วันศุกร์, ธันวาคม 30, 2565

เสรีภาพไทยอยู่ระดับเดียวกับ “อิรัก” สลิ่มตบมือสิรออะไร


พรรคก้าวไกล - Move Forward Party
14h

[ เสรีภาพไทยอยู่ระดับเดียวกับ “อิรัก” ]
.
Freedom House เป็นองค์กรสากลที่ทำการศึกษาเกี่ยวกับความเป็นไปของเสรีภาพบนโลกและในแต่ละประเทศ โดยจะมีการออกรายงานลำดับคะแนนของแต่ละประเทศในทุกๆ ปี
.
สำหรับประเทศไทยในปี 2565 ที่ผ่านมา Freedom House ได้ทำการประเมินและสรุปผลคะแนนออกมาแล้ว ปรากฏว่าได้รับการจัดลำดับอยู่ในหมวดประเทศ “ไม่เสรี” ซึ่งเป็นระดับที่ต่ำที่สุด โดยได้คะแนนเพียง 29/100 คะแนน ปรับลงจากปีที่แล้วที่ 30/100 ลง 1 คะแนน เทียบเท่ากับประเทศอิรัก ซึ่งเป็นการบ่งชี้ว่าสถานะเสรีภาพของประเทศไทยไม่ได้ดีขึ้น
.
จากรายงานดังกล่าว เราอาจสรุปถึงเหตุผลการจัดลำดับคะแนน ออกเป็นสองประเด็นใหญ่ๆ ได้ดังนี้
.
1) เหตุผลจากรัฐธรรมนูญ ที่ส่งผลโดยตรงให้การได้มาซึ่งรัฐบาล รวมทั้งระบบ “ผู้แทน” ที่เป็นอยู่ของประเทศไทย ไม่ได้มาจากการเลือกตั้งที่เสรีและเป็นธรรม การดำรงอยู่ของ 250 ส.ว. ที่มาจากการแต่งตั้งโดย คสช. ทำให้การออกเสียงเลือกตั้งของประชาชนไม่ส่งผลต่อการจัดตั้งรัฐบาลเท่าที่ควรจะเป็น
.
2) การบังคับใช้อำนาจรัฐจัดการฝ่ายตรงข้ามทางการเมือง ทั้งในและนอกสภา โดยมีทั้งการยุบพรรคการเมืองและการดำเนินคดีต่อแกนนำพรรคฝ่ายตรงข้ามกับผู้มีอำนาจอย่างเป็นระบบนับตั้งแต่การเลือกตั้งในปี 2562 ขณะเดียวกันประชาชนทั่วไปก็ได้รับผลกระทบจากการออก พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ภายใต้ข้องอ้างเพื่อคุมสถานการณ์โควิด ที่ตามมาด้วยการจำกัดสิทธิเสรีภาพของสื่อมวลชนและประชาชนในการนำเสนอข่าวสาร การรวมตัว และการแสดงความคิดเห็น
.
การชุมนุมของเยาวชนคนรุ่นใหม่ที่ก่อตัวขึ้นตั้งแต่ปี 2563 ก็ถูกปราบปรามอย่างรุนแรง ทั้งโดยการใช้กฎหมายในการจับกุม ควบคุมตัว ดำเนินคดี การปิดกั้นสื่อมวลชน การจำกัดสิทธิเสรีภาพทางวิชาการ และที่สำคัญ คือการบังคับใช้กฎหมายอาญา มาตรา 112 ที่มีการดำเนินคดีต่อประชาชนอย่างกว้างขวางถึง 151 รายภายในเวลาเพียงปีเดียว และยังมีการพิพากษาจำคุกในกรณีของ อัญชัญ ปรีเลิศ เป็นเวลาถึง 87 ปี (ต่อมาได้ลดเหลือ 43 ปี 6 เดือน) ซึ่งเป็นแสดงถึงการจำกัดเสรีภาพในการแสดงออกอย่างรุนแรง
.
