษฐาวางแผนไว้เมื่อปี 2566
ข้อเสนอแก้รัฐธรรมนูญเพื่อตั้ง สสร. มาเขียนรัฐธรรมนูญใหม่ของพรรคประชาชนและพรรคเพื่อไทยที่รัฐสภากำลังพิจารณาในวันที่ 13-14 กุมภาพันธ์ 2568 ข้อแตกต่างในรายละเอียดของทั้งสองพรรคมีจุดตัดอยู่ที่การแก้ไขรัฐธรรมนูญใหม่ “ทั้งฉบับ” ได้หรือไม่ เพราะข้อเสนอพรรคเพื่อไทยระบุชัดเจนว่าห้ามแก้ไขหมวด 1 และหมวด 2 เหมือนดั่งที่เคยเสนอมาตั้งแต่ปี 2563 ส่วนข้อเสนอพรรคประชาชนไม่ได้มีข้อห้ามในส่วนนี้
สว. 4 คน “พร้อมพิจารณา” และ 1 คนที่ “ไม่เห็นด้วย” กับการเขียนใหม่ทั้งฉบับ
นอกจาก สว. 19 คนที่เห็นด้วยกับการเขียนรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับแล้ว ยังมี สว.อีกสี่คนที่เคยแสดงจุดยืนบนเว็บไซต์ Senate67.com ในประเด็นการเขียนรัฐธรรมนูญใหม่เอาไว้ ดังนี้
- “พร้อมพิจารณา” การเขียนรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับ และพร้อมพิจารณาการล็อกหมวด 1 บททั่วไปและหมวด 2 พระมหากษัตริย์ ได้แก่
สหพันธ์ รุ่งโรจนพณิชย์ กลุ่ม 10 ผู้ประกอบการอื่นๆ จากอำเภอท่าม่วง จังหวัดกาญจบุรี
- “พร้อมพิจารณา” การเขียนรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับ แต่ “เห็นด้วย” ให้ล็อกหมวด 1 บททั่วไปและหมวด 2 พระมหากษัตริย์ ได้แก่
นครนายก
ปฏิมา จีระแพทย์ กลุ่ม 8 สิ่งแวดล้อม จากเขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร
มี สว. เพียงคนเดียวที่ประกาศตัวใน Senate67.com ว่า “ไม่เห็นด้วย” กับการเขียนรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ทั้งฉบับ แต่ “พร้อมพิจารณา” หากล็อกหมวด 1 บททั่วไปและหมวด 2 พระมหากษัตริย์ คือ เศรณี อนิลบล กลุ่ม 6 ทำสวน ป่าไม้ ปศุสัตว์ จากอำเภอโกรกพระ จังหวัดนครสวรรค์
เมื่อพิจารณาจุดยืนของ สว. 24 คนที่เคยประกาศตัวไว้ในเว็บไซต์ senate67.com เทียบกับข้อเสนอในร่างแก้รัฐธรรมนูญเพื่อตั้ง สสร. มาเขียนรัฐธรรมนูญใหม่ของพรรคเพื่อไทยและพรรคประชาชน พบว่าในจำนวน สว. 24 คนนี้ จะมีคนที่มีจุดยืนเดียวกันกับร่างฉบับพรรคประชาชนที่สนับสนุนการเขียนใหม่ทั้งฉบับ จำนวน 19 คน ได้แก่ ปริญญา วงษ์เชิดขวัญ (ซึ่งภายหลังให้สัมภาษณ์บีบีซีไทยว่าเปลี่ยนจุดยืนแล้ว) แล ดิลกวิทยรัตน์ นรเศรษฐ์ ปรัชญากร นิคม มากรุ่งแจ้ง มานะ มหาสุวีระชัย ประหยัด จตุพรพิทักษ์กุล อังคณา นีละไพรจิตร ประภาส ปิ่นตบแต่ง เทวฤทธิ์ มณีฉาย นันทนา นันทวโรภาส วีระพันธ์ สุวรรณนามัย ปิยพัฒน์ สุภาวรรณ เกียรติชาย ไมตรีวงษ์ ประทุม วงศ์สวัสดิ์ วุฒิพงษ์ พงศ์สุวรรณ ร.น. ชวพล วัฒนพรมงคล สุนทร พฤกษพิพัฒน์ ยุคล ชนะวัฒน์ปัญญา และ เอกชัย เรืองรัตน์
