วันเสาร์, มีนาคม 22, 2568

"กัณวีร์" ข้องใจจัดฉาก "อุยกูร์" พบสื่อฯ จับพิรุธภาพผู้หญิงญาติชาวอุยกูร์ ควงแขน "ภูมิธรรม" ผิดวิสัยมุสลิม แย้มอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลเตรียมเปิดหลักฐานทั้งหมด


ภาพจากข่าวช่องวัน
.....

ฝ่านค้านข้องใจพาสื่อเกาะติดชีวิต "อุยกูร์" ตั้งข้อสังเกตจัดฉาก


20 มี.ค. 2568
ไทยรัฐออนไลน์

"กัณวีร์" ข้องใจจัดฉาก "อุยกูร์" พบสื่อฯ จับพิรุธภาพผู้หญิงญาติชาวอุยกูร์ ควงแขน "ภูมิธรรม" ผิดวิสัยมุสลิม แย้มอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลเตรียมเปิดหลักฐานทั้งหมด

วันที่ 20 มีนาคม 2568 นายกัณวีร์ สืบแสง สส. พรรคเป็นธรรม ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีรัฐบาลไทยพาสื่อมวลชนเดินทางไปยังมณฑลซินเจียง เพื่อดูชีวิตความเป็นอยู่ของชาวอุยกูร์หลังส่งกลับสาธารณรัฐประชาชนจีนว่า ตนไม่เห็นด้วยตั้งแต่แรกในการผลักดันกลับ ตนถามมาเสมอว่าผู้ลี้ภัยทั้ง 40 คน ความสมัครใจหรือไม่มีหลักฐานอะไรมายืนยันบ้าง แต่รัฐบาลไม่สามารถชี้แจงเรื่องหลักฐานได้ จึงเหมือนเป็นการตบหัวแล้วไปลูบหลัง การกลับไปเยี่ยมแบบนี้ทุกคนทราบดีว่า รูปแบบจะเป็นอย่างไร ภาพที่ออกมาน่าตกใจพอสมควร ที่ผู้หญิงชาวอุยกูร์ที่บอกว่าเป็นแม่และน้องสาวหรือพี่สาวกอดแขนรองนายกฯ ซึ่งผู้หญิงมุสลิมต้องใส่ฮิญาบ จึงมองว่าไม่น่าจะเป็นเช่นนั้นได้ เพราะภาพมันย้อนแย้งกับความเป็นจริง ถ้าบอกว่าความพัฒนาเกิดขึ้นแล้ว เชื่อว่าพี่น้องมุสลิมทั่วโลกคงบอกว่านี่ไม่ใช่การพัฒนาในเชิงศาสนา แต่เป็นการสร้างภาพหรือไม่ ดังนั้นจึงมีอะไรหลายอย่างที่แสดงให้เห็นว่ามันไม่จริง

เมื่อถามว่า ภาพที่ออกมาสามารถยืนยันได้หรือไม่ว่าพวกเขาปลอดภัย นายกัณวีร์กล่าวว่า ข้อกังขาในเวทีระหว่างประเทศ ไม่ใช่ว่าเขากลับไปแล้วอยู่ดีมีสุขหรือไม่ แต่คือความสมัครใจของพวกเขา หากรัฐบาลทำขนาดนี้ควรเอาหลักฐานออกมาดีกว่า ว่าเขาสมัครใจกลับ แต่ทุกอย่างไม่มีหลักฐานซึ่งมองว่าเป็นข้อกังขาใหญ่ เมื่อถามถึงคำสัมภาษณ์ของชาวอุยกูร์ ที่บอกว่าเต็มใจกลับ และเมื่อ 10 ปีที่แล้วถูกชักจูงจากกลุ่มหัวรุนแรง รวมถึงไม่มีจดหมายที่เขียนออกมาด้วย นายกัณวีร์ กล่าวว่า เสียดายภาษีประชาชนที่เอาบินไปประเทศจีน แล้วก็เอาไปหาข้อมูลจดหมาย 3 ฉบับ ว่าเป็นจดหมายจริงหรือไม่ การเดินทางกลับไปถ้าใช้มาตรฐานสากล ต้องเป็นการตัดสินใจรายบุคคล การที่จะบอกว่า 2 คน เป็นตัวแทนของทั้งหมด 40 คนนั้นไม่จริง แล้วตอนนี้ 40 คนอยู่ที่ไหน เพราะเราเห็นแค่ 4 คนเท่านั้น ตอนนี้เป็นกระแสในเรื่องข้อมูลข่าวสารที่ออกมาจากฝั่งเดียว คำครหาคือการผลักดันกลับในตอนแรก คือความร่วมมือระหว่างรัฐบาลไทยและรัฐบาลจีน ขนาดสื่อมวลชนยังโดนเลือกว่าจะมีใครจะได้ไป ขณะที่อีกหลายคนไม่ได้ไป

นายกัณวีร์กล่าวต่อว่า ตนเองเคยอยู่ในแวดวงของความมั่นคง รู้ว่ากำลังคิดอะไรและจะทำอะไรต่อไป การโชว์มันไม่ตอบโจทย์ความเป็นจริง เพราะว่ารับไม่ได้ตั้งแต่ต้น ยิ่งดูว่าเขาทำอะไร สร้างภาพอย่างไรยิ่งรับไม่ได้ ภาพที่เราเห็นมีการเบลอหน้าทุกคนยกเว้นเจ้าหน้าที่ไทย ทำไมเราถึงไม่สามารถมองเห็นได้ ถ้าการเดินทางกลับไปในครั้งนี้เป็นการแก้ไขปัญหาแบบยั่งยืนในเรื่องผู้ลี้ภัย ทุกคนก็เป็นผู้ใหญ่ไม่ใช่เด็กแล้ว ซึ่งในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ จะนำหลักฐานทั้งหมดมาแสดงให้เห็น ทั้ง คลิปเสียง ภาพ ไทม์ไลน์ต่าง ๆ ว่ามันมีข้อกังขาอะไรบ้าง

https://www.thairath.co.th/news/politic/2848273