นับตั้งแต่การรัฐประหารในปี 2557 มาจนถึงการเลือกตั้งในปี 2562 จวบจนปัจจุบัน การจัดลำดับประเทศไทยในด้านเสรีภาพตกต่ำมาโดยตลอด และคะแนนก็มีแต่จะตกลงเรื่อยๆ โดยที่การเลือกตั้งและการเมืองในระบบรัฐสภาไม่ได้ช่วยให้สถานการณ์ดีขึ้น เมื่อรัฐธรรมนูญ โครงสร้างทางการเมือง และการใช้อำนาจ ล้วนยังคงดำเนินไปในทิศทางเดิมที่ถูกกำหนดขึ้นมาโดยคณะรัฐประหาร
.
และนี่คือเหตุผลที่พรรคก้าวไกลได้เสนอนโยบายด้านเสรีภาพ ที่จะครอบคลุมถึงต้นตอของปัญหาทั้งสองประเด็น นั่นคือโครงสร้างทางการเมืองที่บิดเบี้ยว และการใช้อำนาจรัฐที่ไม่เห็นหัวประชาชน ประกอบด้วย
.
- ปฏิรูปกองทัพไม่ให้เข้ามามีอำนาจทางการเมือง ด้วยการลดขนาดกองทัพ ลดนายพล ยกเลิกเกณฑ์ทหาร ห้ามนายพลเกษียณไม่เกิน 7 ปี เป็นรัฐมนตรี
- แก้กฎหมายมาตรา 112, 116, พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ เพื่อไม่ให้กฎหมายถูกใช้เป็นเครื่องมือกำจัดคนเห็นต่าง
- ลงนาม ICC ศาลอาญาระหว่างประเทศ เพื่อให้ทุกอาชญากรรมต่อเสรีภาพของประชาชน ต้องถูกนำมาลงโทษ
- นิรโทษกรรมคดีการเมืองทั้งหมดรวมทั้งมาตรา 112 เพื่อคืนความยุติธรรมให้แก่ผู้เห็นต่างทางการเมือง
- เขียนรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับ ไม่ให้เป็นรัฐธรรมนูญเพื่อการสืบทอดอำนาจและจำกัดสิทธิของประชาชน แต่ให้เป็นเครื่องมือในการปกป้องสิทธิเสรีภาพของประชาชนอย่างแท้จริง
- ปฏิรูปศาล ให้ยึดโยงกับประชาชน ถูกตรวจสอบได้ ไม่ใช่เป็นเครื่องมือของผู้มีอำนาจในการกลั่นแกล้งผู้เห็นต่าง
.
การมีสถานะด้านเสรีภาพอยู่ในระดับเดียวกับประเทศเผด็จการหลายๆ ประเทศ ไม่ควรเป็นเรื่องปกติในประเทศไทย และตราบที่ประเทศนี้ยังชื่อว่า “ไทย” ที่หมายถึงเสรี การเป็นประเทศที่ไม่เสรีคือความน่าอับอาย คือความป่าเถื่อน ไม่ใช่เอกลักษณ์ของชาติที่เราควรจะภาคภูมิใจ
.
ถึงเวลาแล้วที่การเลือกตั้งปีหน้าจะเป็นจุดเริ่มต้นของการฟื้นฟูสถานะด้านเสรีภาพของประเทศไทย พรรคก้าวไกลมีนโยบายที่จะแก้ปัญหาความไร้เสรีภาพของประเทศทั้งระบบอย่างแท้จริง โดยไม่หลับตาข้างเดียวแล้วมองข้ามต้นตอที่สำคัญของปัญหาไป
.
#ต้องก้าวไกล #การเมืองไทยก้าวหน้า
.....
พรรคก้าวไกล - Move Forward Party
สามารถอ่านรายงานเกี่ยวกับประเทศไทยโดยละเอียดได้ที่นี่ : https://freedomhouse.org/country/thailand/freedom-world/2022