และมี 4 คนที่จุดยืนสอดคล้องกับร่างฉบับพรรคเพื่อไทยที่สนับสนุนให้มีการล็อคหมวด 1 บททั่วไป และหมวด 2 พระมหากษัตริย์ ได้แก่ ยุคล ชนะวัฒน์ปัญญา เอกชัย เรืองรัตน์ พล.ต.ต. อังกูร คล้ายคลึง และ ปฏิมา จีระแพทย์
อีกสองคน ได้แก่ มังกร ศรีเจริญกูล และ สหพันธ์ รุ่งโรจนพณิชย์ มีจุดยืนที่พร้อมจะพิจารณาข้อเสนอเขียนรัฐธรรมนูญใหม่ของทั้งสองพรรคการเมือง ส่วนคนสุดท้ายคือ เศรณี อนิลบล ไม่เห็นด้วยแน่นอนกับข้อเสนอพรรคประชาชนแต่ก็พร้อมที่จะพิจารณาข้อเสนอของพรรคเพื่อไทย
หลังจบกระบวนการเลือกกันเอง และ สว. เริ่มทำหน้าที่ในสมัยประชุมแรก ระหว่างวันที่ 23 กรกฎาคม 2567 ถึง 30 ตุลาคม 2567 ผลงานของ สว. ในประเด็นเกี่ยวกับการเขียนรัฐธรรมนูญใหม่อย่างเป็นรูปธรรมที่สุดคือ พิจารณาแก้ไขพระราชบัญญัติว่าด้วยการออกเสียงประชามติ พ.ศ. 2564 (พ.ร.บ. ประชามติฯ) โดยเสียงข้างมากของ สว. ชุดนี้ “แผลงฤทธิ์” พลิกกลับแนวทางของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) ฝ่าย สส. เห็นว่าต้องยกเลิกเงื่อนไขเสียงข้างมากสองชั้น (Double Majority) และเปลี่ยนไปใช้เงื่อนไขเสียงข้างมากธรรมดาแทน เพื่อให้การทำประชามติเพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญง่ายมากขึ้น ซึ่งเมื่อมาถึงชั้น สว. ก็ถูกพลิกมติกลับให้ไปใช้เสียงข้างมากสองชั้น (Double Majority) เหมือนเดิม สุดท้ายร่างพ.ร.บ. ประชามติฯ ก็ถูกยับยั้งไว้ 180 วัน
เมื่อสำรวจว่า สว. ที่เคยแสดงจุดยืนในเว็บไซต์ senate67.com โหวตอย่างไรในประเด็นเสียงข้างมากธรรมดา-เสียงข้างมากสองชั้น พบว่า สว. เหล่านี้ มีแนวทางลงมติการลงมติแตกต่างกัน โดยส่วนใหญ่ 11 คน ยังยืนยันหลักการให้ใช้เสียงข้างมากชั้นเดียวก็พอเพื่อให้ประชามติทำได้ง่าย ขณะที่อีกแปดคน แนวโน้ม “ไหลตาม” สว. ส่วนใหญ่ คือ โหวตพลิกกลับไปใช้เสียงข้างมากสองชั้น มีสี่คนที่งดออกเสียง และหนึ่งคนที่ไม่ได้มาลงมติ
ปฏิมา จีระแพทย์ กลุ่ม 8 สิ่งแวดล้อม จากเขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร
