วันศุกร์, ธันวาคม 30, 2565

"ใครฆ่าแตงโม" ขับเคลื่อนด้วย "สารพัดความเป็นไปได้" ข่าว Ridiculous แห่งปี

https://www.facebook.com/baitongpost/posts/5848670188548095
Atukkit Sawangsuk
19h

ข่าวแห่งปี
..................
สำหรับผมคือข่าว "ใครฆ่าแตงโม"
มันสะท้อนสังคมไทยยุค Disrupt ได้เกือบจะสมบูรณ์แบบ
อิทธิพลของสื่อ ที่ไม่ใช่สื่อแบบเดิม แต่เป็นสื่อที่เข้าถึงคนวงกว้างอย่างรวดเร็วและดึงคนเกือบทั้งสังคมเข้ามาเป็น "ลูกขุนออนไลน์"
ตั้งวงตั้งตนวิเคราะห์วิแคะกันมากมาย ทั้งทนาย ผู้เชี่ยวชาญ กูรู หมอดู หมอผี ไลฟ์โค้ช ได้แสงถ้วนหน้า
ประชาชนแทบทุกคน "มีส่วนร่วม" มีอารมณ์ร่วม กับคดีแตงโม (ประชาธิปไตยแบบมีส่วนร่วม?)
สื่ิอตั้งแต่โทรทัศน์ หนังสือพิมพ์ เว็บไซต์ เฟซบุ๊กไลฟ์ ยูทูบเบอร์ ทำยอดคลิกยอดวิว เป็นล้านๆ
มันมีทั้งความไม่เชื่อมั่นต่อรัฐ ไม่เชื่อมั่นตำรวจ กระบวนการยุติธรรม
มันมีทั้งความรู้สึกเหลื่อมล้ำ แบบคนรวยไม่ติดคุก ฯลฯ
:
แต่ทั้งหมดนั้นแม่- Ridiculous
ด้วยพยานหลักฐาน ทั้งโดยตรง-แวดล้อม ความเป็นไปได้ ความน่าจะเป็น
มันก็แค่คดีขับเรือประมาททำให้ผู้โดยสารตกน้ำตาย (โดยอาจจะเมาทั้งลำ)
มันมีแรงจูงใจอะไรให้ใครฆ่าแตงโม
แต่การเอาคน 5 คนบนเรือมาซักไซ้ต่อหน้า "ลูกขุนออนไลน์" ทั้งประเทศ
มันทำให้บานปลาย เกิดความเชื่อไม่เชื่อ
ความไม่เชื่อมั่นทำให้คนหันไปเชื่อทฤษฎี Conspiracy ทั้งที่ไม่มีเหตุผลไม่มีแรงจูงใจ
:
คดีแตงโมนั้นเอาไปทำวิทยานิพนธ์ได้แทบทุกด้าน
นิติศาสตร์ สังคมศาสตร์ สังคมวิทยามานุษยวิทยา จิตวิทยาสังคม
นิเทศศาสตร์ อิทธิพลของสื่อใหม่ การเสพสื่อของประชาชน การมีส่วนร่วม
นักข่าวบันเทิงทำข่าวอาชญากรรม นักข่าวอาชญากรรมทำข่าวบันเทิง
จนกลายเป็นมหรพ Circus "ทวงความยุติธรรมให้แตงโม"
บนความ Ridiculous แต่มองข้ามความอยุติธรรมอีกมากในสังคม
:
จำได้ไหม ตอนม็อบเอเปก พายุ ทะลุฟ้า โดนยิงกระสุนยางตาบอด
สังคมดรามาสนใจข่าวอะไรมากที่สุด ผัวถูกลอตเตอรี่เมียเชิดหนีไปกับชู้
เข้าใจละว่ามันสะเทือนใจ เห็นใจ
แต่มันก็สะท้อนสังคมออนไลน์ในแง่ที่เสพความสะเทือนใจวูบวาบฉาบฉวย
หรือบางครั้งก็พลิกไปพลิกมา แบบคดีลุงพล
ที่สื่อถึงขั้นลงพื้นที่ถ่ายทอดสด ชักชวนคนเข้าไปพิพากษาตั้่งแต่ต้น
แถมคนส่วนหนึ่งก็เชื่อข่าวเฟคทางไลน์
เช่นเรือล่ม "นายสั่งไม่ให้เรือจม" ต้องไปจัดงานให้ได้ ใครมันจะสั่งขนาดนั้น
แต่กองทัพเรือเป็นจำเลยสังคมไปแล้วไง พอมีคนส่งไลน์อ้างเป็นทหารในเรือ คนส่วนใหญ่ก็เชื่อ
:
พูดกันจริงๆ ทุกสังคมมันก็มีซีกที่ไร้วุฒิภาวะ
การสื่อสารออนไลน์ที่ประชาชนทุกคนเป็นสื่อได้ มันทลายการปิดกั้น เปิดโลกแห่งความรับรู้ วิพากษ์วิจารณ์
แต่มันก็ไปเชื่อมต่อความไร้สมองไร้วุฒิภาวะด้วยเช่นกัน
ไม่งั้นทรัมป์คงไม่สามารถปลุกคนให้เชื่อว่าถูกโกงเลือกตั้ง บุกอาคารรัฐสภา
หรือเชื่อมต่อพวกเชื่อ conspiracy โทษ CIA อยู่เบื้องหลังรัสเซียบุกยูเครนเพราะต้องการค้าอาวุธ ต้องการทุบค่าเงิน บลาๆๆ
สังคมไทยเนี่้ยแม่-ยิ่งพิการอยู่แล้ว ระบบการศึกษาไม่เอื้อให้คนรู้จักคิดวิเคราะห์
พวกจบปริญญาโทปริญญาเอกจำนวนมาก จึงเชื่อศาสดาโกเต๊กซ์ไม่ลืมหูลืมตา เชื่อฟอร์เวิร์ดเมล์ ทักษิณจาบจ้วง ฯลฯ
:
ข่าวแตงโม เป็นข่าวแห่งปี มันยังสะท้อน Ridiculous ในแง่ที่มีข่าวอื่นๆมากมาย ที่สำคัญต่อปากท้องตัวเองด้วยซ้ำ แต่คนสนใจน้อยกว่า
เช่นรัสเซียบุกยูเครน ของแพง น้ำมันขึ้น วิกฤตอาหาร วิกฤติพลังงาน
หรือข่าวโศกนาฏกรรมที่หนองบัวลำภู ก็เป็นข่าวใหญ่ไม่เท่าแตงโม
เพราะคนตามข่าวดารามากกว่าชีวิตจริง ดาราจะรักกันเลิกกันก็ลุ้นเอาใจช่วยยิ่งกว่าข่าวขึ้นค่าแรง
:
ผมฝากความหวังกับคนรุ่นใหม่ที่ตื่นรู้
แต่ไม่หวังอะไรมากกับสังคมไทย