
Atukkit Sawangsuk
6 hours ago
·
กฎหมายวิบัติ เจ้าของคลิปโดน 1 กรรม อัญชัญอัดคลิปโดน 29 กรรม
ได้ลดโทษและปล่อยตัวตามหลักเกณฑ์ผู้สูงอายุ ไม่ได้มีอะไรพิเศษ
iLaw
·
กฎหมายวิบัติ เจ้าของคลิปโดน 1 กรรม อัญชัญอัดคลิปโดน 29 กรรม
ได้ลดโทษและปล่อยตัวตามหลักเกณฑ์ผู้สูงอายุ ไม่ได้มีอะไรพิเศษ
iLaw
6 hours ago
·
26 สิงหาคม 2568 ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนรายงานว่า ในวันที่ 27 สิงหาคม 2568 อัญชัญ ปรีเลิศผู้ต้องขังที่ถูกตัดสินจำคุกรวม 29 ปี 174 เดือน หรือประมาณ 43 ปีครึ่ง ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 จากการอัปโหลดและเผยแพร่คลิปเสียง กำลังจะได้รับการปล่อยตัวจากทัณฑสถานหญิงกลางฯ หลังจากต้องเข้าไปใช้ชีวิตอยู่ในเรือนจำสองรอบนานกว่า 8 ปี ชวนย้อนดูประเด็นที่น่าสนใจของคดีอัญชัญ ปรีเลิศ คดีสำคัญที่ทำให้เห็นปัญหาและผลกระทบหลายประเด็นของการบังคับใช้มาตรา 112
.
1.
คดีนี้เกิดจากการนำเข้าคลิปจำนวน 29 ครั้ง โทษเต็ม 87 ปี
.
อัญชัญถูกดำเนินคดีมาตรา 112 และพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ จากการอัพโหลดไฟล์และคลิปเสียงของผู้ใช้นามแฝงว่า “บรรพต” จำนวน 19 คลิป ลงในยูทูป 23 ครั้ง และเฟซบุ๊ก 6 ครั้ง รวมเป็น 29 ครั้ง จึงถูกดำเนินคดีตามกฎหมายเรียกว่าการกระทำ 29 กรรม ในชั้นศาลอัญชัญให้การรับสารภาพ https://www.ilaw.or.th/articles/case/23707
.
มาตรา 112 กำหนดอัตราโทษจำคุกไว้ที่ 3-15 ปี ซึ่งอัตราโทษนี้ถูกเพิ่มขึ้นด้วยประกาศคณะปฏิวัติในปี 2519 https://www.ilaw.or.th/articles/4898 หมายความว่า แม้ศาลจะเห็นว่าการกระทำที่ถูกฟ้องนั้นเป็นเรื่องเล็กน้อยเพียงใดก็ลงโทษต่ำกว่านี้ไม่ได้ และลงโทษปรับไม่ได้ หากศาลตัดสินว่ากระทำความผิดหลายครั้งโทษจำคุกก็จะคูณเพิ่มไปเรื่อยๆ ทำให้ศาลไม่อาจลงโทษน้อยไปกว่าการจำคุก 3 ปี ต่อหนึ่งกรรมได้ และศาลต้องพิพากษาให้ลงโทษรวมเป็น 87 ปี ซึ่งเป็นโทษน้อยที่สุดเท่าที่ศาลจะลงโทษได้จากคำฟ้องของเธอ
.
เนื่องจากอัญชัญให้การรับสารภาพ ศาลจึงลดโทษจำคุกให้ครึ่งหนึ่ง ซึ่งการลดโทษจำคุกแยกเป็นรายกรรม โทษจำคุกของอัญชัญจึงลดจากกรรมละ 3 ปี เหลือกรรมละ 1 ปี 6 เดือน เมื่อรวมโทษทั้งหมดแล้วเป็นการจำคุก 29 ปี 174 เดือน หรือประมาณ 43 ปีครึ่ง
.
สาเหตุที่การนับโทษในทางกฎหมายต้องใช้หน่วยเป็นหลักเดือน 174 เดือน ไม่ตัดให้เป็นปี เพราะในการนับระยะเวลาจำคุก หากมีโทษจำคุก 1 เดือนจะติดคุกจริง 30 วัน หากมีโทษจำคุก 12 เดือนจะติดคุกจริง 360 วัน แต่ถ้าหากตัดเป็นหลักปี จะกลายเป็นจำคุก 365 หรือ 366 วัน ทำให้ต้องรับโทษมากกว่า
.
