อานนท์ถอดเสื้อประท้วงเรื่องไม่ได้รับความยุติธรรม ศาลผู้มากอำนาจรู้สึกระคายเคือง บอก = ละเมิดอำนาจศาล นัดมาไต่สวน

https://tlhr2014.com/archives/71395

.....

ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน
9 hours ago
·
ศาลอาญาเบิกตัวอานนท์ ไต่สวนคดี “ละเมิดอำนาจศาล”
โดยไม่มีทนายความ ก่อนเลื่อนไปไต่สวนอีกครั้ง 5 มี.ค. 68
.
.
23 ม.ค. 2568 เวลา 9.00 น. ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนได้รับแจ้งว่ามีการนำตัว “อานนท์ นำภา” จากเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ มาที่ศาลอาญา ห้องพิจารณาที่ 809 จากการตรวจสอบข้อมูลพบว่าเป็นคดีนัดไต่สวนละเมิดอำนาจศาล โดยนัดดังกล่าวผู้ถูกกล่าวหาและทนายความไม่ทราบล่วงหน้ามาก่อน
.
ในห้องพิจารณาพบ “อานนท์” นั่งรออยู่พร้อมเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ ตำรวจศาล และผู้อำนวยการศาลอาญา บรรยากาศในห้องพิจารณามีความวุ่นวายสับสน โดยตำรวจศาล 2-3 นาย รวมถึงเจ้าหน้าที่หน้าบัลลังก์ เดินเข้าออกห้องพิจารณาหลายครั้ง
.
จากการสอบถามตำรวจศาลระบุว่า ตนเพิ่งได้รับแจ้งเรื่องการไต่สวนคดีละเมิดอำนาจศาลวานนี้ และเจ้าหน้าที่หน้าบัลลังก์ยังไม่ได้เห็นคำร้องของศาลอาญา จึงยังไม่สามารถให้อานนท์ทราบรายละเอียดได้ ขณะเดียวกันนั้นเจ้าหน้าที่ยังคงอยู่ระหว่างการตรวจสอบและเตรียมไฟล์วิดีโอซึ่งเป็นหลักฐานในวันที่อานนท์ถูกกล่าวหาว่าได้กระทำการละเมิดอำนาจศาล
.
อานนท์ถูกควบคุมตัวอยู่ในห้องพิจารณาโดยไม่ทราบรายละเอียดเกี่ยวกับการไต่สวนและไม่มีผู้พิพากษาอยู่ในบัลลังก์ จนล่วงเลยมาถึงเวลา 11.00 น. ผู้พิพากษาสองท่านเข้ามาในห้องพิจารณา และได้ประกาศให้ผู้ที่เข้ามาในห้องพิจารณาทราบว่า จากการปรึกษาอธิบดี อนุญาตให้มีประชาชนเข้าฟังการพิจารณานี้ได้ แต่ทุกคนต้องประพฤติตนให้เรียบร้อยห้าม ลุกขึ้นถามอะไร ถ้าศาลไม่ได้อนุญาต
.
ในขณะนั้นมีประชาชนเข้าร่วมฟังการพิจารณาประมาณ 15 คน เนื่องจากในวันนี้มีนัดอ่านคำพิพากษาคดี ม.112 ของ “พอร์ท ไฟเย็น” ที่ห้องพิจารณา 608 เมื่อการอ่านคำพิพากษาคดีดังกล่าวเสร็จสิ้น ประชาชนที่ทราบว่าอานนท์มาที่ศาลอาญา จึงเข้ามาให้กำลังใจ
.
อานนท์ลุกขึ้นชี้แจงต่อศาลว่าในวันนี้คงยังไต่สวนคดีไม่ได้ ต้องขอเลื่อนไปก่อนสักนัดหนึ่ง เนื่องจากตนยังไม่ทราบว่าขณะนี้กำลังจะถูกไต่สวนจากเหตุอะไรและไม่ได้เตรียมทนายความมา ตนเพิ่งทราบอย่างกระทันหันเมื่อเช้านี้ตอนจะถูกพาตัวมาศาล โดยมีความเร่งรีบขนาดที่ตนต้องมาจากเรือนจำโดยยังไม่ได้อาบน้ำด้วยซ้ำ
.
ผู้พิพากษาแจ้งว่าอันที่จริงศาลมีอำนาจไต่สวนได้เลย เพราะสิ่งที่กระทำในวันดังกล่าวเป็นความผิดซึ่งหน้า อย่างไรก็ตามอานนท์ยังคงยืนยันเรื่องสิทธิในการมีทนายความ เนื่องจากข้อหาละเมิดอำนาจศาลเป็นข้อหาที่มีการกำหนดโทษ จำเป็นที่จะต้องให้สิทธิ์ตนได้แก้ต่างอย่างเต็มที่ ตนไม่ได้ติดใจเรื่องโทษที่จะได้รับ แต่กระบวนการไต่สวนต้องยุติธรรม
.
