
'ปราย พันแสง
10 hours ago
·
เมื่อคืนดูคลิปชาวกัมพูชา live ตามหาคนในครอบครัวที่หายไป มีคนไทยเข้าไปคอมเมนต์เยอะมาก ชาวไทยบางคนตาดี เอาภาพมาเทียบกับเชลยศึกที่ทหารไทยคุมตัวอยู่ว่านี่ใช่มั้ย
บางคนหน้าเหมือนเป๊ะ
เหมือนจะใช่จริงๆ ด้วย!
มีบางคนเข้าไปด่าหยาบคายบ้าง แต่เป็นส่วนน้อย แสดงว่าคนไทยคงมีความเห็นใจหัวอกประชาชนคนตัวเล็กๆ ในฐานะผู้สูญเสียอยู่บ้าง
จู่ๆ ก็มีคลิปเด้งมา มีชายไทยคนหนึ่งบ้านอยู่แถวแนวสูัรบ ถ่ายภาพตอนดึก อัดคลิปเสียงหมาหอนเกรียวตลอดแนว โดยมีเสียงบรรยายว่าตั้งแต่มีการสู้รบ เป็นอย่างนี้ทุกคืน หมาหอนไม่หยุด และส่งกลิ่นเหม็นเน่า

พลตรี วันชนะ สวัสดี รองโฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย พูดในรายการ “โหนกระแส” ล่าสุดว่าตอนนี้ชาวบ้านในกัมพูชากำลังตามหาคนหายจำนวนมาก ว่าสามีเขาอยู่ที่ไหน เพื่อนของเขาที่อยู่ชายแดนก็บอกว่า เริ่มได้กลิ่นศพ
จากรายงานของกองทัพภาคที่ 2 ระบุว่า ในการปะทะที่ภูมะเขือ ทหารกัมพูชาเสียชีวิต 10 นาย และทหารไทยได้ยึดอาวุธยุทโธปกรณ์ 11 รายการ รวมถึงโทรศัพท์ 7 เครื่อง ที่น่าสนใจคือศพถูกทิ้งไว้หลายจุด ไม่ใช่แค่ภูมะเขือจุดเดียว แต่มีการกล่าวถึง “เกลื่อน” หลายพื้นที่
เดลินิวส์ลงว่า ตามแนวสู้รบมีร่างทหารเขมรพลีชีวิต“เกลื่อน” แต่กลับไม่มีใครไปเก็บส่งญาติ พอทหารไทยช่วยเก็บให้ กลับถูกปฏิเสธการรับคืน อ้างไม่ใช่ทหารของกัมพูชา
การปฏิเสธรับศพของทหารกัมพูชาไม่ใช่แค่กรณีเดียว แต่เป็นระดับนโยบายหรือการปฏิบัติที่เป็นระบบ ดูจะเป็นเรื่องที่ผิดธรรมดาอย่างยิ่ง
เอาจริง นี่เป็นเทรนด์ใหม่ของสงคราม รัสเซียก็ทำแบบนี้ คือทิ้งศพเลย ด้วยเหตุผลว่า ““ทิ้งศพไปเลยดีกว่าเพราะมันมีค่าใช้จ่ายน้อยกว่ากันเยอะ”