19 มกราคม 2564 ในวันที่มีคำพิพาษาในคดีของอัญชัญออกมา โทษตามคำพิพากษาคดีนี้เป็นโทษของคดีมาตรา 112 ที่สูงที่สุดเท่าที่เคยมีมา ทำลายทุกสถิติก่อนหน้านี้ ก่อนที่โทษจำคุกจริงหลังลดแล้วจะมีคดีของมงคล หรือบัสบาส https://www.ilaw.or.th/articles/case/24181 ที่สูงกว่าออกมาในภายหลัง
.
2.
ถูกทหารบุกจับกุม ขึ้นศาลทหาร ไม่ได้ประกันตัว
.
ช่วงเดือนมกราคม 2558 เป็นช่วงเวลาที่ประเทศอยู่ภายใต้กฎอัยการศึกจากการรัฐประหารของคสช. ทำให้ทหารมีอำนาจในการเข้าบุกค้นและจับกุมประชาชนที่ไหนเมื่อไรก็ได้ โดยไม่ต้องมีหมายศาลและไม่ต้องมีข้อกล่าวหาที่ชัดเจน
.
ระหว่างที่อัญชัญจัดงานประชุมที่บ้านเพื่อพูดคุยเรื่องการทำธุรกิจขายตรงกับเพื่อนและคนที่สนใจ ทหารพร้อมอาวุธ ตำรวจและเจ้าหน้าที่ไม่ทราบสังกัดหลายนายมาที่บ้านของเธอ คนที่มาประชุมต่างตกใจว่าเกิดอะไรขึ้น เธอถูกคุมตัวไปที่บ้านอีกหลังที่เธอใช้เป็นที่อยู่อาศัย และถูกคุมตัวต่อไปยังค่ายทหาร เมื่อใกล้จะถึงค่ายทหาร เธอถูกเอาผ้าคลุมศีรษะ และไม่รู้ว่าถูกพาตัวไปยังสถานที่ใด
.
ภายใต้อำนาจของกฎอัยการศึก ทหารยังสามารถควบคุมตัวประชาชนไว้ได้ 7 วันในค่ายทหารโดยไม่ต้องมีข้อกล่าวหาหรือการไต่สวน อัญชัญถูกควบคุมตัวในค่ายทหารที่จังหวัดกาญจนบุรีเป็นเวลา 5 วัน และหลังจากนั้นเมื่อเธอถูกดำเนินคดีก็เป็นช่วงที่คดีมาตรา 112 ถูกประกาศของคสช.ให้ต้องขึ้นศาลทหาร https://www.ilaw.or.th/articles/8930 ทำให้อัญชัญเป็นประชาชนพลเรือน หนึ่งในสองพันกว่าคน https://tlhr2014.com/archives/3498 ที่ต้องถูกพิจารณาคดีที่ศาลทหาร ซึ่งมีอัยการเป็นทหาร และมีผู้พิพากษาเป็นทหาร
.
ในช่วงแรกซึ่งอยู่ภายใต้การพิจารณาของ “ศาลทหาร” เธอตัดสินใจให้การปฏิเสธและขอต่อสู้คดี ซึ่งขณะนั้นคำขอประกันตัวของเธอถูกปฏิเสธซ้ำๆ โดยศาลทหารหลายครั้ง ทำให้เธอต้องถูกคุมขังเป็นเวลาทั้งสิ้น 3 ปี กับอีก 281 วัน โดยที่การพิจารณาคดีล่าช้า https://tlhr2014.com/archives/11352 ไม่มีความคืบหน้าและไม่มีท่าทีว่าจะเสร็จสิ้น ในช่วงเวลาต่อมาคสช. ยกเลิกการใช้ศาลทหารพิจารณาคดีพลเรือน https://www.ilaw.or.th/articles/10096 และคดีของเธอโอนกลับมายังศาลปกติ ก่อนจะได้ประกันตัวในวันที่ 2 พฤศจิกายน 2561 ด้วยหลักทรัพย์ 5 แสนบาท
.
3.
อัญชัญรับสารภาพ หวังจบคดีในวันที่มาตรา 112 ไม่ถูกใช้
.
คดีมาตรา 112 เป็นคดีที่การใช้และการตีความมีความผกผันไปตามสถานการณ์ทางการเมือง https://www.ilaw.or.th/articles/9845 การจับกุมจำนวนมากและการลงโทษที่หนักจะเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่บ้านเมืองมีความขัดแย้งรุนแรง เช่น มีการชุมนุม หรือมีการรัฐประหาร
.
