วันจันทร์, ธันวาคม 26, 2565

หนี้บุญคุณไม่เกี่ยว ต่างคนต่างทำหน้าที่ เรื่องเล่าจากเท็กซัส คนอเมริกันนับล้านชีวิตต้องเผชิญกับอากาศหนาวเข้ากระดูก พายุหิมะถล่ม ไฟฟ้าดับ จากพายุ Bomb Cyclone ก่อนคริสมาสต์


Danai Songsangcharntara

ถ้าเปรียบ เท็กซัส เป็นสาวงาม สาวงามคนนี้น่าจะเป็นสาวที่ค่อนช้างจะเจ้าอารมณ์ วูบๆวาบๆเดาลำบาก แต่เธอก็มีความบึกบึน มีเสน่ห์ ชวนให้ผู้คนไหลหลงได้มาก มากพอๆหรืออาจจะมากกว่าสาวหลายๆคน ในจำนวนห้าสิบที่เรียงรายอยู่ เพราะเธอมีแรงดึงดูดผู้คนให้เข้ามาหาเสน่ห์ของเธอไม่น้อยเลย
ผมอยู่ที่เท็กซัสมาตั้งแต่มาอยู่อเมริกา แต่ก็รู้จักรัฐอื่นๆมากพอสมควร จากการไปเยี่ยมเยือนบ้าง จากการพูดคุยกับคนที่อยู่ในต่างรัฐ และที่อพยพเขามา ในระยะหลังที่มีจำนวนมากขึนเกือบทุกปี
แต่ความแปรปรวนของเท็กซัส แม้ว่าสภาวะอากาศจะมีผลปรวนแปรอยู่บ้าง แต่ที่น่าจะคงเส้นคงวาคือ เราคาดเดาอากาศที่จะแปรเปลี่ยนได้ยาก
อย่างเช่นเมื่อสองปีก่อน อยู่ๆอากาศเย็นลงอย่างต่อเนื่อง ทังๆที่ก่อนหน้านั้น เมื่อเข้าเขตฤดูหนาว แต่อุณหภูมิไม่ต่ำมาก จนผู้คนคิดว่า สภาวะโลกร้อน คงทำให้เราไม่หนาวอย่างที่เคย แต่อยู่ๆอุณหภูมิก็ต่ำลง ต่ำลง หิมะปกคลุมติดต่อกันอาทิตย์กว่า
ปีที่แล้ว อากาศฤดูหนาว ไม่หนาวมากนัก มีหิมะตกให้ดูพอเป็นพิธี ว่านี่คือหน้าหนาวนะ เดี๋ยวจะลืมไปเสีย
ปีนี้ ผมกระหยิ่มในใจ ว่าคงจะเหมือนปีก่อน เพราะผ่านฤดูใบไม้ร่วง เข้าหนาว แต่อากาศก็ยังอุ่น ต้นไม้ที่ผมเคลื่อนย้ายหนีความเย็นในห้องต่างๆทำท่าจะยิ้มแย้ม ใบสดชื่นเขียว
บางทีฤดูใบไม้ผลิที่จะมาถึง ผมคงมีต้นไม้ที่จะเริ่มงานสวนครัวของผม ที่ไม่ต้องรอนานๆ จากต้นกล้ามาสู่การให้ผลผลิต
และแล้วเท็กซัสก็แสดงความเป็นคนเจ้าอารมณ์ออกมาอีกครั้ง ด้วยการหอบลมแสนเย็นยะเยือกมากระจายไปทั่ว เมื่อวานนี้ลงต่ำประมาณ -๑๒องศาซี พร้อมๆกับกระอสลมแรง แรงจนใบไม้จากที่ต่างๆปลิวกระจัดกระจายไปทั่ว
เจ้าเครื่อง ทรานสฟอร์เมอร์ ที่วางอยู่หบ้าบ้าน ซึ่งจำหน้าที่จ่ายไปให้กับบ้านไท่นอยกว่าสิบหลัง หยุดทำงานเฉยๆ
แน่นอนว่า ช่วงเวลานันเป็นช่วงเวลาที่เราตองการพลังไฟฟ้าอย่างที่สุด
เจ้าหน้าที่ของบริษัท Encore มาถึงเราอย่างรวดเร็ว เพราะระบบที่ควบคุม เมื่อมิเตอรืไม่ทำงาน ก็จะส่งสัญญาณไปที่หน่วยควบคุม และหาสาเหตุได้ืัทันที