“ถ้าหากทนายความสิทธิมนุษยชนยังไม่ได้รับอนุญาตให้ใช้ทนายความในการไต่สวน แล้วถ้าประชาชนคนอื่นโดนบ้างจะเป็นอย่างไร อยากให้กระบวนการพิจารณาปฏิบัติตามขั้นตอนที่ควรจะเป็น” อานนท์กล่าวกับศาล
.
ผู้พิพากษาได้อธิบายว่าสามารถให้สิทธิอานนท์ในการถามความและไต่สวนเอง รวมถึงหากจะให้ศาลตั้งทนายขอแรงเข้ามาในคดีวันนี้ก็ได้ แต่อานนท์ยังคงยืนยันอย่างหนักแน่นว่าต้องการใช้ทนายความ และต้องเป็นทนายความที่เขาเป็นคนกำหนดเอง อีกทั้งยังต้องการเวลาในการเตรียมพยานฝั่งตนเพื่อขึ้นเบิกความด้วย ซึ่งคงไม่สามารถดำเนินการทั้งหมดได้ภายในวันนี้
.
ผู้พิพากษาได้สอบถามชื่อทนายความที่อานนท์ต้องการจะให้มาไต่สวน และขอให้เจ้าหน้าที่ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนที่อยู่ในห้องพิจารณาติดต่อทนายความท่านนั้นโดยทันที พร้อมกล่าวว่าสามารถจะเลื่อนคดีไปในช่วงบ่ายได้ หากทนายจะมาภายในวันนี้ได้เลย อย่างไรก็ตามทนายคนดังกล่าวยังไม่สะดวกรับโทรศัพท์เนื่องจากกำลังติดว่าความอยู่อีกคดี
.
ระหว่างที่ในห้องพิจารณากำลังรอทนายรับโทรศัพท์ อานนท์ถามผู้พิพากษาว่าทำไมจึงต้องรีบร้อนไต่สวนภายในวันนี้ ผู้พิพากษาบอกว่ามีภาระงานจำนวนมากที่ต้องจัดการ หากเป็นไปได้ก็อยากจะไต่สวนให้เสร็จสิ้นภายในวันนี้ตามที่ได้รับมอบหมายมาให้เป็นผู้ไต่สวน โดยรายละเอียดที่จำเป็นต้องไต่สวนนั้นมีเพียงข้อความในย่อหน้าที่สองของคำร้อง
.
จากนั้นศาลอ่านคำร้องข้อกล่าวหาคดีละเมิดอำนาจศาลให้ฟัง โดยบอกว่าประเด็นอยู่ที่อานนท์ได้มีพฤติการณ์ถอดเสื้อในศาลหรือไม่ และทำไปเพื่ออะไร ในเอกสารคดีกล่าวว่าเป็นการใช้กิริยาในทางที่ไม่สงบเรียบร้อยไม่เคารพการพิจารณาคดี ในห้องพิจารณาคดีเมื่อวันที่ 27 พ.ย. 2567 ซึ่งเป็นนัดสืบพยานโจทก์คดีมาตรา 112 กรณีปราศรัยในการชุมนุมม็อบแฮร์รี่ พอตเตอร์ เมื่อวันที่ 3 ส.ค. 2563
.
เอกสารคำกล่าวหา ลงวันที่ 20 ธ.ค. 2567 มี สุธิศา อินทปัญสกุล ผู้อำนวยการสำนักอำนวยการประจำศาลอาญา รับมอบอำนาจ เป็นผู้กล่าวหา ระบุว่า เมื่อวันที่ 27 พ.ย. 2567 เวลากลางวัน อานนท์ นำภา ผู้ถูกกล่าวหา ได้มาศาลเพื่อสืบพยานโจทก์และจำเลย ศาลได้เรียกคู่ความในบัลลังก์ คู่ความทุกฝ่ายมาศาล และศาลให้พยานสาบานตน แต่จำเลยแถลงคัดค้านว่าเอกสารที่จำเลยขอให้ศาลเรียก ยังไม่ได้มาประกอบในการถามค้านและยังไม่ได้เอกสารอื่นตามหลักฐาน ศาลแจ้งว่า กรณีเอกสารดังกล่าวเป็นการขัดต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 6 ฝ่ายจำเลยยืนยันว่าเอกสารไม่ขัดตามรัฐธรรมนูญและขอให้ศาลเรียกเอกสารดังกล่าวมา ศาลมีคำสั่งไม่อนุญาต
.