ปูตินลงนามในกฎหมายให้ครอบครัวของทหารที่เสียชีวิตได้รับเงินชดเชย 7,421,000 รูเบิล (ประมาณ 68,800-75,000 ดอลลาร์) เป็นเงินก้อนครั้งเดียว บวกกับเงินค่าชดเชยรายเดือนต่อเนื่อง รวมกับการจ่ายเงินจากภาคส่วนต่างๆ และประกันภัย
จำนวนเงินชดเชยรวมสำหรับทหารที่เสียชีวิต 1 คนจะอยู่ที่อย่างน้อย 14 ล้านรูเบิล และสำหรับทหารที่บาดเจ็บจะได้รับเงินชดเชย 3 ล้านรูเบิล (32,280-41,300 ดอลลาร์)
ตัวเลขดูดี แต่ในความเป็นจริง ก็มีกลยุทธ์มากมายในการหลีกเลี่ยงการจ่ายเงิน โดยการรายงานว่าเป็น “การหายไปในการปฏิบัติการ”ก็จบเรื่อง
Quora ลงบทความเรื่องชาวรัสเซียในหมู่บ้าน Krasnaya Yaruga ให้สัมภาษณ์ว่า “พวกเขาฆ่าคนเหล่านั้น การต่อสู้ดำเนินต่อไป อากาศร้อน ศพเริ่มมีกลิ่นเน่า เราจึงฝังคนเหล่านี้ไว้ที่นั่น แล้วทัังหมดก็หายไป”
อดีตนักโทษที่เป็นทหารรัสเซีย “อเล็กซานเดอร์” เล่าให้ The New York Times ฟังว่า เขาได้รับคำสั่งไม่ให้เก็บศพของเพื่อนทหาร เพื่อที่จะสามารถรายงานได้ว่าคนเหล่านี้เป็นพวก “หายไปในการปฏิบัติการ” แทนที่จะเป็น “ผูัเสียชีวิต”
กรณีของทหารรัสเซีย มิคาอิล เชอร์คาซอฟ แม่ของเขาได้รับการบอกเล่าจากเพื่อนทหารว่าลูกชายของเธอเสียชีวิตแล้ว แต่กองทัพรัสเซียสั่งให้ทิ้งศพไว้ในสนามรบเพราะ “ไม่คุ้มค่า” ที่จะนำกลับมา
ในบทความวิเคราะห์เกี่ยวกับรัสเซียของ Newsweek ระบุว่า “ไม่มีศพ ไม่มีปัญหา” (no corpse, no problem) หากญาติไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่าลูกชาย สามี หรือพ่อของพวกเขาเสียชีวิตในสงคราม รัฐจะปฏิเสธที่จะจ่ายเงินชดเชย
การจัดการศพทหารในรัสเซียเป็นภาระค่าใช้จ่ายขนาดใหญ่ ในปีเดียว (กรกฎาคม 2023 - มิถุนายน 2024) รัสเซียจ่ายเงินให้ทหารและครอบครัวผู้เสียชีวิต/บาดเจ็บประมาณ 2.75-3 ล้านล้านรูเบิล ซึ่งเท่ากับ 1.4-1.6% ของ GDP ของรัสเซีย
หากคำนวณจากประมาณการผู้เสียชีวิต 100,000 คนและผู้บาดเจ็บ 400,000 คน การจ่ายเงินครั้งเดียวจะรวมเป็น 2.3 ล้านล้านรูเบิล ซึ่งเท่ากับ 6% ของงบประมาณปี 2024
โอเล็ก นิโคเลนโก โฆษกกระทรวงการต่างประเทศยูเครนกล่าวกับ The Irish Times ว่าตามกฎหมายครอบครัวของทหารที่เสียชีวิตทุกคนจะได้รับ 7 ล้านรูเบิล “เมื่อทหารหายไป ไม่มีศพหมายถึงไม่มีเงิน” (no body means no money)
หลักการ “ไม่มีศพ ไม่มีปัญหา” จึงช่วยประหยัดงบประมาณขนาดใหญ่ เพราะนอกจากเงินก้อนแล้ว ยังมีค่าชดเชยรายเดือนต่อเนื่องที่ต้องจ่าย นอกจากนี้ การไม่ยอมรับตัวเลขผู้เสียชีวิตที่แท้จริงยังช่วยลดแรงกดดันทางการเมืองภายในประเทศได้อีกทาง
ปูตินเซ็นกฎหมายในปี 2015 ให้การเสียชีวิตของทหารเป็นความลับของรัฐ และในปี 2021 รัสเซียออกกฎหมายลงโทษทางอาญาสำหรับ “คำแถลงที่ทำลายชื่อเสียงกองทัพ” นี่คือเหตุผลสำคัญที่ทำให้รัสเซียมีการปฏิเสธการรับศพทหารของตน

