วันจันทร์, ธันวาคม 19, 2565

มารู้จัก สุวินัย ภรณวลัย นักวิชาการผู้เคยถูกหลอกให้เชื่อเรื่องเปรต-ผู้อ้างเบื้องสูงรับบริจาคทำพิธีต่อชะตา


18 ธันวาคม 2022
บีบีซีไทย

ปมการเปิดบัญชีรับบริจาคเพื่อจะนำเงินไปทำพิธีต่อเพื่อให้หายจากอาการป่วยได้โดยมีการอ้างอิงถึงเบื้องสูงทำให้ชื่อของ "รองศาสตราจารย์ สุวินัย ภรณวลัย" เป็นที่พูดถึงอีกครั้ง

เรื่องนี้เกิดขึ้นภายหลังสำนักพระราชวัง เผยแพร่แถลงการณ์ ข่าวสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา ทรงพระประชวรหมดพระสติ ด้วยอาการทางพระหทัย ขณะทรงทำการฝึกสุนัขทรงเลี้ยง ณ สนามฝึกกองพันสุนัขทหาร อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา เมื่อวันที่ 15 ธ.ค.

ต่อมาในวันที่ 16 ธ.ค. รองศาสตราจารย์ สุวินัย ได้โพสต์ข้อความทางเฟซบุ๊กเปิดบัญชีรับบริจาคเพื่อทำพิธีต่อชะตาให้พระองค์ แต่ไม่นานนักเขาได้ประกาศปิดรับบริจาค อ้างว่ามีผู้ใหญ่ที่นับถือแนะนำมา โดยมียอดการรับบริจาครวมราว 7 แสนบาท

ยังไม่เข้าข่ายผิด ม.112

อย่างไรก็ตาม ด้วยกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในสังคมอย่างกว้างขวาง ทำให้ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้สั่งการให้ พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ตำรวจไซเบอร์) นำกำลังไปที่บ้านพักของ รองศาสตราจารย์ สุวินัย ภรณวลัย เพื่อเชิญตัวไปสอบปากคำที่ บก.สอท.


ตำรวจเชิญตัวชายแอบอ้างเบื้องสูง-เปิดรับบริจาค ไปสอบปากคำ

เบื้องต้นจากการสอบปากคำโดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ พบความผิด 3 ข้อหา ฉ้อโกงประชาชน, ความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ และ พ.ร.บ.เรี่ยไร แต่เจ้าตัวยอมรับสารภาพเพียง 2 ข้อหา ยืนยันไม่มีเจตนาฉ้อโกงประชาชน เพียงแค่ต้องการจะทำพิธีตามความเชื่อเท่านั้น ส่วนข้อหาตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ขณะนี้ยังไม่พบเข้าข่ายความผิดใด ๆ

ต่อมาวันนี้ (18 ธ.ค. ) นักวิชาการรายนี้ได้โพสต์ข้อความ ผ่านเฟซบุ๊ก ขอพระราชทานอภัยโทษเนื่องจากได้กระทำสิ่งที่มิบังควรอันทำให้ระคายเคืองเบื้องพระยุคลบาท

ผู้ทำพิธีทางจิตเพื่อบ้านเมืองแบบ "นักรบแห่งแสง"


จากข้อมูลบนเฟซบุ๊กของนักวิชาการรายนี้มีพฤติกรรมในลักษณะการทำพิธีทางจิตหลายครั้ง โดยระบุว่าเพื่อชาติบ้านเมือง