เมื่อศาลได้มีคำสั่งดังกล่าวแล้ว ผู้ถูกกล่าวหาได้ประพฤติตนไม่เรียบร้อยในห้องพิจารณาคดี กล่าวคือ ผู้ถูกกล่าวหาได้ถอดเสื้อ ซึ่งการกระทำลักษณะดังกล่าว ศาลเคยได้ปรามจำเลยในการถอดเสื้อครั้งก่อนแล้ว แต่ครั้งนี้ยังกระทำอีก พฤติกรรมของผู้ถูกกล่าวหาเป็นการใช้กริยาในทางที่ก่อให้เกิดความไม่สงบเรียบร้อย ก่อความรำคาญหรือกระทำในลักษณะที่เป็นการยั่งยุ จูงใจ สนับสนุนใด ๆ ในการกระทำดังกล่าวในห้องพิจารณาคดี ซึ่งก่อความวุ่นวายเป็นการแสดงตนไม่เรียบร้อยในศาลและไม่เคารพในการพิจารณาคดี
.
การกระทำของผู้ถูกกล่าวหาเป็นการประพฤติตนไม่เรียบร้อยในบริเวณศาลและกระทำการฝ่าฝืนข้อกำหนดของศาลอาญาว่าด้วยการรักษาความสงบเรียบร้อยในบริเวณศาลอาญา พ.ศ. 2564 ฉบับลงวันที่ 17 มี.ค. 2564 ผิดฐานละเมิดอำนาจศาล
.
เอกสารยังได้ระบุคำขอท้ายคำกล่าวหา ว่าการกระทำข้างต้นเป็น อันเป็นความผิดต่อกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตร 30,31,33 ประกอบประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 15,180
.
ศาลกล่าวว่าประเด็นอยู่ที่แค่ว่าคุณได้ถอดเสื้อจริงหรือไม่ อานนท์บอกว่าผมไม่ขอตอบจนกว่าจะมีทนายความในกระบวนการพิจารณานี้ ศาลกล่าวว่า ตอนนี้ต่างคนต่างก็ต้องทำหน้าที่ของตนเอง อานนท์แค่ตอบว่าได้ถอดเสื้อหรือไม่ เนื่องจากในวันดังกล่าวผู้พิพากษาเจ้าของสำนวนคดีนั้นก็ได้ห้ามปรามแล้วว่าอย่าทำ อานนท์ย้ำอีกครั้งว่าขอไม่ตอบถ้ายังไม่มีทนายความ หากมีทนายความมาแล้วจะตอบท่านผู้พิพากษาตามความจริงทุกอย่าง และแจกแจงเหตุผลโดยละเอียดถึงสาเหตุที่กระทำด้วย
.
อานนท์กล่าวว่าผมตั้งข้อสงสัยว่าทำไมต้องรีบเบิกตัวมาโดยที่ไม่มีการแจ้งเรื่องล่วงหน้า แล้วยังจะไม่ให้มีทนายความอีก ศาลบอกว่าอย่าพึ่งอคติ ศาลไม่ได้ตั้งธงมา เป็นการชวนคุยเฉย ๆ กระบวนการยังไม่ได้เริ่ม
.
อานนท์บอกว่าหน้าที่ของเขาในวันนั้นคือการแสดงออกว่ากระบวนการยุติธรรมไม่ยุติธรรม ต่อให้ติดคุกเพิ่มอีกก็รู้สึกว่าคุ้ม ในความความคิดของเขา ผู้พิพากษาในคดีนั้นมีอคติในการตัดสินคดี และยังตัดสินผิดในข้อกฎหมายอีกด้วย เขารู้สึกว่าผู้พิพากษาควรต้องเป็นเหมือนพระพรหม เรื่องรัก โลภ โกรธ หลง ต้องแยกให้ออกจากเนื้อหาในคดีความ ควรสงบนิ่งและควบคุมอารมณ์ได้ เชื่อว่าผู้พิพากษาที่ตั้งเรื่องละเมิดอำนาจศาลในวันนั้นมีอารมณ์เข้ามาเกี่ยวข้องและถ้าเปิดดูในคลิปวิดีโอวันดังกล่าวทุกท่านก็จะทราบ
.
อานนท์ยังบอกต่อไปว่าหากจะเริ่มกระบวนการพิจารณา เขาประสงค์ที่จะนำพยานเข้าสืบโดยเป็นพยานที่อยู่ในห้องพิจารณาในวันนั้น จากนั้นศาลได้บอกให้อานนท์หันหลังไปดูว่ามวลชนที่มาในวันนี้ มีใครอยู่ในห้องพิจารณาวันนั้นหรือไม่ จะได้นำเข้ามาเป็นพยาน ประชาชนทุกคนที่อยู่ในห้องพิจารณาต่างก็ตอบศาลว่าจำไม่ได้ว่าวันนั้นได้อยู่ในห้องหรือไม่ บ้างบอกว่าวันนั้นตนได้ไปร่วมสังเกตการณ์ในคดีดังกล่าวแต่ไม่ได้เข้าห้องพิจารณา เนื่องจากมีการสั่งพิจารณาลับ
.