แต่..ปัญหาอยู่ที่ว่า เราเคยแจ้งให้เจาหน้าที่ ออกมาดูทรานสฟอร์เมอร์แล้วครั้งหนึ่ง เพราะเห็นน้ำมันเครื่องซึมบนดินรอบๆเคร่ือง แต่เจ้าหนาที่ที่มาดูบอกว่า ไม่น่าเป็นห่วง และยังไม่ทำอะไร ซึ่งเราเองก็พอจะเข้าใจได้ ว่าเครื่องทรานสฟอร์เมอร์บวกแรงงาน คงเป็นเงินไม่น้อย ทางบริษัท ถ้าไม่จำเป็นจริง คงจะไม่ยอมเสียเงินง่ายๆ
ที่เราเสียอารมณืเอามากๆ ก็คือเราต้องมารับกรรม รับความโหดของอากาศ ในยามที่เรามีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีไฟฟ้า
ทันทีที่เจาหน้าที่ที่มาพร้อมกันสองคันรถ คันหนึ่งเป็นรถเครนที่ยกของหนักได้
ทันทีที่มาถึง สองคนลงมือขุดดินดดยรอบ ผมรีบเข้าไปเจรจาด้วยอารมณืที่ฉุนๆ แต่่ไม่แสดงออก
"ขออภัยที่คุณมีปัญหา แต่เราจะพยายามทำอย่างรวดเร็วที่สุด เราต้องเปลี่ยนทรานสฟอร์เมอร์ ใช้เวลาประมาณสามชั่วโมง (ตอนนั้นประมาณ หาโมงเย็น) อาศแปรปรวนมาก บ้านที่มีปัญหาอย่างคุณ หลายจุดด้วยกัน เราพยายามเร่งมืออยู่"
ผมรีบหนีเขาบ้าน หลังจากรู้ความ เพราะทนความหนาวที่ถูกกระหน่ำด้วยแรงลมไม่ไหว
อยู่ๆ มองออกไป บรรดาพนักงานที่กำลังทำงานหายไปหมด ผมโทรไปที่ศูนย์ คอมพ์ตอบว่า น่าจะมีไฟฟาใช้ประมาณสองทุ่ม
สองทุ่มผ่านไป โทรถามอีก ตอบว่าประมาณห้าทุ่ม
สิบโมง โทรถาม คราวนี้กลายเปนตีหนึ่ง
อ้าว,,เฮ้ย..แล้งชั้นจะนอนกันยังไงล่ะ
อากาศที่ถูกกระแสลมแรงกระแทกตัวบาน ตามกระจก ตามประตู เฉพาะอย่างยิ่ง ห้องที่ผมนอนมีประตูเลื่อ ออกไปสู่นอกชาน เพื่อชมเลคหลังบ้าน และบ้านของเราเป็นบ้านสองชั้น โอย....คราวนี้สิ่งที่เราชอบๆกลับกลายเป็นสิ่งที่ทิ่มแทงเราอย่างสาหัส
กระแสลมหวีดหวิว กระแทกบ้านอย่างไม่ปรานี พร้อมๆกับความหนาวเยนแผ่ซ่านไปทั่วบ้าน
เราสองคนตา ยาย สวมเสื้อผ้าหนาหลายชั้น พร้อมทั้งถุงมือ ถุงเท้า และหมวก จุดเทียนไว้ตามจุดที่สำคัญ แล้วมานั่งนับเวลาที่ผ่านไปอย่างเชื่อช้า
ไม่ได้การ ถ้าเราปล่อยใจจดจ่อกับเวลา แบกความกังวลอย่างนี้ เวลายิ่งจะช้ามากขึน
เราหันไปนั่งสมาธิ เพื่อเอาใจออกจากความกังวล
ครึ่งชั่วโมงก็แล้ว นอนดีกว่ากระมัง
เราไม่ทราบว่าเวลานั้นอุณหภูมิจะต่ำสักเท่าไหร่ เพราไม่มีเครื่องมีอะไรที่จะช่วย แต่มันเย็น เย็น เย็นมากกก!!!