ในช่วงปี 2561-2563 เกิดปรากฏการณ์แนวโน้มคดีที่คดีมาตรา 112 ไม่ถูกนำมาใช้เลย และคดีที่ดำเนินอยู่ในชั้นศาลก่อนหน้านั้นศาลพิพากษาให้ยกฟ้องทั้งหมด https://www.ilaw.or.th/articles/9324 แม้ว่าจะเลยจะรับสารภาพก็ตาม เช่น คดีของทอม ดันดี ช่วงเวลาดังกล่าวเป็นช่วงเวลาที่อัญชัญได้รับอนุญาตให้ประกันตัว และได้กลับออกมาใช้ชีวิตตามปกติ เมื่อเธอพิจารณาจากแนวโน้มหลายๆ คดีที่ศาลยกฟ้องแล้วเธอจึงตัดสินใจให้การ “รับสารภาพ” ในชั้นศาล ด้วยความหวังว่า ศาลอาจจะไม่ลงโทษเลย หรือลงโทษเพียงข้อหาพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ แต่ไม่ลงโทษด้วยข้อหามาตรา 112 เช่นเดียวกับคดีของทนายประเวศ
.
แต่หลังจากอัญชัญให้การรับสารภาพและศาลมีกำหนดนัดฟังคำพิพากษาแล้ว เมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน 2563 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีในขณะนั้นได้ออกแถลงการณ์ว่าจะบังคับใช้กฎหมาย “ทุกฉบับ ทุกมาตรา” https://www.ilaw.or.th/articles/9964 และหลังจากนั้นมามาตรา 112 ก็ถูกนำกลับมาใช้อีกครั้งหนึ่ง เมื่อถึงวันที่ศาลอ่านคำพิพากษาอัญชัญจึงถูกลงโทษตามมาตรา 112
.
4.
“บรรพต” เจ้าของคลิปที่อัญชัญนำไปเผยแพร่รับโทษน้อยกว่า
.
เดือนกุมภาพันธ์ 2558 หัสดิน ผู้ที่ยอมรับว่าตัวเองคือเจ้าของเสียงที่ใช้นามแฝงว่า “บรรพต” นักจัดรายการคลิปเสียงที่มีผลงานมากกว่า 400 ชิ้นอยู่บนยูทูป ถูกจับกุมและฟ้องแยกเป็นอีกคดีหนึ่ง พร้อมกับจำเลยคนอื่นๆ รวม 12 คนที่เกี่ยวข้องในการช่วยกันเผยแพร่คลิปเสียงของเขา
.
หัสดินรับสารภาพตั้งแต่ชั้นจับกุมจนถึงชั้นศาลว่า เขาคือเจ้าของคลิปทั้งหมดจริง คดีของเขาอัยการศาลทหารกรุงเทพเลือกคลิปเพียงหนึ่งคลิปที่มีเนื้อหาชัดเจนมาสั่งฟ้องเป็นความผิดหนึ่งกรรม ต่อมาศาลทหารกรุงเทพพิพากษาว่า มีความผิดลงโทษจำคุก 10 ปี เมื่อจำเลยรับสารภาพลดโทษเหลือจำคุก 5 ปี เขาติดคุกจริงประมาณสามปีกว่าๆ และได้รับการลดโทษ
.
วันที่ 29 ธันวาคม 2561 ในตอนที่ดีเจบรรพตได้รับการปล่อยตัวออกจากเรือนจำ อัญชัญยังต้องต่อสู้คดีของเธออยู่ หากคำนวณจำนวนวันที่อัญชัญถูกคุมขังตั้งแต่วันที่ถูกจับกุมครั้งแรก และถูกคุมขังด้วยอำนาจศาลทหารกรุงเทพเรื่อยมาจนถึงวันปล่อยตัว อัญชัญจะถูกจำคุกรวม 3,055 วันหรือประมาณ 8 ปี ขณะที่ดีเจบรรพตผู้ผลิตคลิปทั้งหมดรับโทษรวม 689 วันหรือเกือบ 2 ปี
.
5.
ถูกปลดออกจากราชการก่อนเกษียณเพราะติดคุก
.
วันที่อัญชัญถูกจับกุมเธออายุประมาณ 59 ปี โดยมีอาชีพเป็นข้าราชการซึ่งกำลังจะเข้าสู่วัยเกษียณ หลังถูกจับกุมและจองจำครั้งแรกเป็นเวลา 3 ปี 9 เดือน อัญชัญได้รับอิสรภาพในเดือนพฤศจิกายนปี 2561 ชีวิต ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่นโยบายเกี่ยวกับคดีมาตรา 112 ดูจะผ่อนคลายลง ไอลอว์ได้สัมภาษณ์อัญชัญเกี่ยวชีวิตและการงานของเธอหลังออกจากเรือนจำจนถึงก่อนเข้าเรือนจำอีกครั้งหนึ่ง
.