เช่น ข้อความที่เขาโพสต์เมื่อวันที่ 10 มิ.ย. เขาอธิบายว่า "ทำไมต้องทำพิธีทางจิตเพื่อบ้านเมืองครั้งที่ 5 ?"
  • พิธีทางจิตเพื่อบ้านเมืองครั้งที่ 1 จัดขึ้นเมื่อช่วงกลางเดือน ก.พ. 2562เพื่อเสริมดวงชะตาพลเอกประยุทธ์ให้ได้เป็นผู้นำประเทศต่อไปหลังการเลือกตั้งใหญ่ปี 2562 โดยเขาให้เหตุผลว่าต้องสนับสนุน "ลุงตู่" ให้เป็นนายกฯต่อ เพราะผมเชื่อมั่นว่าลุงตู่เหมาะสมที่สุดที่จะเป็นผู้นำประเทศในช่วงวิกฤตระดับหายนะโลกในปี 2563
  • พิธีทางจิตเพื่อบ้านเมืองครั้งที่ 2 เมื่อ 29 พ.ค. 2563 เพื่อชะลอและบรรเทาความรุนแรงของการระบาดของโควิด-19
  • พิธีทางจิตเพื่อบ้านเมืองครั้งที่ 3 มีขึ้นเมื่อ 19 ก.พ. 2564 เพื่อสยบ "ขบวนการล้มเจ้าของพวกสามนิ้ว" ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่มีเหล่า "นักรบแห่งแสง" จากทั่วประเทศมาร่วมส่งพลังจิตหนุนการทำพิธีทางจิตเพื่อบ้านเมืองด้วย
  • พิธีทางจิตเพื่อบ้านเมืองครั้งที่ 4 มีขึ้นวันที่ 19 ก.พ. 2565 เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศหลังหมดโควิดในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ตามคำทำนายที่แม่นยำมากอีกครั้งของเสด็จเตี่ยที่ลงมาบอกพวกผมในปี 2564
  • พิธีทางจิตเพื่อบ้านเมืองครั้งที่ 5 แบ่งเป็น 2 ครั้ง ช่วงแรกที่ 11 มิ.ย. ส่วนช่วงที่ 2 จะมีขึ้นในวันที่ 18 ก.พ. 2566 เพื่อให้ประเทศไทยรับผลกระทบจากสงครามใหญ่ที่เป็นปฐมบทของสงครามโลกครั้งที่สามให้น้อยที่สุดเท่าที่จะน้อยได้
เคยถูกหลอกหลวงให้เชื่อเรื่อง ผีเปรต อาจารย์กู้

ย้อนกลับไปเมื่อ 21 ปีที่แล้ว ชื่อของ ดร. สุวินัย ปรากฏเป็นข่าวดัง เนื่องจากความสนใจส่วนตัวเกี่ยวกับเรื่องราวความลึกลับที่ทำให้เขาเจอกับเหตุการณ์อาจารย์กู้ หรือ นายกิตติ ปภัสโรบล และกรณีเปรตคำชะโนด ที่ อ.บ้านดุง จ.อุดรธานี ซึ่งในขณะนั้นเขาถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก หลังจากที่เขาออกมาปกป้องอาจารย์กู้ที่แสดงฤทธิ์แบบโลกียะได้จริงในหลายๆ ครั้งที่ตัวเขาได้ประสบกับตาด้วยตัวเอง


ข้อความทางเฟซบุ๊กเปิดบัญชีรับบริจาคเพื่อทำ "พิธีต่อชะตาให้พระองค์ภา"

ต่อมาเขาได้ประกาศต่อสาธารณะว่า อาจารย์กู้ไม่ได้เป็นครูของเขาอีกต่อไป หลังจากค้นพบความจริงว่า อาจารย์กู้หลอกลวง โกหกเขา และเป็น 18 มงกุฏ

นอกจากนี้ เขายังใช้บทเรียนดังกล่าวเป็นตัวอย่างแนะนำผ่านเฟซบุ๊กเมื่อวันที่ 20 มิ.ย. 2559 ต่อนายบุญชัย เบญจรงคกุล หลังจากที่มหาเศรษฐีรายนี้ออกมาปกป้องพระธัมมชโย ในฐานะลูกศิษย์ ธรรมกาย ที่ออกมาปลุกระดมมวลชนธรรมกายให้มาช่วยหลวงพ่อ

รศ.ดร. สุวินัย มีอายุ 66 ปี เคยดำรงตำแหน่งอาจารย์ประจำคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ จบการศึกษาระดับปริญญาตรี โท และเอก จากมหาวิทยาลัยเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น ในปี พ.ศ. 2527 ได้รับปริญญาเอก รอมบุนฮาคาเซะ จากมหาวิทยาลัยโฮเช ประเทศญี่ปุ่น

ปัจจุบันเขาเป็นประธานยุทธศาสตร์วิชาการ สถาบันทิศทางไทย