มี สว. เพียงคนเดียวที่ประกาศตัวใน Senate67.com ว่า “ไม่เห็นด้วย” กับการเขียนรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ทั้งฉบับ แต่ “พร้อมพิจารณา” หากล็อกหมวด 1 บททั่วไปและหมวด 2 พระมหากษัตริย์ คือ เศรณี อนิลบล กลุ่ม 6 ทำสวน ป่าไม้ ปศุสัตว์ จากอำเภอโกรกพระ จังหวัดนครสวรรค์
เมื่อพิจารณาจุดยืนของ สว. 24 คนที่เคยประกาศตัวไว้ในเว็บไซต์ senate67.com เทียบกับข้อเสนอในร่างแก้รัฐธรรมนูญเพื่อตั้ง สสร. มาเขียนรัฐธรรมนูญใหม่ของพรรคเพื่อไทยและพรรคประชาชน พบว่าในจำนวน สว. 24 คนนี้ จะมีคนที่มีจุดยืนเดียวกันกับร่างฉบับพรรคประชาชนที่สนับสนุนการเขียนใหม่ทั้งฉบับ จำนวน 19 คน ได้แก่ ปริญญา วงษ์เชิดขวัญ (ซึ่งภายหลังให้สัมภาษณ์บีบีซีไทยว่าเปลี่ยนจุดยืนแล้ว) แล ดิลกวิทยรัตน์ นรเศรษฐ์ ปรัชญากร นิคม มากรุ่งแจ้ง มานะ มหาสุวีระชัย ประหยัด จตุพรพิทักษ์กุล อังคณา นีละไพรจิตร ประภาส ปิ่นตบแต่ง เทวฤทธิ์ มณีฉาย นันทนา นันทวโรภาส วีระพันธ์ สุวรรณนามัย ปิยพัฒน์ สุภาวรรณ เกียรติชาย ไมตรีวงษ์ ประทุม วงศ์สวัสดิ์ วุฒิพงษ์ พงศ์สุวรรณ ร.น. ชวพล วัฒนพรมงคล สุนทร พฤกษพิพัฒน์ ยุคล ชนะวัฒน์ปัญญา และ เอกชัย เรืองรัตน์
และมี 4 คนที่จุดยืนสอดคล้องกับร่างฉบับพรรคเพื่อไทยที่สนับสนุนให้มีการล็อคหมวด 1 บททั่วไป และหมวด 2 พระมหากษัตริย์ ได้แก่ ยุคล ชนะวัฒน์ปัญญา เอกชัย เรืองรัตน์ พล.ต.ต. อังกูร คล้ายคลึง และ ปฏิมา จีระแพทย์
อีกสองคน ได้แก่ มังกร ศรีเจริญกูล และ สหพันธ์ รุ่งโรจนพณิชย์ มีจุดยืนที่พร้อมจะพิจารณาข้อเสนอเขียนรัฐธรรมนูญใหม่ของทั้งสองพรรคการเมือง ส่วนคนสุดท้ายคือ เศรณี อนิลบล ไม่เห็นด้วยแน่นอนกับข้อเสนอพรรคประชาชนแต่ก็พร้อมที่จะพิจารณาข้อเสนอของพรรคเพื่อไทย
หลังจบกระบวนการเลือกกันเอง และ สว. เริ่มทำหน้าที่ในสมัยประชุมแรก ระหว่างวันที่ 23 กรกฎาคม 2567 ถึง 30 ตุลาคม 2567 ผลงานของ สว. ในประเด็นเกี่ยวกับการเขียนรัฐธรรมนูญใหม่อย่างเป็นรูปธรรมที่สุดคือ พิจารณาแก้ไขพระราชบัญญัติว่าด้วยการออกเสียงประชามติ พ.ศ. 2564 (พ.ร.บ. ประชามติฯ) โดยเสียงข้างมากของ สว. ชุดนี้ “แผลงฤทธิ์” พลิกกลับแนวทางของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) ฝ่าย สส. เห็นว่าต้องยกเลิกเงื่อนไขเสียงข้างมากสองชั้น (Double Majority) และเปลี่ยนไปใช้เงื่อนไขเสียงข้างมากธรรมดาแทน เพื่อให้การทำประชามติเพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญง่ายมากขึ้น ซึ่งเมื่อมาถึงชั้น สว. ก็ถูกพลิกมติกลับให้ไปใช้เสียงข้างมากสองชั้น (Double Majority) เหมือนเดิม สุดท้ายร่างพ.ร.บ. ประชามติฯ ก็ถูกยับยั้งไว้ 180 วัน