อัญชัญเล่าว่าทรัพย์สินของเธอหลายๆ อย่างถูกยึดไป เนื่องจากก่อนจะถูกคุมขังเธอมีหนี้สินกับธนาคาร เมื่อเธอถูกคุมขังในเรือนจำ หนี้ที่เคยชำระตามกำหนดก็ไม่ได้ชำระต่อ ธนาคารจึงมายึดทรัพย์สินไปจนแทบไม่เหลืออะไร
.
ระหว่างที่อยู่ในเรือนจำก็มีเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานของเธอเข้าไปพบที่เรือนจำและแจ้งว่าจะมีการสอบวินัย เพราะคดีมาตรา 112 ถือเป็นคดีที่ร้ายแรง หลังได้รับการประกันตัว อัญชัญถูกเรียกไปรายงานตัวและทราบว่า ไม่ได้ถูกไล่ออกแต่เป็นการ “ปลดออก” ซึ่งทำให้เธอยังมีสิทธิได้รับเงินบำนาญอยู่ อย่างไรก็ตามคำสั่งปลดออกจากราชการคาดว่า จะมีผลเมื่อคดีถึงที่สุดแล้ว การขาดรายได้และปัญหาเศรษฐกิจจึงเป็นปัญหาใหญ่ที่อัญชัญต้องเผชิญ
.
อัญชัญต้องพยายามหาอาชีพเสริมด้วยการทำขนมและรับหมูฝอยมาขาย เธอยังหัดทำขนมเผือกหิมะ ขณะที่หลานของเธอก็แบ่งเงินให้เธอใช้ประมาณเดือนละ 5,000-6,000 บาท ทำให้เธอพอที่จะประคองชีวิตไปได้ https://www.ilaw.or.th/articles/9724
.
6.
อัญชัญได้ลดโทษ เพราะเข้าหลักเกณฑ์ของพ.ร.ฎ.ฯ ที่ใช้กับทุกคน
.
เมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม 2568 ราชกิจจานุเบกาเผยแพร่พระราชกฤษฎีกาพระราชทานอภัยโทษ พ.ศ. 2568 https://ratchakitcha.soc.go.th/documents/80356.pdf...
.
ซึ่งเป็นการใช้อำนาจตามรัฐธรรมนูญ 2560 มาตรา 175 และมาตรา 179 การพระราชทานอภัยโทษในครั้งนี้เป็นการที่รัชกาลที่ 10 ทรงมีพระราชดำริให้อภัยโทษแก่ผู้ต้องขังที่เข้าข่ายหลักเกณฑ์ที่กำหนดไว้ในพระราชกฤษฎีกาให้ได้รับโอกาสกลับตนเป็นคนดีในวันเฉลิมพระชนมพรรษา 28 กรกฎาคม 2568
.
การพระราชทานอภัยโทษนี้เป็นการอภัยโทษเป็นการ “ทั่วไป” ไม่ได้เจาะจงให้เฉพาะบุคคลใดบุคคลหนึ่ง หรือที่ในหมู่ผู้ต้องขังจะเรียกว่า “อภัยลูกใหญ่” เพราะพระราชกฤษฎีกาได้กำหนดลักษณะของผู้ต้องขังที่จะได้รับการพระราชทานอภัยโทษให้ได้รับการปล่อยตัวหรือการพระราชทานลดโทษ หมายความว่าผู้ต้องขังที่เข้าข่ายตามหลักเกณฑ์ในพระราชกฤษฎีกาฉบับนี้ ก็จะได้ประโยชน์เหมือนกันทุกคนโดยไม่มีการเลือกปฏิบัติว่าเป็นคดีการเมืองหรือไม่
.
ระหว่างการคุมขังทั้งสองรอบ อัญชัญ ซึ่งมีคุณสมบัติเข้าหลักเกณฑ์คือ เป็นผู้สูงอายุจึงได้ประโยชน์โดยการลดโทษสามครั้ง ครั้งแรกลดโทษ 1 ใน 3 ตามการออก เมื่อเดือนกรกฎาคม 2564, ครั้งที่สองลดโทษ 1 ใน 2 เมื่อเดือนธันวาคม 2567 และครั้งที่สามลดโทษ 1 ใน 4 ทำให้อัตราโทษจำคุกที่เหลืออยู่ของเธอลดลงมาเรื่อยๆ เหลือ 2 ปี 7 เดือน
.
