วันอาทิตย์, พฤศจิกายน 02, 2568

เรื่องเสื้อเกราะบริจาค ต้องบอกว่าโตโต้ ตีประเด็นได้ถูกจุดมากๆ เพราะประเด็นมันเลยเรื่อง "ล็อกสเปก" หรือ "ความตั้งใจดี" ไปไกลแล้ว มันคือการชี้ให้เห็นความบกพร่องของระบบความมั่นคง ที่ปล่อยให้เกิดช่องโหว่ จนเข้าข่ายผิดกฎหมายกันเป็นแถว


Pavin Chachavalpongpun
11 hours ago
·
เรื่องเสื้อเกราะบริจาค ต้องบอกว่าโตโต้ตีประเด็นได้ถูกจุดมากๆ เพราะประเด็นมันเลยเรื่อง "ล็อกสเปก" หรือ "ความตั้งใจดี" ไปไกลแล้วค่ะ มันคือการชี้ให้เห็นความบกพร่องของระบบความมั่นคง ที่ปล่อยให้เกิดช่องโหว่จนเข้าข่ายผิดกฎหมายกันเป็นแถว
...ผู้บริจาค (เอกชน/กันจอมพลัง) คือไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม หากมีการจัดหาหรือนำเข้าเสื้อเกราะกันกระสุน (ซึ่งกฎหมายจัดเป็น "ยุทธภัณฑ์" ทันทีที่มันกันกระสุนได้ ไม่ว่าจะกระสุนอะไรก็ตาม) โดยไม่มีใบอนุญาตจากหน่วยงานราชการ ถือว่าทำผิด พ.ร.บ. ควบคุมยุทธภัณฑ์ฯ มาตรา 18 ทันทีค่ะ โทษถึงจำคุก 5 ปี หรือปรับ 50,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ คือเจตนาดีไม่ได้แปลว่าพ้นผิดทางกฎหมาย นี่แหละคือจุดที่สุ่มเสี่ยงที่สุด
...ส่วนอีผู้รับ (กองทัพ/ตำรวจ) นี่คือจุดที่น่าสงสัยที่สุดค่ะ เพราะหน่วยงานความมั่นคงควรเป็นหน่วยงานที่รู้กฎหมายยุทธภัณฑ์ดีที่สุด แต่กลับยอมรับ "ยุทธภัณฑ์" จากเอกชนโดยไม่มีการตรวจสอบหรือขออนุญาตตามระเบียบที่ถูกต้อง นั่นแปลว่า 1) บกพร่องในระบบบริหาร ระบบการตรวจรับยุทธภัณฑ์ของรัฐล้มเหลวโดยสิ้นเชิง หรือแกล้งไม่รู้ว่าสิ่งนี้คือกฎหมายความมั่นคงที่ต้องควบคุม และ 2) เข้าข่ายละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ คือการรับของผิดกฎหมายเข้ามาใช้ในราชการโดยไม่ได้ผ่านกระบวนการจัดหา ตรวจสอบและอนุมัติที่โปร่งใส อาจตีความได้ว่ามีการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายได้ ซึ่งนี่คือการเปิดประตูให้เกิดการ "ตุกติกระหว่างกัน" คือฝ่ายหนึ่งอยากบริจาค แต่อีกฝ่ายอยากได้จนมองข้ามขั้นตอนกฎหมายไปหมด อย่างงี้ได้หรอคะ???
...เรื่องนี้ ประเด็นหลักที่ดิชั้นต้องการชี้ก็คือ ความมั่นคงของชาติไม่ใช่เรื่องของการทำบุญหรือการบริจาค รัฐมีงบประมาณมหาศาล (ดังที่ดิชั้นเขียนไปแล้ว) มีจำเป็นต้องมีระบบจัดหาที่โปร่งใส มีการตรวจรับที่เข้มงวด เพราะมันคือความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่รัฐทุกคน แต่การที่เรื่องเสื้อเกราะที่ต้องพึ่งพาการบริจาคจากเอกชนสะท้อนว่า ระบบจัดซื้อจัดหาของรัฐล้มเหลวอย่างสิ้นเชิง และความล้มเหลวนั้นถูกปกปิดด้วยการละเลยกฎหมายยุทธภัณฑ์ เพื่อให้งาน "ความมั่นคง" เดินหน้าไปได้ ซึ่งเป็นอันตรายอย่างยิ่งต่อธรรมาภิบาลและความถูกต้องของประเทศ สรุปเรื่องนี้นะคะ ไม่ได้จบที่สเปก แต่จบที่การทำผิดกฎหมายของทั้งคนให้และคนรับค่ะ

https://www.facebook.com/pavinchachavalpongpun/posts/24303226346019133
Yesterday
·
ประเด็นที่กำลังถกเถียงกันอยู่ว่าซื้อ #เสื้อเกราะ ล็อคสเปคหรือไม่ เห็นถกกันอยู่แค่ตรงนั้น แต่จะทราบหรือไม่ว่าเสื้อเกราะถ้ามันกันกระสุนได้ (ไม่ว่ากระสุนชนิดใด) ศาลเคยพิพากษามาแล้วว่ามันก็คือ "ยุทธภัณฑ์" ไม่ว่าคุณจะซื้อแถวคลองหลอด หรือ แอปส้ม แล้วมีแผ่นพลาสติกหรือแผ่นเหล็กบางๆไว้เล่น บีบีกัน หากกันกระสุนชนิดใดชนิดหนึ่งได้ก็ถือว่าเป็นยุทธภัณฑ์
.
ดังนั้นคนที่ซื้อหรือจัดหาที่เป็นข่าวอยู่ตอนนี้ได้ทำผิดกฎหมายไปแล้ว ทั้งคนและหน่วยงานที่ขอสนับสนุนเองก็ด้วย
.
เรื่องนี้การที่มีบุคคลหรือกลุ่มเอกชนจัดหาเสื้อเกราะให้กองทัพหรือตำรวจ แม้มีเจตนาดี แต่เป็นการกระทำที่อยู่ในข่ายความผิดตามตาม พ.ร.บ.ควบคุมยุทธภัณฑ์ พ.ศ. 2530 มาตรา 18 โทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 50,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
.
ขณะเดียวกัน หน่วยงานของรัฐที่รับยุทธภัณฑ์จากเอกชน โดยไม่มีการตรวจสอบหรืออนุญาตตามระเบียบ ย่อมสะท้อนความบกพร่องในระบบบริหาร และอาจเข้าข่ายละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย
.
ความมั่นคงของชาติ ไม่ควรถูกทำให้กลายเป็นกิจกรรมการบริจาคยุทธภัณฑ์โดยบุคคลภายนอก รัฐเองต้องมีระบบจัดหาให้เพียงพอ มีการตรวจรับ และอนุมัติที่โปร่งใส เพื่อความปลอดภัยและความถูกต้องตามกฎหมาย

https://www.facebook.com/toto.piyarat/posts/1404812094342383