เมื่อสำรวจว่า สว. ที่เคยแสดงจุดยืนในเว็บไซต์ senate67.com โหวตอย่างไรในประเด็นเสียงข้างมากธรรมดา-เสียงข้างมากสองชั้น พบว่า สว. เหล่านี้ มีแนวทางลงมติการลงมติแตกต่างกัน โดยส่วนใหญ่ 11 คน ยังยืนยันหลักการให้ใช้เสียงข้างมากชั้นเดียวก็พอเพื่อให้ประชามติทำได้ง่าย ขณะที่อีกแปดคน แนวโน้ม “ไหลตาม” สว. ส่วนใหญ่ คือ โหวตพลิกกลับไปใช้เสียงข้างมากสองชั้น มีสี่คนที่งดออกเสียง และหนึ่งคนที่ไม่ได้มาลงมติ
สว. ที่ไม่เห็นชอบ ยืนยันให้ใช้เกณฑ์เสียงข้างมากธรรมดาก็พอ
แล ดิลกวิทยรัตน์ กลุ่มที่ 7 ลูกจ้าง จากเขตพระนคร กรุงเทพมหานคร
เกียรติชาย ไมตรีวงษ์ กลุ่ม 8 สิ่งแวดล้อม อสังหาริมทรัพย์ พลังงาน จากอำเภอเมืองสมุทรปราการ จังหวัดสมุทรปราการ
นรเศรษฐ์ ปรัชญากร กลุ่ม 9 ผู้ประกอบการ SMEs จากเขตคันนายาว กรุงเทพมหานคร
ประทุม วงศ์สวัสดิ์ กลุ่ม 11 ท่องเที่ยว โรงแรม จากอำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี
ประหยัด จตุพรพิทักษ์กุล กลุ่ม 17 ประชาสังคม จากอำเภอแม่วาง จังหวัดเชียงใหม่
อังคณา นีละไพรจิตร กลุ่ม 17 ประชาสังคม จากเขตธนบุรี กรุงเทพมหานคร
ประภาส ปิ่นตบแต่ง กลุ่ม 17 ประชาสังคม จากอำเภอนครชัยศรี จังหวัดนครปฐม
เทวฤทธิ์ มณีฉาย กลุ่ม 18 สื่อสารมวลชน นักเขียน จากอำเภออัมพวา จังหวัดสมุทรสงคราม
นันทนา นันทวโรภาส กลุ่ม 18 สื่อสารมวลชน นักเขียน จากเขตพระนคร กรุงเทพมหานคร
สุนทร พฤกษพิพัฒน์ กลุ่ม 19 อาชีพอิสระ จากอำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี
เศรณี อนิลบล กลุ่ม 6 ทำสวน ป่าไม้ ปศุสัตว์ จากอำเภอโกรกพระ จังหวัดนครสวรรค์
สว. ที่เห็นชอบให้พลิกมติกลับไปใช้เสียงข้างมากสองชั้นในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ได้แก่วีระพันธ์ สุวรรณนามัย กลุ่มที่ 4 สาธารณสุข จากอำเภอเมืองพิษณุโลก จังหวัดพิษณุโลก
ปิยพัฒน์ สุภาวรรณ กลุ่มที่ 7 ลูกจ้าง จากอำเภอบางกรวย จังหวัดนนทบุรี
มังกร ศรีเจริญกูล กลุ่ม 10 ผู้ประกอบการอื่นๆ จากอำเภอเมืองน่าน จังหวัดน่าน
สหพันธ์ รุ่งโรจนพณิชย์ กลุ่ม 10 ผู้ประกอบการอื่นๆ จากอำเภอท่าม่วง จังหวัดกาญจบุรี
มานะ มหาสุวีระชัย กลุ่ม 13 วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี จากอำเภอเมืองศรีสะเกษ จังหวัดศรีสะเกษ