ตามพระราชกฤษฎีกาพระราชทานอภัยโทษ พ.ศ. 2568 มาตรา 8 (ฉ) กำหนดให้นักโทษเด็ดขาดที่อายุไม่ต่ำกว่า 60 ปีในวันที่พระราชกฤษฎีกาบังคับใช้ ไม่ว่าจะในกรณีที่ผิดคดีเดียวหรือหลายคดี ซึ่งมีโทษเหลืออยู่ไม่เกิน 3 ปีนับแต่วันที่พระราชกฤษฎีกาใช้บังคับให้ได้รับพระราชทานอภัยโทษปล่อยตัว ซึ่งอัญชัญอยู่ในเกณฑ์ที่จะได้รับอภัยโทษปล่อยตัวตามมาตรา 8 (ฉ) จึงจะได้รับการปล่อยตัวในวันที่ 27 สิงหาคม 2568
.
รวมทั้งสิ้นอัญชัญถูกจำคุกรวม 3,055 วัน หรือประมาณ 8 ปีเศษ
https://www.facebook.com/photo/?fbid=1184922800348004&set=a.625664036273886

·
26 สิงหาคม 2568 ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนรายงานว่า ในวันที่ 27 สิงหาคม 2568 อัญชัญ ปรีเลิศผู้ต้องขังที่ถูกตัดสินจำคุกรวม 29 ปี 174 เดือน หรือประมาณ 43 ปีครึ่ง ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 จากการอัปโหลดและเผยแพร่คลิปเสียง กำลังจะได้รับการปล่อยตัวจากทัณฑสถานหญิงกลางฯ หลังจากต้องเข้าไปใช้ชีวิตอยู่ในเรือนจำสองรอบนานกว่า 8 ปี ชวนย้อนดูประเด็นที่น่าสนใจของคดีอัญชัญ ปรีเลิศ คดีสำคัญที่ทำให้เห็นปัญหาและผลกระทบหลายประเด็นของการบังคับใช้มาตรา 112
.
1.

.
อัญชัญถูกดำเนินคดีมาตรา 112 และพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ จากการอัพโหลดไฟล์และคลิปเสียงของผู้ใช้นามแฝงว่า “บรรพต” จำนวน 19 คลิป ลงในยูทูป 23 ครั้ง และเฟซบุ๊ก 6 ครั้ง รวมเป็น 29 ครั้ง จึงถูกดำเนินคดีตามกฎหมายเรียกว่าการกระทำ 29 กรรม ในชั้นศาลอัญชัญให้การรับสารภาพ https://www.ilaw.or.th/articles/case/23707
.
มาตรา 112 กำหนดอัตราโทษจำคุกไว้ที่ 3-15 ปี ซึ่งอัตราโทษนี้ถูกเพิ่มขึ้นด้วยประกาศคณะปฏิวัติในปี 2519 https://www.ilaw.or.th/articles/4898 หมายความว่า แม้ศาลจะเห็นว่าการกระทำที่ถูกฟ้องนั้นเป็นเรื่องเล็กน้อยเพียงใดก็ลงโทษต่ำกว่านี้ไม่ได้ และลงโทษปรับไม่ได้ หากศาลตัดสินว่ากระทำความผิดหลายครั้งโทษจำคุกก็จะคูณเพิ่มไปเรื่อยๆ ทำให้ศาลไม่อาจลงโทษน้อยไปกว่าการจำคุก 3 ปี ต่อหนึ่งกรรมได้ และศาลต้องพิพากษาให้ลงโทษรวมเป็น 87 ปี ซึ่งเป็นโทษน้อยที่สุดเท่าที่ศาลจะลงโทษได้จากคำฟ้องของเธอ
.
เนื่องจากอัญชัญให้การรับสารภาพ ศาลจึงลดโทษจำคุกให้ครึ่งหนึ่ง ซึ่งการลดโทษจำคุกแยกเป็นรายกรรม โทษจำคุกของอัญชัญจึงลดจากกรรมละ 3 ปี เหลือกรรมละ 1 ปี 6 เดือน เมื่อรวมโทษทั้งหมดแล้วเป็นการจำคุก 29 ปี 174 เดือน หรือประมาณ 43 ปีครึ่ง
.
สาเหตุที่การนับโทษในทางกฎหมายต้องใช้หน่วยเป็นหลักเดือน 174 เดือน ไม่ตัดให้เป็นปี เพราะในการนับระยะเวลาจำคุก หากมีโทษจำคุก 1 เดือนจะติดคุกจริง 30 วัน หากมีโทษจำคุก 12 เดือนจะติดคุกจริง 360 วัน แต่ถ้าหากตัดเป็นหลักปี จะกลายเป็นจำคุก 365 หรือ 366 วัน ทำให้ต้องรับโทษมากกว่า
.
19 มกราคม 2564 ในวันที่มีคำพิพาษาในคดีของอัญชัญออกมา โทษตามคำพิพากษาคดีนี้เป็นโทษของคดีมาตรา 112 ที่สูงที่สุดเท่าที่เคยมีมา ทำลายทุกสถิติก่อนหน้านี้ ก่อนที่โทษจำคุกจริงหลังลดแล้วจะมีคดีของมงคล หรือบัสบาส https://www.ilaw.or.th/articles/case/24181 ที่สูงกว่าออกมาในภายหลัง
.