ระหว่างที่ผู้พิพากษาและอานนท์กำลังสนทนากัน เจ้าหน้าที่สามารถติดต่อทนายความได้แล้ว จึงมีการนั้นเปิดลำโพงของโทรศัพท์มือถือ โดยผู้พิพากษาได้พูดคุยกับทนายสอบถามว่าจะสามารถเดินทางมาที่ศาลในเวลานี้ได้หรือไม่ ทนายความกล่าวว่าในช่วงเช้าตนติดว่าความในคดีที่ศาลแขวงดุสิตและในช่วงบ่ายมีนัดรับทราบข้อกล่าวหาที่ต้องพาลูกความไปที่จังหวัดนนทบุรี ซึ่งเป็นการนัดไว้ก่อนแล้ว คงไม่สามารถเดินทางมาได้ทันทีในวันนี้ ขณะเดียวกันยังต้องการเวลาสำหรับการเตรียมต่อสู้คดี รวมถึงต้องการพูดคุยรายละเอียดเรื่องสิ่งที่ถูกกล่าวหากับอานนท์อีกด้วย
.
ผู้พิพากษายังคงพยายามซักถามทนายความและอานนท์ว่าต้องการจะนำใครขึ้นมาเป็นพยานบ้างและจะมีวันนัดใดที่ว่างตรงกันได้บ้าง ทนายจึงกล่าวว่า ตนไม่เข้าใจว่ากระบวนการที่ทำอยู่ตอนนี้คืออะไร เพราะถ้าตนยืนยันว่าวันนี้ต้องเลื่อนคดี ก็เพียงแต่ขอเลื่อนคดีเท่านั้น ยังไม่สามารถระบุรายละเอียดเรื่องอื่นได้ เพราะยังไม่เคยมีการเตรียมการกันมาก่อน เนื่องจากเพิ่งทราบละเอียดเมื่อสักครู่นี้เท่านั้น คงไม่สามารถหาข้อสรุปได้ภายในวันนี้ โดยเฉพาะผ่านการคุยโทรศัพท์
.
ศาลบอกว่าศาลจะอนุญาตให้อานนท์คุยโทรศัพท์เป็นการส่วนตัวกับทนายความโดยปิดลำโพงและยืนคุยในห้องพิจารณานี้ แต่ต้องการจะทราบจำนวนพยานที่จะมาไต่สวน และวันที่จะนัดไต่สวนได้อีกครั้ง เพื่อนำมาจัดทำรายงานกระบวนพิจารณาต่อไป
.
ขณะเดียวกัน มีประชาชนในห้องพิจารณายกโทรศัพท์ขึ้นมาใช้ เมื่อศาลเห็นจึงได้สั่งให้ตำรวจศาลเก็บโทรศัพท์ของทุกคนในห้องพิจารณา
.
หลังจากนั้นในเวลา 11:43 น. ผู้พิพากษาอีกท่านเข้ามาในห้องพิจารณา โดยศาลได้ปรึกษาหารือกันถึงวันนัดครั้งต่อไปและกล่าวว่าหากเป็นไปได้ก็อยากให้อยู่ในช่วงวันที่ 11 ก.พ. 2568
อย่างไรเมื่อดูตารางนัดคดีของทนายความ รวมถึงของอานนท์แล้ว ไม่สามารถไต่สวนในวันนั้นได้ โดยวันที่พอจะว่างตรงกันได้คือวันที่ 5 มี.ค. 2568 เมื่อตกลงกันได้แล้ว ศาลจึงบันทึกรายงานกระบวนพิจารณา แต่ได้เรียกเก็บบัตรประชาชนของทุกคนในห้องพิจารณา เพื่อบันทึกชื่อลงในรายงาน โดยทุกคนที่อยู่ในห้องพิจารณาขณะนั้นต้องลงชื่อในกระบวนพิจารณาด้วย
.
ผู้พิพากษาองค์คณะที่ไต่สวนในวันนี้ได้แก่ ธีรเดช กิ่งแก้วจิรกุล และ ธนฤทธิ์ โทวรรธนะ
.
.
อ่านบนเว็บไซต์: https://tlhr2014.com/archives/72447



https://www.facebook.com/photo/?fbid=1019835409986929&set=a.656922399611567
.....

เรื่องเกี่ยวข้อง
ศาลอาญาสั่งพิจารณาลับคดี 112 #ม็อบแฮร์รี่พอตเตอร์1 ด้าน “อานนท์” ถอดเสื้อประท้วง – ตั้งข้อรังเกียจศาล หลังศาลไม่ออกหมายเรียกพยานเอกสาร