
iLaw
16 hours ago
·
คดีมาตรา 112 ของโตโต้-ปิยรัฐ จงเทพ กรณีโพสต์วิจารณ์การสลายการชุมนุม “ขายกุ้ง” ที่สนามหลวง
26 สิงหาคม 2568 เวลา 09:00 น. ที่ห้องพิจรณาคดี 809 ศาลอาญานัดโตโต้-ปิยรัฐ จงเทพ สส.กทม. พรรคประชาชน และอดีตแกนนำมวลชนอาสา We Volunteer ฟังคำพิพากษาคดีมาตรา 112 และ พ.ร.บ.คอมฯ ในคดีหมายเลขดำที่ อ.3012/2564 กรณีโพสต์ข้อความวิจารณ์การสลายการชุมนุม “ขายกุ้ง” ที่สนามหลวง
คดีนี้เริ่มต้นในวันที่ 1 มกราคม 2564 นพดล พรหมภาสิต เลขาธิการศูนย์ช่วยเหลือด้านกฎหมายผู้ถูกล่วงละเมิดบูลลี่ทางสังคมออนไลน์ (ศชอ.) ร้องทุกข์ไว้ที่กองบังคับการปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ( บก.ปอท.) ต่อมาวันที่ 27 พฤษภาคม 2564 ปิยรัฐเข้ารับทราบข้อกล่าวหาตามหมายเรียก โดยพนักงานสอบสวนปอท.แจ้งข้อหาตามมาตรา 112 และพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ มาตรา 14(3) ปิยรัฐให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา ก่อนพนักงานสอบสวนปล่อยตัวเขาไป โดยไม่มีการควบคุมตัว วันเดียวกันนั้นเองปิยรัฐเปิดเผยผ่านเฟซบุ๊กว่า มีกลุ่มชายฉกรรจ์สวมเสื้อสีน้ำเงินอ้างว่าเป็น “กลุ่มปกป้องสถาบัน” มาดักรออยู่หน้า บก.ปอท. จนเขาต้องหาทางหลีกเลี่ยงออกจากพื้นที่เพื่อป้องกันการเผชิญหน้าที่อาจบานปลาย
ต่อมาอัยการมีความเห็นสั่งฟ้องคดี ตามคำฟ้องระบุว่า ประเทศไทยมีการปกครองระบอบประชาธิปไตยโดยมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข มีรัชกาลที่ 10 เป็นกษัตริย์รัชกาลปัจจุบัน ดํารงอยู่ในฐานะอันเป็นที่เคารพสักการะ ผู้ใดจะล่วงละเมิดมิได้
เมื่อวันที่ 30 ธันวาคม 2563 จําเลยได้ใช้บัญชีเพจเฟซบุ๊ก “โตโต้ ปิยรัฐ – Piyarat Chongthep” หมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายรัชกาลที่ 10 โดยโพสต์ข้อความและภาพถ่าย ตั้งค่าเป็นสาธารณะ เพื่อให้ประชาชนและบุคคลทั่วไปซึ่งเป็นบุคคลที่สามารถเข้าถึงได้ มีสาระสำคัญว่า “ตํารวจชายแดนนี่ก็นะงานตัวเองไม่รู้จักทํา ปล่อยโควิดเข้ามาจนฟาร์มกุ้งเค้าพัง คนเค้าจะมาช่วยขายกุ้งก็มาสลายการขายกุ้ง คนธรรมดาเค้าอดตายได้นะ เพราะเค้าไม่ได้เสวยสุขบนเงินภาษีของประชาชน…” พร้อมรูปภาพขณะมีการชุมนุมทางการเมือง
ซึ่งเป็นข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จและเป็นความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงแห่งราชอาณาจักร ทําให้ประชาชนและบุคคลทั่วไปที่ได้พบเห็นข้อความเข้าใจว่า รัชกาลที่ 10 และพระราชินี ใช้ชีวิตอยู่อย่างสุขสบายโดยใช้เงินภาษีของประชาชน ทั้งๆ ที่ประชาชนกําลังอดอยากและประสบปัญหาจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ก่อให้เกิดความเสื่อมเสียต่อพระมหากษัตริย์ และสถาบันพระมหากษัตริย์ และมีเจตนามุ่งหมายเพื่อให้ประชาชนเกิดความรู้สึกดูหมิ่น เกลียดชัง และไม่เคารพเทิดทูนรัชกาลที่ 10 และพระราชินี และมีเจตนาเพื่อให้เสื่อมเสียพระเกียรติยศและแสดงความอาฆาตมาดร้าย
ปิยรัฐ เคยพูดถึงคดีนี้ในเวทีเสวนา “คุยกับสามว่าที่ส.ส. ที่กำลังจะเข้าสภา พร้อมระเบิดเวลาคดีมาตรา 112” เมื่อวันที่ 12 มิถุนายน 2566 ว่า “ตำรวจ ปอท. ไม่เอาความด้วยเพราะว่าไม่มีข้อความใดหมิ่นเลย พูดถึงสนามหลวงเท่านั้นเอง แล้วก็ไม่มีคำผรุสวาทใครเลย…ตำรวจบอกไม่เข้า เขาก็ไม่แจ้ง จนกระทั่งไอ้คนที่ไปแจ้งความเราอะ ไปเอามวลชนไปกดดันเขา กดดันตำรวจ เขาก็เลยต้องแจ้งไป ผมก็เลยโดนไปเป็นสามคดี”
นอกจากคดีนี้แล้ว ปิยรัฐถูกดำเนินคดีตามมาตรา 112 อีกสองคดีได้แก่ กรณีปราศรัยที่จังหวัดอุบลราชธานีเมื่อวันที่ 22 สิงหาคม 2563 ซึ่งอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลและกรณีถูกกล่าวหาว่า ทำป้ายไวนิลวิจารณ์การกระจายวัคซีนโควิด-19 ในจังหวัดกาฬสินธุ์ ซึ่งศาลพิพากษายกฟ้องไปเมื่อวันที่ 11 ตุลาคม 2567
หากศาลมีคำพิพากษาว่า มีความผิดและส่งตัวเขาเข้าเรือนจำแม้เพียงวันเดียวก็จะถือว่าขาดคุณสมบัติและต้องพ้นจากตำแหน่ง ส.ส.ในทันที เป็นไปตาม “ลักษณะต้องห้าม” ของผู้สมัครรับเลือกตั้ง และการพ้นจากสมาชิกภาพของสส.ที่กำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญ 2560 หมวดที่ 7
https://www.ilaw.or.th/articles/54118?swcfpc=1
.....

