
Pipob Udomittipong
16 hours ago
·
ในการสัมมนาที่มช.เรื่อง “Sham Election ในเมียนมา” เมื่อวาน ชัดเจนว่าผู้พูดเห็นว่า การเลือกตั้งเป็นวิธีการง่าย ๆ ของการแสวงหาความชอบธรรมให้กับรบ.ทหารที่กำลังพ่ายแพ้ในสนามรบ สูญเสียพื้นที่ควบคุมมากขึ้นให้กับกองกำลังติดอาวุธกลุ่มชาติพันธุ์
และเพื่อแก้เกมที่ #NLD ชนะได้สส.ถล่มทลาย ในการเลือกตั้งครั้งนี้ นอกจากจะมีการยุบพรรค NLD ไม่ให้ลงเลือกตั้งแล้ว ยังมีการนำระบบ Proportional Representation (PR) หรือเลือกตั้งแบบสัดส่วนมาใช้เป็นครั้งแรก คู่ไปกับการเลือกสส.แบ่งเขต โดยแบ่งกันคนละครึ่ง สส.เขต+สส.สัดส่วน จำนวนเท่ากัน
เหตุผลเพราะในการเลือกตั้งสองครั้งก่อนหน้านี้ พรรค NLD ได้รับที่นั่งในสภาจากสส.เขต (FPTP) ในสัดส่วนที่สูงกว่าป๊อปปิวลาร์โหวต หรือคะแนนดิบที่ได้รับทั้งหมดรวมกัน
ต้องเข้าใจก่อนว่า โดยพื้นฐานการเลือกตั้งครั้งนี้จัดขึ้นภายใต้รัฐธรรมนูญที่ขาดความชอบธรรม ซึ่งมีการลง “ประชามติ” เมื่อปี 2008 (2551) ระหว่างที่ประชาชนกำลังบาดเจ็บล้มตายจากพายุไซโคลนนาร์กิส และรัฐธรรมนูญที่ทหารร่างกำหนดให้ 25% ของสมาชิกรัฐสภาทุกระดับต้องมาจากการแต่งตั้งของกองทัพ
Htin Kyaw Aye วิทยากรคนหนึ่งบอกว่า รบ.ทหารใช้กลโกงของการแบ่งเขตเลือกตั้ง (gerrymandering) โดยการเอาพื้นที่ที่จัดเลือกตั้งไม่ได้ มารวมกับพื้นที่ที่จัดเลือกตั้งได้ ทำให้พื้นที่ของเขตเลือกตั้งเพิ่มขึ้น ซึ่ง (1) ทำให้ดูเหมือนรบ.ทหารมีความชอบธรรมมากขึ้น
และ (2) ทำให้จำนวนสส.+สว.มีมากกว่าที่ควรจะเป็น และะรบ.ทหารสามารถแต่งตั้งสส.+สว.ในสัดส่วนที่เพิ่มขึ้นได้ด้วย (จาก 25% อาจเป็น 28%) ทั้งที่ผู้มีสิทธิในพื้นที่เหล่านั้นไม่สามารถไปลงคะแนนได้
ถิ่นจอเอบอกว่า การเลือกตั้ง ซึ่งแบ่งออกเป็น 3 เฟส โดยเฟสแรกจะเริ่มวันที่ 28 ธ.ค. เฟสสอง 10 ม.ค. ส่วนเฟสสาม (เข้าใจว่ายังไม่ประกาศวันที่) จะใช้ระบบการนับคะแนนแบบ MMP (Mixed-Member Proportional System) หรือระบบเลือกตั้งแบบจัดสรรปันส่วนผสม หลายคนคงคุ้นชื่อทันที เพราะมันเป็นระบบเลือกตั้งของไทยเมื่อปี 2562
ด้วยเหตุผลเดียวกับรบ.ประยุทธ์ที่ไม่ต้องการให้พรรคการเมืองมีเสียงข้างมาก กกต.เมียนมาใช้ระบบ MMP แบ่งสส.และสว.ออกเป็นทั้งแบบแบ่งเขตและสัดส่วน แต่ใช้บัตรเลือกตั้งใบเดียว และจะมีกติกาว่าในรัฐไหนที่พรรคการเมืองชนะสส.เขตทั้งหมด จะได้รับส่วนแบ่งสส.สัดส่วนไม่เกินกึ่งหนึ่งของจำนวนสส.เขตที่ได้
ไม่ต้องพูดว่า พรรคการเมืองหลัก 6 พรรค จาก 57 พรรคที่ได้รับอนุญาตให้เข้าร่วมการเลือกตั้ง ล้วนแต่เป็นพรรคการเมืองของกองทัพโดยตรง หรือไม่ก็เป็นพรรคที่สนับสนุนรบ.ทหารอย่างออกนอกหน้า
ทั้งในหลายพื้นที่ที่มีการจัดเลือกตั้ง มีการประกาศกฎอัยการศึก ซึ่งย่อมทำให้การหาเสียง หรือการแสดงความเห็นไม่อาจเกิดขึ้นได้ แล้วจะเกิดการเลือกตั้งที่เป็นธรรมและเสรีได้อย่างไร
