วันศุกร์, กุมภาพันธ์ 07, 2568

เมื่อกระบวนการยุติธรรมของประเทศไทย #ถูกตั้งคำถามครั้งใหญ่ อีกครั้ง : #หนึ่ง ทำไมการทำหน้าที่คุ้มครองผู้บริโภคจึงเป็นความผิด? #สอง แล้วทำไมต้องถึงขนาดจำคุกโดยไม่รอลงอาญา?


Prinya Thaewanarumitkul
17 hours ago
·
เมื่อกระบวนการยุติธรรมของประเทศไทย #ถูกตั้งคำถามครั้งใหญ่ อีกครั้ง : #หนึ่ง ทำไมการทำหน้าที่คุ้มครองผู้บริโภคจึงเป็นความผิด? #สอง แล้วทำไมต้องถึงขนาดจำคุกโดยไม่รอลงอาญา?
แต่ #คดียังไม่ถึงที่สุด อาจารย์พิรงรองได้รับการประกันตัวเพื่อสู้คดีระหว่างอุทธรณ์แล้ว สาธารณชนต้องช่วยกันติดตามคดีกันต่อไป ขอให้กำลังใจอาจารย์พิรงรองครับ



https://www.facebook.com/prinya.thaewanarumitkul/posts/9391050334272154





.....

Pat Niyomsilp
8 hours ago
·
จากกรณี อาจารย์พิรงรอง ถูกทรูไอดีฟ้อง ม.157 และนำไปสู่คำพิพากษาลงโทษ จำคุก 2 ปี นั้น
ผมเชื่อว่าผมไม่ใช่คนเดียวที่รู้สึกตกใจกับผลแห่งคำพิพากษา ต่อมาเมื่อได้อ่านคำแถลงของศาลผ่านสื่อประชาสัมพันธ์ก็ยิ่งสงสัยในเหตุและผลทางกฎหมายที่นำไปสู่การลงโทษดังกล่าว
ไม่ว่าจะพิจารณาจากมุมของกฎหมายมหาชน หรือมุมของกฎหมายอาญา ก็น่าฉงนไปทั้งนั้น
อย่างไรก็ดี เมื่อยังไม่ได้อ่านคำพิพากษาฉบับเต็ม ก็คงจะไปให้ความเห็นในเนื้อของคำพิพากษาได้ยาก เพราะคนสรุปความมาแถลงต่อสื่อ อาจข้ามข้อเท็จจริงบางส่วนที่เป็นสาระสำคัญ
แต่นั้นไม่ได้ห้ามเราพูดถึงหลักการที่ควรจะเป็น หรือ ห้ามการตั้งคำถามถึงสิ่งผิดปรกติที่เกิดขึ้น
ผมไม่อาจเรียกตัวเองได้ว่าเป็นลูกศิษย์อาจารย์พิรงรอง แต่ผมก็ใช้ชีวิตในจุฬาฯ นานพอที่จะเห็นบทบาทของอาจารย์พิรงรองในการสร้างสังคม ไม่ว่าจะอยู่ในฐานะครู ฐานะผู้บริหาร หรือฐานะผู้นำการเคลื่อนไหวทางสังคม
ทุกเทอมที่สอนวิชาเสรีภาพในการชุมนุมกับกฎหมาย ทุกครั้งที่สอนถึงหัวข้อประทุษวาจา (Hate Speech) ผมก็จะต้องอ้างอิงถึงความหมายและคำสอนของอาจารย์พิรงรอง ดังนั้น ผมเอ่ยชื่อท่านในห้องเรียนอยู่อย่างสม่ำเสมอ
หากมองจากสายตานักกฎหมายสิทธิมนุษยชน ผมเห็นว่าคดีที่อาจารย์ถูกฟ้องเข้าข่ายเป็นคดีปิดปาก (SLAPPs - Strategic lawsuit against public participation) คดีพวกนี้ฟ้องเพื่อสร้างสภาวะความกลัว ทำให้คนที่ออกมาแฉความจริง คนที่ออกมาปกป้องประโยชน์สาธารณะ หรือคนที่ออกมาแสดงความเห็นคัดค้านต้องเงียบเสียงไปด้วยกลัวว่าจะต้องมีภาระคดีความ
เมื่อคนที่พยายามรักษาประโยชน์ส่วนรวมถูกปิดปาก หรือไม่กล้าพูด แล้วสังคมไม่สนใจที่จะเข้ามาปกป้อง เมื่อนั้นก็แน่ใจได้เลยว่ามันจะไม่มีใครออกมาคัดค้านเจ้าไจแอนท์ เด็กเกเรที่คุมสนามเด็กเล่นอยู่
ดังนั้น หากมองในภาพกว้าง คนที่ถูกละเมิดสิทธิจะไม่ใช่มีเพียงแต่คนที่ถูก SLAPPs เท่านั้น คนทั่วไปอย่างเรา ๆ ท่าน ๆ ก็จะเสียสิทธิ เสียประโยชน์ไปด้วย
เพราะเมื่อท่านเองถูกคดีแบบนี้บ้าง ก็จะไม่มีใครในสังคมใส่ใจช่วยเหลือท่าน
ผมขอถือโอกาสนี้เชิญชวนให้ทำความเข้าใจกับคดี SLAPPs ซึ่งสมาคมนักกฎหมายสิทธิมนุษยชนได้สรุปไว้แล้วอย่างดี
https://hrla.or.th/wp.../uploads/2019/06/20190811-pdf.pdf
ผมยังเชื่อว่า ถ้าเรามีภูมิคุ้มกันหมู่ คดี SLAPPs ก็จะเป็นของแปลกของสังคมและไม่เป็นคุณกับผู้ที่จ้องจะใช้มันปิดปากผู้อื่นครับ
มาสร้างภูมิคุ้มกันหมู่กันเถิดครับ