วุฒิพงษ์ พงศ์สุวรรณ ร.น. กลุ่ม 13 วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี จากอำเภอสามโคก จังหวัดปทุมธานี
ยุคล ชนะวัฒน์ปัญญา กลุ่ม 15 ผู้สูงอายุ ผู้พิการ กลุ่มชาติพันธ์ และกลุ่มอัตลักษณ์อื่น จากอำเภอนายายอาม จังหวัดจันทบุรี
ชวพล วัฒนพรมงคล กลุ่ม 16 ศิลปะ ดนตรี บันเทิง กีฬา จากอำเภอเมืองสมุทรสาคร จังหวัดสมุทรสาคร
สว. ที่งดออกเสียงในประเด็นการแก้ไข พ.ร.บ. ประชามติฯพล.ต.ต. อังกูร คล้ายคลึง กลุ่ม 2 กฎหมายและกระบวนการยุติธรรม จากอำเภอเมืองนครนายก จังหวัดนครนายก
ปริญญา วงษ์เชิดขวัญ กลุ่มที่ 3 การศึกษา จากอำเภอเมืองสมุทรสาคร จังหวัดสมุทรสาคร
ปฏิมา จีระแพทย์ กลุ่ม 8 สิ่งแวดล้อม จากเขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร
นิคม มากรุ่งแจ้ง กลุ่ม 10 ผู้ประกอบกิจการอื่น จากอำเภอเมืองสมุทรสาคร จังหวัดสมุทรสาคร
สว. ที่ไม่ได้มาร่วมลงมติในวาระการแก้ไข พ.ร.บ. ประชามติฯเอกชัย เรืองรัตน์ กลุ่ม 20 อื่นๆ จากอำเภอบางคล้า จังหวัดฉะเชิงเทรา
ผลการลงมติในวาระสำคัญในวันที่ 13-14 กุมภาพันธ์ 2568 จะเป็นตัวชี้วัดว่า สว. 67 ทั้ง 19 คน รวมถึง สว. คนอื่นทั้งที่เคยแสดงจุดยืน และไม่เคยแสดงจุดยืนประเด็นดังกล่าว จะนำพาประเทศไปสู่ทิศทางไหน
ชวนติดตามประชุมร่วมกันของรัฐสภานัดสำคัญครั้งนี้ ว่า สว. ชุดแรกของระบบ “เลือกกันเอง” ที่ประชาชนไม่ได้เลือกเข้ามาโดยตรง จะลงมติ “เห็นด้วย” หรือไม่ กับข้อเสนอปูทางไปสู่การเขียนรัฐธรรมนูญใหม่
https://www.ilaw.or.th/articles/50383
เกียรติชาย ไมตรีวงษ์ กลุ่ม 8 สิ่งแวดล้อม อสังหาริมทรัพย์ พลังงาน จากอำเภอเมืองสมุทรปราการ จังหวัดสมุทรปราการ
นรเศรษฐ์ ปรัชญากร กลุ่ม 9 ผู้ประกอบการ SMEs จากเขตคันนายาว กรุงเทพมหานคร
ประทุม วงศ์สวัสดิ์ กลุ่ม 11 ท่องเที่ยว โรงแรม จากอำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี
ประหยัด จตุพรพิทักษ์กุล กลุ่ม 17 ประชาสังคม จากอำเภอแม่วาง จังหวัดเชียงใหม่
อังคณา นีละไพรจิตร กลุ่ม 17 ประชาสังคม จากเขตธนบุรี กรุงเทพมหานคร
ประภาส ปิ่นตบแต่ง กลุ่ม 17 ประชาสังคม จากอำเภอนครชัยศรี จังหวัดนครปฐม
เทวฤทธิ์ มณีฉาย กลุ่ม 18 สื่อสารมวลชน นักเขียน จากอำเภออัมพวา จังหวัดสมุทรสงคราม
นันทนา นันทวโรภาส กลุ่ม 18 สื่อสารมวลชน นักเขียน จากเขตพระนคร กรุงเทพมหานคร