2.

.
ช่วงเดือนมกราคม 2558 เป็นช่วงเวลาที่ประเทศอยู่ภายใต้กฎอัยการศึกจากการรัฐประหารของคสช. ทำให้ทหารมีอำนาจในการเข้าบุกค้นและจับกุมประชาชนที่ไหนเมื่อไรก็ได้ โดยไม่ต้องมีหมายศาลและไม่ต้องมีข้อกล่าวหาที่ชัดเจน
.
ระหว่างที่อัญชัญจัดงานประชุมที่บ้านเพื่อพูดคุยเรื่องการทำธุรกิจขายตรงกับเพื่อนและคนที่สนใจ ทหารพร้อมอาวุธ ตำรวจและเจ้าหน้าที่ไม่ทราบสังกัดหลายนายมาที่บ้านของเธอ คนที่มาประชุมต่างตกใจว่าเกิดอะไรขึ้น เธอถูกคุมตัวไปที่บ้านอีกหลังที่เธอใช้เป็นที่อยู่อาศัย และถูกคุมตัวต่อไปยังค่ายทหาร เมื่อใกล้จะถึงค่ายทหาร เธอถูกเอาผ้าคลุมศีรษะ และไม่รู้ว่าถูกพาตัวไปยังสถานที่ใด
.
ภายใต้อำนาจของกฎอัยการศึก ทหารยังสามารถควบคุมตัวประชาชนไว้ได้ 7 วันในค่ายทหารโดยไม่ต้องมีข้อกล่าวหาหรือการไต่สวน อัญชัญถูกควบคุมตัวในค่ายทหารที่จังหวัดกาญจนบุรีเป็นเวลา 5 วัน และหลังจากนั้นเมื่อเธอถูกดำเนินคดีก็เป็นช่วงที่คดีมาตรา 112 ถูกประกาศของคสช.ให้ต้องขึ้นศาลทหาร https://www.ilaw.or.th/articles/8930 ทำให้อัญชัญเป็นประชาชนพลเรือน หนึ่งในสองพันกว่าคน https://tlhr2014.com/archives/3498 ที่ต้องถูกพิจารณาคดีที่ศาลทหาร ซึ่งมีอัยการเป็นทหาร และมีผู้พิพากษาเป็นทหาร
.
ในช่วงแรกซึ่งอยู่ภายใต้การพิจารณาของ “ศาลทหาร” เธอตัดสินใจให้การปฏิเสธและขอต่อสู้คดี ซึ่งขณะนั้นคำขอประกันตัวของเธอถูกปฏิเสธซ้ำๆ โดยศาลทหารหลายครั้ง ทำให้เธอต้องถูกคุมขังเป็นเวลาทั้งสิ้น 3 ปี กับอีก 281 วัน โดยที่การพิจารณาคดีล่าช้า https://tlhr2014.com/archives/11352 ไม่มีความคืบหน้าและไม่มีท่าทีว่าจะเสร็จสิ้น ในช่วงเวลาต่อมาคสช. ยกเลิกการใช้ศาลทหารพิจารณาคดีพลเรือน https://www.ilaw.or.th/articles/10096 และคดีของเธอโอนกลับมายังศาลปกติ ก่อนจะได้ประกันตัวในวันที่ 2 พฤศจิกายน 2561 ด้วยหลักทรัพย์ 5 แสนบาท
.
3.

.
คดีมาตรา 112 เป็นคดีที่การใช้และการตีความมีความผกผันไปตามสถานการณ์ทางการเมือง https://www.ilaw.or.th/articles/9845 การจับกุมจำนวนมากและการลงโทษที่หนักจะเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่บ้านเมืองมีความขัดแย้งรุนแรง เช่น มีการชุมนุม หรือมีการรัฐประหาร
.
ในช่วงปี 2561-2563 เกิดปรากฏการณ์แนวโน้มคดีที่คดีมาตรา 112 ไม่ถูกนำมาใช้เลย และคดีที่ดำเนินอยู่ในชั้นศาลก่อนหน้านั้นศาลพิพากษาให้ยกฟ้องทั้งหมด https://www.ilaw.or.th/articles/9324 แม้ว่าจะเลยจะรับสารภาพก็ตาม เช่น คดีของทอม ดันดี ช่วงเวลาดังกล่าวเป็นช่วงเวลาที่อัญชัญได้รับอนุญาตให้ประกันตัว และได้กลับออกมาใช้ชีวิตตามปกติ เมื่อเธอพิจารณาจากแนวโน้มหลายๆ คดีที่ศาลยกฟ้องแล้วเธอจึงตัดสินใจให้การ “รับสารภาพ” ในชั้นศาล ด้วยความหวังว่า ศาลอาจจะไม่ลงโทษเลย หรือลงโทษเพียงข้อหาพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ แต่ไม่ลงโทษด้วยข้อหามาตรา 112 เช่นเดียวกับคดีของทนายประเวศ
.