ที่เลวร้ายกว่านั้น บรรยากาศตั้งแต่หลังรัฐประหาร และโดยเฉพาะตั้งแต่มีการประกาศจัดเลือกตั้ง รบ. #มินอองหล่าย ได้ประกาศใช้กฎอัยการศึก และยังมีการประกาศใช้กม.พิเศษอีกหลายฉบับ รวมทั้งกฎหมายความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ กฎหมายคุ้มครองการเลือกตั้ง และกฎหมายการระงับความเป็นส่วนตัว ความปลอดภัย และความมั่นคงของพลเมือง
กม.เหล่านี้ถูกใช้เพื่อจับคนที่วิจารณ์การเลือกตั้งเป็นว่าเล่น คล้าย ๆ กับการทำประชามติรัฐธรรมนูญเมื่อปี 2559 ของไทยเลย
ช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา รัฐบาลทหารจับกุมประชาชนเกือบ 100 คนแล้ว ฐานวิพากษ์วิจารณ์การเลือกตั้ง คนที่ถูกจับมีตั้งแต่พวกที่กด “หัวเราะ” กดไลก์ หรือคอมเมนต์ในโพสต์ของคนอื่น รวมทั้งผู้กำกับหนังที่ไปกดไลก์โพสต์เฟซบุ๊ควิพากษ์วิจารณ์ภาพยนตร์โฆษณาชวนเชื่อของเผด็จการทหาร
#Irrawaddy รายงานว่า ฟวาย ฟวาย นักแสดงหญิง ถูกกองกำลังรัฐบาลพาตัวไปสอบปากคำที่เมืองปินอูลวิน ขณะกำลังถ่ายทำภาพยนตร์ หลังจากที่เธอไม่มาตามหมายเรียกให้เข้าร่วมกิจกรรมส่งเสริมการเลือกตั้งของกองทัพ เธอได้รับการปล่อยตัวโดยมีเงื่อนไขว่าต้องเข้าร่วมกิจกรรมในอนาคต นักแสดงสาวอลินน์ ยัง ก็ถูกสอบปากคำในลักษณะเดียวกัน
และในการเลือกตั้งครั้งนี้ ยังมีการนำเครื่องลงคะแนนเลือกตั้งอิเล็กทรอนิกส์ หรือ “Myanmar Electronic Voting Machine” (MEVM) มาใช้เป็นครั้งแรก ซึ่งยิ่งทำให้เกิดความเสี่ยงเรื่องความเป็นส่วนตัว เพราะทางการจะทราบอย่างง่ายดายว่าครอบครัวไหนไม่ไปใช้สิทธิเลือกตั้ง หรือทราบว่าเลือกพรรคไหน
จึงเหมาะสมที่จะเรียกการเลือกตั้งครั้งนี้ว่า “Sham election” (sham รากศัพท์มาจาก shame) และก่อนหน้านี้ในการประชุมสุดยอดอาเซียน ก็มีการประกาศข้อมติแล้วว่า “เราขอเน้นย้ำว่าการยุติความรุนแรงและการเจรจาทางการเมืองอย่างครอบคลุมต้องเกิดขึ้นก่อนการเลือกตั้ง”
ซึ่งความหมายของมันก็คือ อาเซียนจะไม่ส่งผู้สังเกตการณ์ไปดูการเลือกตั้งในเมียนมาครั้งนี้ ประเทศไหนส่งไป ถือเป็นความตกลงแบบทวิภาคเท่านั้น
หวังว่าทางการไทย กกต.ไทยจะไม่ให้ความร่วมมือใด ๆ กับการเลือกตั้งของรบ.ทหาร ที่ยังคงระบบทิ้งระเบิดทางอากาศอย่างเมามัน เดือนต.ต.ที่ผ่านมา พลเรือนตายไปหลายสิบคนรวมทั้งเด็ก เรียกว่ายังคงมีการระดมโจมตี โดยเฉพาะพื้นที่ภาคกลางของประเทศที่มีคนต่อต้านรบ.เยอะ แต่ก็เป็นพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากแผ่นดินไหวรุนแรงมาก เมื่อหลายเดือนก่อน ใครที่สนับสนุนการเลือกตั้งครั้ง ผมขอสาปแช่งให้มีอันเป็นไปครับ
ใครสนใจ presentation ของ Htin Kyaw Aye ลิงก์นี้เลยครับ https://drive.google.com/.../1gQUBNDWHg12rkMIiIjT.../view...
https://www.facebook.com/photo?fbid=10163329112316649&set=a.10150096728651649