Somyot Pruksakasemsuk15 hours ago
·
ฮุนเซ็นพูดเรื่องนี้น่าคิดมาก มหาวิทยาลัยควรทบทวนเรื่องนี้ให้มาก "ปริญญากิตติมศักดิ์” ที่มหาวิทยาลัยมอบให้แก่บุคคล ได้คำนึงถึงความรู้ ความสามารถ มีคุณงามความดีประจักษ์แค่ไหน แบบไหน หรือว่า มอบให้เพียงแค่ให้เกิดชื่อเสียงมหาวิทยาลัย หรือว่า มอบให้เพราะมีการซื้อขายกันให้บุคคลนั้น อีกอย่างหนึ่งมอบให้ไปแล้ว มายกเลิกหรือเพิกถอนได้หรือไม่ ?
มหาวิทยาลัยที่เพิกถอนปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ของฮุนเซน จนฮุนเซ็นเหยียดหยามการศึกษาไทยเช่นนี้ จะมีส่วนรับผิดชอบกับความผิดพลาดที่เคยยกย่องเชิดชูฮุนเซนให้มารับใบปริญญากันอย่างไร? หรือว่า จริงๆแล้วการศึกษาและการมอบปริญญาของไทยมันไม่มีคุณค่าอะไร อย่างที่ฮุนเซนพูด ?
https://www.facebook.com/photo?fbid=1843913323144697&set=a.121739258695454
.....

‘ฮุนเซน’ เดือดอีก! หลังมหาวิทยาลัยราชภัฎบ้านสมเด็จเจ้าพระยา เพิกถอนปริญญา ลั่น “ทิ้งไปนานแล้ว ไม่มีค่าที่ผมจะเก็บไว้” ลั่น คนที่มาขอให้ผมรับปริญญาเหล่านั้นก็คือ ‘พวกคุณ’
กลางดึกเมื่อคืนนี้ (22 ส.ค.68) สมเด็จฮุนเซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา โพสต์เฟสบุ๊ก กรณีมหาวิทยาลัยราชภัฎบ้านสมเด็จเจ้าพระยา ประกาศเพิกถอนปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ ที่มอบให้ สมเด็จฯ ฮุนเซน ระบุ
“ผมทิ้งมันไปนานแล้ว มันไม่มีคุณค่าอะไรที่ผมจะต้องเก็บไว้
วันนี้ผมเห็นว่าสถาบันการศึกษาแห่งหนึ่งของไทย ได้ประกาศเพิกถอนปริญญาบัตรที่เคยมอบให้กับผม ผมขอชี้แจงให้ชัดเจนว่า ปริญญาบัตรทั้ง 3 ฉบับ จากสถาบันการศึกษาของไทยที่เคยมอบให้ผมนั้น ผมได้ทิ้งมันไปนานแล้ว มันไม่มีคุณค่าสำหรับผมเลยแม้แต่น้อยที่จะเก็บรักษาไว้
ปริญญาฉบับแรกได้รับในปี 2001 ฉบับที่สองในปี 2006 และฉบับที่สามในปี 2019 ผมไม่ได้รู้สึกภูมิใจอะไรกับกระดาษแผ่นหนึ่งที่มาจากพวกคุณเลย
สติปัญญาและความรู้ของผม ไม่ได้เกิดจากปริญญาของคุณ หรือจากโรงเรียนในประเทศไทย แต่เกิดจากประชาชนกัมพูชาและโรงเรียนในประเทศกัมพูชา ที่เป็นผู้ให้การศึกษาแก่ผม
ผมควรจะบอกพวกคุณกลับไปว่า หากลองพิจารณาช่วงเวลาที่พวกคุณเสนอจะมอบปริญญาให้กับผม ซึ่งผมไม่เคยร้องขอจากพวกคุณเลย เทียบกับช่วงเวลาที่ผมดำรงตำแหน่งในภารกิจระดับชาติ จะเห็นได้ชัดเจนว่าปริญญาของพวกคุณไม่ได้ช่วยอะไรในความสำเร็จของผมเลย เพราะปริญญาเหล่านั้นมอบให้ผม ‘หลังจาก’ ที่ผมประสบความสำเร็จแล้ว ดังนี้:
ปี 1979 ขณะอายุ 27 ปี ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ
ปี 1981 ขณะอายุ 29 ปี ดำรงตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ
ปี 1985 ขณะอายุ 32 ปี ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี
ผมคิดว่าพวกคุณควรจะรู้สึกละอายใจ หากได้กลับไปทบทวนการประเมินคุณสมบัติของผมในตอนที่พวกคุณเสนอให้ผมรับปริญญาเหล่านั้น ผมจะให้สำนักงานของผมเผยแพร่เอกสารการประเมินของพวกคุณที่มีต่อคุณสมบัติของผม เพื่อให้เป็นเครื่องเตือนความจำ ไม่ให้พวกคุณลืม
อดีตไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ และผมขอย้ำว่า คนที่มาขอให้ผมรับปริญญาเหล่านั้นก็คือ ‘พวกคุณ’ พร้อมด้วยคำชื่นชมต่างๆ การตัดสินใจว่าจะรับหรือไม่รับ ขึ้นอยู่กับตัวผมเอง และผมก็ไม่เคยเป็นคนที่รับอะไรโดยไม่คิด“
https://www.facebook.com/photo/?fbid=1393018905518378&set=a.328293581990921