ในบทความของ The Cambodia Daily เมื่อวันที่ 29 เมษายน 2024 ระบุว่า นายกรัฐมนตรี ฮุน มาเนต กล่าวว่า “รัฐมนตรีกลาโหมและผู้บัญชาการสูงสุดกองทัพกัมพูชา ได้จัดงานศพทหารโดยรัฐบาลเป็นผู้ออกค่าใช้จ่าย และครอบครัวของทหารที่เสียชีวิตแต่ละคนจะได้รับเงินชดเชย 20,000 ดอลลาร์สหรัฐ และให้การชดเชยทั้งแก่ผู้ที่เสียชีวิตและผู้ที่บาดเจ็บ”

เงินชดเชย 20,000 ดอลลาร์สหรัฐ จะเท่ากับประมาณ 720,000 บาทไทย (คำนวณจากอัตราแลกเปลี่ยนประมาณ 36 บาทต่อ 1 ดอลลาร์สหรัฐ)
เมื่อเปรียบเทียบกับประเทศอื่น กัมพูชา จ่าย 20,000 ดอลลาร์ (720,000 บาท) , รัสเซียจ่าย 68,800-75,000 ดอลลาร์ (2.4-2.7 ล้านบาท) + เงินรายเดือนต่อเนื่อง ในขณะที่สหรัฐอเมริกาจ่าย 100,000 ดอลลาร์ต่อราย (3.6 ล้านบาท) เป็นเงินก้อนครั้งเดียว + ประกันและสวัสดิการอื่นๆ
เงินชดเชย 720,000 บาท สำหรับประเทศกัมพูชา (ที่มี GDP per capita ประมาณ 1,700 ดอลลาร์ต่อปี หรือราว 61,200 บาท) ก็ถือเป็นจำนวนที่ค่อนข้างสูง เทียบเท่ากับรายได้ประมาณ 12 ปี ของคนกัมพูชาทั่วไป
ที่ผ่านมา เงินชดเชย 20,000 ดอลลาร์นี้รัฐบาลกัมพูชาจ่ายเป็นกรณีเฉพาะของการระเบิดที่ฐานทัพใน จังหวัด Kampong Speu เมื่อวันที่ 27 เมษายน 2024 ที่ทำให้ทหารกัมพูชา 20 นายเสียชีวิตจากอุบัติเหตุ แสดงให้เห็นว่ากัมพูชา มีระบบการจ่ายเงินชดเชยจริง เมื่อสามารถยืนยันการเสียชีวิตได้
แต่ตอนนี้ยังไม่มีข้อมูลใดบ่งชี้ว่าทางรัฐบาลกัมพูชาจะจ่ายเงินชดเชยให้ครอบครัวทหารที่เสียชีวิตจากการสู้รบไทย-กัมพูชาล่าสุดนี้ในอัตราเดียวกันหรือไม่

อย่างไรก็ตาม กัมพูชามีระบบการจ่ายเงินชดเชยในอัตราที่ต่ำกว่ารัสเซียมาก แรงจูงใจในการปฏิเสธรับศพจึงอาจไม่ใช่เรื่องเงินเป็นหลัก แต่อาจจะเป็นความภาคภูมิใจของชาติ ที่ไม่ต้องการยอมรับความพ่ายแพ้ อาจเป็นความพยายามในการรักษาภาพลักษณ์ของรัฐบาลใหม่ ฮุน มาเนต ซึ่งยิ่งดูแปลกและไร้เหตุผลมากกว่ารัสเซีย เพราะรัสเซียอย่างน้อยยังมีแรงจูงใจทางเศรษฐกิจที่เราพอเข้าใจได้
หรืออาจจะเป็นเทรนด์ของสงครามยุคใหม่ ที่ผู้นำประเทศผุดไอเดียขึ้นมาตรงกันว่า “ทิ้งศพไปเลยดีกว่าเพราะมันมีค่าใช้จ่ายน้อยกว่ากันเยอะ”


-ภาพประกอบเรื่อง ไม่ใช่ภาพจากสถานที่จริง พัฒนามาจากภาพผีๆ ในเพจคลิปหมาหอนที่ดูเมื่อคืน มันติดตา
-references ในช่องคอมเมนต์
อ่านอ้างอิงที่ลิงค์