แต่หลังจากอัญชัญให้การรับสารภาพและศาลมีกำหนดนัดฟังคำพิพากษาแล้ว เมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน 2563 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีในขณะนั้นได้ออกแถลงการณ์ว่าจะบังคับใช้กฎหมาย “ทุกฉบับ ทุกมาตรา” https://www.ilaw.or.th/articles/9964 และหลังจากนั้นมามาตรา 112 ก็ถูกนำกลับมาใช้อีกครั้งหนึ่ง เมื่อถึงวันที่ศาลอ่านคำพิพากษาอัญชัญจึงถูกลงโทษตามมาตรา 112
.
4.

.
เดือนกุมภาพันธ์ 2558 หัสดิน ผู้ที่ยอมรับว่าตัวเองคือเจ้าของเสียงที่ใช้นามแฝงว่า “บรรพต” นักจัดรายการคลิปเสียงที่มีผลงานมากกว่า 400 ชิ้นอยู่บนยูทูป ถูกจับกุมและฟ้องแยกเป็นอีกคดีหนึ่ง พร้อมกับจำเลยคนอื่นๆ รวม 12 คนที่เกี่ยวข้องในการช่วยกันเผยแพร่คลิปเสียงของเขา
.
หัสดินรับสารภาพตั้งแต่ชั้นจับกุมจนถึงชั้นศาลว่า เขาคือเจ้าของคลิปทั้งหมดจริง คดีของเขาอัยการศาลทหารกรุงเทพเลือกคลิปเพียงหนึ่งคลิปที่มีเนื้อหาชัดเจนมาสั่งฟ้องเป็นความผิดหนึ่งกรรม ต่อมาศาลทหารกรุงเทพพิพากษาว่า มีความผิดลงโทษจำคุก 10 ปี เมื่อจำเลยรับสารภาพลดโทษเหลือจำคุก 5 ปี เขาติดคุกจริงประมาณสามปีกว่าๆ และได้รับการลดโทษ
.
วันที่ 29 ธันวาคม 2561 ในตอนที่ดีเจบรรพตได้รับการปล่อยตัวออกจากเรือนจำ อัญชัญยังต้องต่อสู้คดีของเธออยู่ หากคำนวณจำนวนวันที่อัญชัญถูกคุมขังตั้งแต่วันที่ถูกจับกุมครั้งแรก และถูกคุมขังด้วยอำนาจศาลทหารกรุงเทพเรื่อยมาจนถึงวันปล่อยตัว อัญชัญจะถูกจำคุกรวม 3,055 วันหรือประมาณ 8 ปี ขณะที่ดีเจบรรพตผู้ผลิตคลิปทั้งหมดรับโทษรวม 689 วันหรือเกือบ 2 ปี
.
5.

.
วันที่อัญชัญถูกจับกุมเธออายุประมาณ 59 ปี โดยมีอาชีพเป็นข้าราชการซึ่งกำลังจะเข้าสู่วัยเกษียณ หลังถูกจับกุมและจองจำครั้งแรกเป็นเวลา 3 ปี 9 เดือน อัญชัญได้รับอิสรภาพในเดือนพฤศจิกายนปี 2561 ชีวิต ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่นโยบายเกี่ยวกับคดีมาตรา 112 ดูจะผ่อนคลายลง ไอลอว์ได้สัมภาษณ์อัญชัญเกี่ยวชีวิตและการงานของเธอหลังออกจากเรือนจำจนถึงก่อนเข้าเรือนจำอีกครั้งหนึ่ง
.
อัญชัญเล่าว่าทรัพย์สินของเธอหลายๆ อย่างถูกยึดไป เนื่องจากก่อนจะถูกคุมขังเธอมีหนี้สินกับธนาคาร เมื่อเธอถูกคุมขังในเรือนจำ หนี้ที่เคยชำระตามกำหนดก็ไม่ได้ชำระต่อ ธนาคารจึงมายึดทรัพย์สินไปจนแทบไม่เหลืออะไร
.
