วันนี้ (๒๕ สิงหา) เป็นวันที่ศาลรัฐธรรมนูญนัด น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ไปให้การเพิ่มเติมในคดีคลิปอ้อนลุง ที่โดนฮุนเซนปล่อยออกมาดัดหลัง แต่สื่อสาธารณะจะเน้นไปที่วันตัดสิน ๒๙ สิงหามากกว่า ซึ่งหลายแหล่งให้ความเห็นว่าก้ำกึ่ง รอด-ไม่รอด
โดยที่บางส่วนมั่นใจว่า ‘พ่อรอด’ แล้ว ลูกก็ต้องรอดตามไปด้วย เพราะ ‘ธง’ มาอย่างนั้น จึงเห็นรัฐบาลเดินหน้าโครงการเรือธงอย่าง ‘รถไฟฟ้า ๒๐ บาทตลอดสาย’ ซึ่งจะเริ่มดำเนินการในวันที่ ๑ ตุลาคม และเปิดให้ลงทะเบียนตั้งแต่วันนี้
จิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกสำนักนายกฯ แจ้งว่า คนไทยที่มีเลขบัตรประชาชน ๑๓ หลัก สามารถลงทะเบียนได้ทุกคนผ่านแอปฯ ‘ทางรัฐ’ รัฐบาล “พร้อมให้บริการประชาชนอย่างไร้ร้อยต่อ” คาดว่าจะทำให้มีผู้โดยสารเพิ่ม ๒๐% จากปัจจุบัน ๑.๗ ล้านคนต่อวัน
อ้างว่าจะแก้ปัญหาค่าครองชีพที่สูงขึ้นต่อเนื่องได้ด้วยราคาที่ถูกและเข้าถึงได้ง่าย แต่เสียงค้านก็หนักแน่นไม่เบา โยเฉพาะจากอดีต รมว.คลัง ปัจจุบันเป็นรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล บอกว่าโครงการจะไปไม่ได้ตลอดรอดฝั่ง
“เป็นไปได้ยาก เนื่องจากโครงสร้างสัญญาสัมปทานของแต่ละเส้นทางแตกต่างกัน และจะก่อภาระแก่งบประมาณโดยรัฐบาลจะต้องชดเชยรายได้แก่เอกชนจำนวนมหาศาล เบื้องต้นคาดไม่ต่ำกว่า ๑๕,๐๐๐ ถึง ๒๐,๐๐๐ ล้านบาทต่อปี”
แล้วภาระนี้ยังจะเพิ่มอีกมากเมื่อมีการขยายเส้นทาง “อีกทั้งยังติดปัญหา ‘ตั๋วร่วม’ ที่ล่าช้ามานานอันจะเป็นอุปสรรคต่อการคิดค่าโดยสาร ๒๐ บาทตลอดสาย รวมทั้งจะเป็นการชดเชยที่เอื้อประโยชน์แก่เอกชนที่เกินความจำเป็น” และเป็นการ “ให้สัญญาเกินจริง”
ธีระชัยย้ำว่าความจริงใจในการบริหารเศรษฐกิจของรัฐบาลเป็นกุญแจสำคัญ “หากรัฐบาลกล้าพูดความจริงและสร้างระบบที่ยั่งยืนและเป็นธรรมแก่ผู้เสียภาษีทั้งประเทศ จะได้ทั้งความเชื่อมั่นและผลลัพธ์ที่แท้จริง มากกว่าการเร่งสร้างภาพทางการเมือง”
(https://www.matichon.co.th/economy/news_5338040 และ https://x.com/VoiceTVOfficial/status/1959822245448355855)