ศาลอุทธรณ์กลับคำพิพากษาศาลชั้นต้น แล้วลงโทษจำคุก เอกชัย หงส์กังวาน ๒๑ ปี ๔ เดือน กับเพื่อนอีก ๔ คน รายละ ๑๖ ปี ในคดีข้อหา ‘ประทุษร้ายเสรีภาพพระราชินี’ จากการที่ขบวนเสด็จฯ เคลื่อนผ่านบริเวณที่มีการชุมนุม
คดีนี้ศาลอุทธรณ์บอก “เชื่อได้ว่าจำเลยทั้ง ๕ ทราบว่าเป็นขบวนเสด็จของสมเด็จพระราชินี ทั้งห้ามีพฤติการณ์ขัดขวางขบวนเสด็จ” แต่จากการอภิปรายของ สส.มิ้นท์เมื่อปี ๖๓ กลับระบุว่า “จริงๆ ความผิดมันควรเป็นของเจ้าหน้าที่อารักขาด้วยซ้ำ”
@webdevxp ว่า “เรื่องนี้แม่งงี่เง่าสุดๆ อ่ะ ทำคนติดคุกได้ยังไงก่อน ๒๑ ปี เราจะอยู่กันแบบนี้กันจริงเหรอ” โดยนำคลิปการอภิปรายของ สุทธวรรณ สุบรรณ ณ อยุธยา มาเผยแพร่ ที่ว่า “การชุมนุมไม่ได้มีการขัดขวางขบวนเสด็จฯ” แต่อย่างใด
ก่อนเกิดเหตุผู้ชุมนุมได้ปักหลักกันอยู่บริเวณถนนพิษณุโลก โดยมิทราบว่าจะมีขบวนเสด็จของราชินีและเจ้าฟ้าทีปังกรผ่านแต่อย่างใด ไม่มีการแจ้งจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ หรือประกาศเส้นทางเสด็จฯ เอาไว้ การเสด็จไปยังวัดพระศรีฯ จากพระที่นั่งอัมพรฯ เป็นปกติ
แต่ตอนเสด็จกลับมีการเปลี่ยนเส้นทาง ไม่ได้ย้อนเส้นทางเดิม เหตุชุลมุนเกิดขึ้นเมื่อตำรวจหน่วยควบคุมฝูงชนปรากฏตัวล่วงหน้าขบวนเสด็จฯ ผู้ชุมนุมเข้าใจว่าทางตำรวจเข้าไปเพื่อสลายการชุมนุม การชุลมุนและกระทบกระทั่งจึงเกิดขึ้น
ข่าวปรากฏทางโซเชียลมีเดียช่วงนั้นเผยว่า การเปลี่ยนเส้นทางเสด็จกลับมาจากพระราชประสงค์ของราชินี ทว่าการอภิปรายของ สส.พรรคก้าวไกลเวลานั้น “เกิดขึ้นจากความผิดพลาดในการจัดเส้นทางเสด็จฯ และถวายความปลอดภัย
อีกทั้งข้อกล่าวหาว่าผู้ชุมนุมจงใจขวางขบวนก็ไม่ใช่ข้อเท็จจริง ปฏิกิริยาจากผู้ชุมนุมเมื่อเห็นตำรวจ คฝ.เข้าผลักดัน คือคิดว่ามีการส่งกำลังลงพื้นที่เพื่อสลายการชุมนุม ก็ได้แต่ชูสามนิ้วแล้วร้องโวยวาย แต่ศาลอุทธรณ์กลับบอกว่าเป็นเจตนาของผู้ชุมนุม
ศาลอุทธรณ์เห็นว่า คำร้องของโจทก์ฟังขึ้น เนื่องจาก “กลุ่มผู้ชุมนุมมั่วสุมกันมากกว่า ๑๐ คน โดยมีจำเลยที่ ๑-๓ เป็นผู้สั่งการให้กีดขวางการจราจร ตัดสินเพิ่มโทษเอกชัยเป็น ๒๑ปี ๔ เดือน และพวกจำคุกไม่รอลงอาญา ขณะนี้จำเลยอยู่ระหว่างรอให้ตรวจสอบเอกสาร
(https://x.com/webdevxp/status/1963848304942366833 และ https://x.com/TLHR2014/status/1963840657837146490)