ระหว่างที่อยู่ในเรือนจำก็มีเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานของเธอเข้าไปพบที่เรือนจำและแจ้งว่าจะมีการสอบวินัย เพราะคดีมาตรา 112 ถือเป็นคดีที่ร้ายแรง หลังได้รับการประกันตัว อัญชัญถูกเรียกไปรายงานตัวและทราบว่า ไม่ได้ถูกไล่ออกแต่เป็นการ “ปลดออก” ซึ่งทำให้เธอยังมีสิทธิได้รับเงินบำนาญอยู่ อย่างไรก็ตามคำสั่งปลดออกจากราชการคาดว่า จะมีผลเมื่อคดีถึงที่สุดแล้ว การขาดรายได้และปัญหาเศรษฐกิจจึงเป็นปัญหาใหญ่ที่อัญชัญต้องเผชิญ
.
อัญชัญต้องพยายามหาอาชีพเสริมด้วยการทำขนมและรับหมูฝอยมาขาย เธอยังหัดทำขนมเผือกหิมะ ขณะที่หลานของเธอก็แบ่งเงินให้เธอใช้ประมาณเดือนละ 5,000-6,000 บาท ทำให้เธอพอที่จะประคองชีวิตไปได้ https://www.ilaw.or.th/articles/9724
.
6.

.
เมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม 2568 ราชกิจจานุเบกาเผยแพร่พระราชกฤษฎีกาพระราชทานอภัยโทษ พ.ศ. 2568 https://ratchakitcha.soc.go.th/documents/80356.pdf...
.
ซึ่งเป็นการใช้อำนาจตามรัฐธรรมนูญ 2560 มาตรา 175 และมาตรา 179 การพระราชทานอภัยโทษในครั้งนี้เป็นการที่รัชกาลที่ 10 ทรงมีพระราชดำริให้อภัยโทษแก่ผู้ต้องขังที่เข้าข่ายหลักเกณฑ์ที่กำหนดไว้ในพระราชกฤษฎีกาให้ได้รับโอกาสกลับตนเป็นคนดีในวันเฉลิมพระชนมพรรษา 28 กรกฎาคม 2568
.
การพระราชทานอภัยโทษนี้เป็นการอภัยโทษเป็นการ “ทั่วไป” ไม่ได้เจาะจงให้เฉพาะบุคคลใดบุคคลหนึ่ง หรือที่ในหมู่ผู้ต้องขังจะเรียกว่า “อภัยลูกใหญ่” เพราะพระราชกฤษฎีกาได้กำหนดลักษณะของผู้ต้องขังที่จะได้รับการพระราชทานอภัยโทษให้ได้รับการปล่อยตัวหรือการพระราชทานลดโทษ หมายความว่าผู้ต้องขังที่เข้าข่ายตามหลักเกณฑ์ในพระราชกฤษฎีกาฉบับนี้ ก็จะได้ประโยชน์เหมือนกันทุกคนโดยไม่มีการเลือกปฏิบัติว่าเป็นคดีการเมืองหรือไม่
.
ระหว่างการคุมขังทั้งสองรอบ อัญชัญ ซึ่งมีคุณสมบัติเข้าหลักเกณฑ์คือ เป็นผู้สูงอายุจึงได้ประโยชน์โดยการลดโทษสามครั้ง ครั้งแรกลดโทษ 1 ใน 3 ตามการออก เมื่อเดือนกรกฎาคม 2564, ครั้งที่สองลดโทษ 1 ใน 2 เมื่อเดือนธันวาคม 2567 และครั้งที่สามลดโทษ 1 ใน 4 ทำให้อัตราโทษจำคุกที่เหลืออยู่ของเธอลดลงมาเรื่อยๆ เหลือ 2 ปี 7 เดือน
.
ตามพระราชกฤษฎีกาพระราชทานอภัยโทษ พ.ศ. 2568 มาตรา 8 (ฉ) กำหนดให้นักโทษเด็ดขาดที่อายุไม่ต่ำกว่า 60 ปีในวันที่พระราชกฤษฎีกาบังคับใช้ ไม่ว่าจะในกรณีที่ผิดคดีเดียวหรือหลายคดี ซึ่งมีโทษเหลืออยู่ไม่เกิน 3 ปีนับแต่วันที่พระราชกฤษฎีกาใช้บังคับให้ได้รับพระราชทานอภัยโทษปล่อยตัว ซึ่งอัญชัญอยู่ในเกณฑ์ที่จะได้รับอภัยโทษปล่อยตัวตามมาตรา 8 (ฉ) จึงจะได้รับการปล่อยตัวในวันที่ 27 สิงหาคม 2568
.
รวมทั้งสิ้นอัญชัญถูกจำคุกรวม 3,055 วัน หรือประมาณ 8 ปีเศษ
https://www.facebook.com/photo/?fbid=1184922800348004&set=a.625664036273886