นอนดีกว่า อย่ารอเลย ต่างคนต่างแยกกันไปนอน
ผมนอนฟังเสียงอันเกรี้ยวกราดของลมที่ถาโถมผ่านเลค หอบเอาความเย็นจากห้วงน้ำ แล้วกระแทกห้องที่ผมนอน จนอดคิดถึงนิทานหมูสามตัวที่สร้างบ้านจากวัตดุที่ต่างกันไม่ได้
ตั้งจิต นอนดีกว่า พักใหญ่เริ่มฝันถึง ครั้งที่ยังทำงานบริษัท คอมพลีสชั่นเครื่องบิน KC Aviations อดีตที่ผ่านมาแล้ว ที่ๆผมทำงานนานถึงยี่สิบปี หน้าหนาวทีไร จอดรำที่ลานจอดรถ เดินข้ามมาแฮงก้าที่ทำงาน ความหนาวเย็นกระทบจมูกจนน้ำหมูกไหล กว่าจะเข้าแฮงก้า จมูกแดงและเย็นเฉียบ
สะดุ้งตื่น อ้าว มือกำลังจับจมูกที่เย็นเฉียบ สงสารจมูกจริงๆ ไม่รู้จำทำอย่างไรที่จะให้ความอบอุ่มแก่อวัยวะส่วนนี้ นอกจากถอกถุงมือ ใช้มือที่อุ่นกว่า คลุมจมุก ให้ความอุ่น เป็นคราวๆ
สิบโมง แสงไฟสาดเข้ามาที่บ้าน เรามองผ่านไป พบว่าคราวนี้ ขบวนคาราวานของพนักงานไฟฟ้า แห่กันมาห้าคัน สองคันเป็นรถที่มีเครนอยุ๋ข้างหลัง ผู้คนเดินกวักไขว่ ทุกคนสวมเสื้อกางเกงหนาเต๊อะ บางคนยืนกระโดดอยู่กับที่ คงจะพยายามสร้างความอบอุ่นให้ตัวเอง
กลับมานอนดีกว่า คราวนี้ผมย้ายไปที่ห้องพระ หนีลมที่มากระทบประตูกระจก
ห้องนี้อุ่นกว่านิดหน่อย แต่จมูกที่เย็นเฉียบ มันทรมานจริงๆ
ฝันอีกแล้ว คราวนี้ฝันถึงช่วงเวลาที่เราเดินเท้า พิชิตดอยอินทนนท์ เพื่อนๆที่ร่วมทาง มีพี่เอสนิติะาร พี่สงวน พี่สถาพร พี่โสรัช และภิญโญเพื่อแสนสนิท
ในฝันย้อนกลับไปที่ปางสมเด็จ เชิงอดยอินทนนท์ ที่ลมแรงแทรกผ่านช่วงต่อหลังคาและจั่ว ดังราวผีร้องร่ำ ผมสวดมนต์อุตหลุด บทโน้น ไปบทนี้ ไล่ผีที่ดาหน้ากันเข้ามา สวดทีก็หายไปที แล้วกลุ่มใหม่ก็แห่กันเข้ามาอีก
แสงสว่างพรึบสาดไปทั่วบาน ตามห้องที่ผมเปิดไฟทิงไว้ แสดงว่าไฟกลับมาหาเราอีกครั้ง
ผมรีบเปิดประตูตะโกนถามว่า่เสร็จงานแล้วใช่ไหม
มีเสียงตอบมาทันทีว่าเสร็จแล้ว ตอไปนี้เราคงจะไม่มีปัญหาอีกต่อไปนานทีเดียว ขอโทาอย่างมาก ในความไม่สะดวก ( แต่ไม่ได้บอกว่า ความจริงพวกกูก้หนาวจะตายห่ะอยู่แล้ว)
ผมตอบขอบคุณ ปิดบ้าน มองไปที่เทอร์โมสตัดท์ เวลานั้นในบ้าอุณหภูมิ ๔๘ดีกรี ก็ราวๆสิบกว่าดีกรีซี รู้สึกยินดีและทั้งขอบคุณและเห็นใจบรรดาพนักงานที่สุ้หนาวมาซ่อมให้เรา
ความยินดีที่ได้ไฟฟ้ากลับมา ปนกับความรู้สึกเห็นใจในการสู้หนาวของพนักงาน เป็นความปิติลึกๆอย่างหนึ่ง
เมื่อมาถึงจุดนี้ ก็อดพูดถึงอีตาลุงสองคน ที่ออกมาให้สัมภ่ษย์ในกรณีเรือรบหลวงสุโขทัยอัปปางไม่ได้