สุนทร พฤกษพิพัฒน์ กลุ่ม 19 อาชีพอิสระ จากอำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี
เศรณี อนิลบล กลุ่ม 6 ทำสวน ป่าไม้ ปศุสัตว์ จากอำเภอโกรกพระ จังหวัดนครสวรรค์
สว. ที่เห็นชอบให้พลิกมติกลับไปใช้เสียงข้างมากสองชั้นในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ได้แก่วีระพันธ์ สุวรรณนามัย กลุ่มที่ 4 สาธารณสุข จากอำเภอเมืองพิษณุโลก จังหวัดพิษณุโลก
ปิยพัฒน์ สุภาวรรณ กลุ่มที่ 7 ลูกจ้าง จากอำเภอบางกรวย จังหวัดนนทบุรี
มังกร ศรีเจริญกูล กลุ่ม 10 ผู้ประกอบการอื่นๆ จากอำเภอเมืองน่าน จังหวัดน่าน
สหพันธ์ รุ่งโรจนพณิชย์ กลุ่ม 10 ผู้ประกอบการอื่นๆ จากอำเภอท่าม่วง จังหวัดกาญจบุรี
มานะ มหาสุวีระชัย กลุ่ม 13 วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี จากอำเภอเมืองศรีสะเกษ จังหวัดศรีสะเกษ
วุฒิพงษ์ พงศ์สุวรรณ ร.น. กลุ่ม 13 วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี จากอำเภอสามโคก จังหวัดปทุมธานี
ยุคล ชนะวัฒน์ปัญญา กลุ่ม 15 ผู้สูงอายุ ผู้พิการ กลุ่มชาติพันธ์ และกลุ่มอัตลักษณ์อื่น จากอำเภอนายายอาม จังหวัดจันทบุรี
ชวพล วัฒนพรมงคล กลุ่ม 16 ศิลปะ ดนตรี บันเทิง กีฬา จากอำเภอเมืองสมุทรสาคร จังหวัดสมุทรสาคร
สว. ที่งดออกเสียงในประเด็นการแก้ไข พ.ร.บ. ประชามติฯพล.ต.ต. อังกูร คล้ายคลึง กลุ่ม 2 กฎหมายและกระบวนการยุติธรรม จากอำเภอเมืองนครนายก จังหวัดนครนายก
ปริญญา วงษ์เชิดขวัญ กลุ่มที่ 3 การศึกษา จากอำเภอเมืองสมุทรสาคร จังหวัดสมุทรสาคร
ปฏิมา จีระแพทย์ กลุ่ม 8 สิ่งแวดล้อม จากเขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร
นิคม มากรุ่งแจ้ง กลุ่ม 10 ผู้ประกอบกิจการอื่น จากอำเภอเมืองสมุทรสาคร จังหวัดสมุทรสาคร
สว. ที่ไม่ได้มาร่วมลงมติในวาระการแก้ไข พ.ร.บ. ประชามติฯเอกชัย เรืองรัตน์ กลุ่ม 20 อื่นๆ จากอำเภอบางคล้า จังหวัดฉะเชิงเทรา
ผลการลงมติในวาระสำคัญในวันที่ 13-14 กุมภาพันธ์ 2568 จะเป็นตัวชี้วัดว่า สว. 67 ทั้ง 19 คน รวมถึง สว. คนอื่นทั้งที่เคยแสดงจุดยืน และไม่เคยแสดงจุดยืนประเด็นดังกล่าว จะนำพาประเทศไปสู่ทิศทางไหน
ชวนติดตามประชุมร่วมกันของรัฐสภานัดสำคัญครั้งนี้ ว่า สว. ชุดแรกของระบบ “เลือกกันเอง” ที่ประชาชนไม่ได้เลือกเข้ามาโดยตรง จะลงมติ “เห็นด้วย” หรือไม่ กับข้อเสนอปูทางไปสู่การเขียนรัฐธรรมนูญใหม่
https://www.ilaw.or.th/articles/50383