25 สิงหาคม 2568
มติชนออนไลน์
ศาลชี้ชะตา โตโต้ ปิยรัฐ พรุ่งนี้ คดี 112-พ.ร.บ.คอมพ์ ปมโพสต์วิจารณ์ตำรวจสลายวีโว่ขายกุ้ง พาดพิงสถาบัน ถ้าผิด มีโทษคุก-ไม่ได้ประกัน หลุดเก้าอี้ ส.ส.ทันที
เมื่อวันที่ 25 สิงหาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันพรุ่งนี้ (26 สิงหาคม) ศาลอาญานัดฟังคำพิพากษาคดีของนายปิยรัฐ จงเทพ หรือโตโต้ ส.ส.กทม. พรรคประชาชน และอดีตนักกิจกรรมกลุ่ม We Volunteer หรือวีโว่ กรณีถูกฟ้องในฐานความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ มาตรา 14(3)(5) จากเหตุโพสต์ข้อความวิจารณ์การสลาย #ม็อบย่างกุ้ง ของเจ้าหน้าที่ตำรวจเมื่อวันที่ 31 ธ.ค.2563 และมีข้อความพาดพิงสถาบัน
ทั้งนี้ เมื่อสืบค้นข้อมูลจากศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนพบว่าผู้กล่าวหานายปิยรัฐคือนายนพดล พรหมภาสิต เลขาธิการ ศชอ. ที่ผ่านมานายปิยรัฐได้เบิกความว่าตนไม่ได้เป็นผู้โพสต์ข้อความที่ถูกนำมาใช้กล่าวหา (ข้อความโพสต์ที่เพจเฟซบุ๊ก โตโต้ ปิยรัฐ – Piyarat Chongthep เมื่อวันที่ 31 ธันวาคม 2563) เนื่องจากขณะนั้นถูกควบคุมตัวที่ บก.ตชด.ภาค 1 และถูกยึดอุปกรณ์สื่อสาร เบื้องต้นมีแอดมินดูแลเพจอยู่หลายราย ไม่รู้ว่าใครเป็นคนโพสต์ และสาเหตุที่ไม่ลบโพสต์ดังกล่าว เพราะอยากให้กระบวนการยุติธรรมนำสืบให้สิ้นสงสัย

คดีนี้ศูนย์ทนายความฯระบุว่า ปิยรัฐให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา ยืนยันว่าไม่ได้เป็นผู้โพสต์ข้อความตามฟ้อง เนื่องจากข้อความดังกล่าวโพสต์ในขณะที่ตนถูกควบคุมตัวที่ บก.ตชด.ภาค 1 และถูกยึดอุปกรณ์สื่อสาร
ขณะที่อาจารย์นิติศาสตร์ให้ความเห็นว่า มาตรา 112 ไม่คุ้มครองถึงสถาบันกษัตริย์ ซึ่งมีความหมายครอบคลุมทั้งรูปธรรมและนามธรรม และเห็นว่าข้อความตามฟ้อง เป็นการวิจารณ์ตำรวจตระเวนชายแดนแล้วเปรียบเปรยถึงสถาบันกษัตริย์ ซึ่งการเปรียบเปรยอาจเป็นการไม่เคารพ แต่การไม่เคารพไม่เท่ากับการดูหมิ่นหรือหมิ่นประมาท
คดีนี้เป็นคดีมาตรา 112 คดีที่ 2 ของปิยรัฐที่ศาลจะมีคำพิพากษา จากคดีมาตรา 112 ทั้งหมด 3 คดีที่เขาตกเป็นจำเลย โดยคดีแรกที่มีคำพิพากษายกฟ้องไปแล้วก่อนหน้านี้ คือ คดีป้ายวิจารณ์ผูกขาดวัคซีนที่กาฬสินธุ์ ส่วนอีกคดีคือคดีปราศรัยในการชุมนุม #เด็กพูดผู้ใหญ่ฟัง ที่ จ.อุบลราชธานี ในวันที่ 22 ส.ค. 2563 ซึ่งคดียังอยู่ระหว่างการสืบพยาน
สิ่งที่ต้องจับตาก็คือ หากในคดีนี้ศาลพิพากษาว่าเป็นความผิดตามฟ้อง และลงโทษจำคุก ทั้งไม่ให้ประกันในวันนั้น ปิยรัฐก็จะพ้นสภาพ ส.ส.ในทันที
https://www.matichon.co.th/local/crime/news_5338859