ความจริงลุงทั้งสองคนนี่ ถ้าจะยอมรับประเพณีของไทยที่ทั้งสองคนและอีกมากมายยึกเป็นเกราะอยู่ ผมก็ควรเป็นพี่
ฉนั้นก็ต่อไปนี้ผมกำลังคุยถึงน้องสองคนที่ค่อนข้างจะขัดตา
คนแรกที่เป็นผบ.ทร. ความจริงผมค่อนข้างจะเห็นใจท่าน ที่ออกมาบอกว่า แม้จะมีชูชีพครบทุกคน แต่ไม่ได้หมายความว่าทุกคนจะรอดชีวิต
อันนี้ท่านคงพูดตามลักษณะของทหาร คิอในสภาพอกากาศที่รุนแรงอย่างนั้น เมื่อลงน้ไป กระแสคลื่นก็คงพัดกระจัดกระจายไปหมด อันนี้ ถาเป็นนักการเมืองที่เจนสังเวียนและเปลี่ยนความคิดเปลี่ยนกลุ่ม คงมีวิธีบอกประชาชนเนียนๆนุ่มๆได้ไม่ยาก
กระนั้นผมอดคิดตามประสาคนที่ไม่ใช่ทหารเรือว่า ถ้าหากเรามีชูชีพครบตามจำนวนทหาร และที่ชูชีมีเชื่อพร้อมขอสับ ที่จะเหนี่ยวเข้าหากัน เป็นกลุ่มๆ การลอยคอในทะเลก็น่าจะง่ายต่อการค้นหา แม้ว่าบางคนจะต้องเสียชีวิต แต่ก็ยังอยู่ในกลุ่ม
สภาพที่ว่าคงไมยากที่จะจัดทำมิใช่หรือ
น้องอีกคน ผมบอกตรงๆว่า เป็นตัวอย่างที่ชัดเจนว่า ทหารเป็นนายกในระบบประชาธิปไตยไม่ได้ แม้ว่า จอมพลป. พิบูลย์สงคราม จะเป็นนายกที่จัดได้ว่า มีผลงานที่ยอมรับได้ แต่นั่นเป็นเพราะว่า ท่านร่วมกลุ่มทำการเปลี่ยนแปลงการปกครอง เพื่อความเป็นประชาธิปไตย าสำนึกของท่าน จึงเข้าใจในระบบ แม้ว่าท่านจะพยายามใช้ระบบทหารเข้ามาใช้ในการปกครองอยู่บ้างก็ตาม
แต่น้องตู่ของผม ไม่มีอะไรเลยที่แสดงให้เห็นว่า เธอเข้าใจคำว่าประชาธิปไตย
เริ่มต้นเข้ามาด้วยการยึดอำนาจ ทำลายรัฐธรรมนูญ และตามไง่ง่าผู้เห็นต่างอย่างหนักหน่วง(บ้าคลั่ง)
ไม่มีสังคมใดในโลก ที่จะไม่มีคนคิดแย้งกับรัฐบาล แม้แต่ในประเทศสังคมยิยมเผด็จการ ที่มีอานาจในการบริหารแบบรวมศูนย์
ความขัดแย้งทางความคิด ว่าไปแล้ว เป็นหนทางหนึ่ง ที่จะสร้างสิ่งใหม่ และสร้างความเจริญ ความสามัคคี ที่เกิดจากการใช้อำนาจและความกดดันต่างหาก ที่สร้างปัญหาในระยะยาว
อะไรคือความสามัคคี สิ่งที่ไม่เห็นความขัดแย้ง เราจะสรุปว่านั่นคือความสามัคคีได้หรือ
ความกดดันให้คนเห็นตามๆกัน ทำให้คนในสังคมไม่มีจินตนาการ และจินตนาการกับความรอบรู้ จะสร้างความสามารถ ให้คนในสังผม มีความสามารถที่จะสร้างสรรค์ผลผลิด ให้ก้าวหน้ามิใช่หรือ
บางที ถ้าน้องตู่ใช้เวลาทบทวน เปรียบเทียบตนเองกับบรรดาผู้นำในสังคมต่างๆ ยกเว้นเมียนมา
น้องอาจจะพบคำตอบที่ว่า "ถึงเวลาที่จะพักผ่อน วางมือจากสิ่งที่ทำให้ปวดหัว"
อย่าฝืนทำในสิ่งที่ตัวเองไม่มีความสามารถอีกต่อไปเลย