วันพุธ, กรกฎาคม 14, 2564

ต้องประจาน - ใช้เงินประชาชนไปเซ็นสัญญา พอขอดูสัญญากลับส่งมาเป็นกระดาษถมหมึก เป็นการเปิดเผยสัญญาที่ไม่เปิดเผยข้อมูล



Pita Limjaroenrat - พิธา ลิ้มเจริญรัตน์
8h ·

[ ใช้เงินประชาชนไปเซ็นสัญญา พอขอดูสัญญากลับส่งมาเป็นกระดาษถมหมึก เป็นการเปิดเผยสัญญาที่ไม่เปิดเผยข้อมูล ผมในฐานะผู้แทนราษฎรมีหน้าที่ต้องตรวจสอบการทำงานของรัฐ ตรวจว่าใช้เงินไปกับอะไร ส่งมาแบบนี้ผมจะทำงาน ตรวจสอบ ช่วยคิดได้อย่างไร? ส่งมาใหม่เถอะครับ ]
.
ในฐานะที่ผมเป็นกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ. งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 วันนี้ที่ประชุมได้พิจารณาถึงส่วนของกระทรวงสาธารณสุข จึงได้มีโอกาสทวงถามสัญญาระหว่างรัฐบาลไทยและบริษัทแอสตร้าเซนเนก้า และสัญญาการจองวัคซีนล่วงหน้าฉบับเต็มโดยไม่มีการปกปิดข้อมูล
.
เนื่องจากในฐานะผู้แทนราษฎรจำเป็นต้องได้ข้อมูลที่ครบถ้วนเพื่อสามารถตรวสอบข้อมูลแทนประชาชนชาวไทย และช่วยกันเสนอทางออกให้กับประเทศ เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญและเกี่ยวข้องกับความเป็นความตายของประชาชน รวมทั้งจะเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการพาประเทศไทยออกจากมหาวิกฤติครั้งนี้ไปได้ด้วย
.
สืบเนื่องจากที่นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส. พรรคก้าวไกล ได้ดำเนินตามขั้นตอนอย่างถูกต้องเพื่อขอดูสัญญาและเอกสารดังกล่าว ล่าสุดแม้ว่าจะได้สัญญาแล้ว แต่พอเปิดดูก็พบว่ามีการเซนเซอร์คาดดำในเอกสารเต็มไปหมด ทั้งไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดจำนวนโดสการสั่งซื้อ-การส่งมอบ และราคาซื้อในสัญญา ไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดข้อตกลงเรื่องระยะเวลาส่งมอบวัคซีน ไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดกำลังการผลิตวัคซีนจากบริษัทสยามไบโอไซเอนซ์
.
ประเด็นที่ผมสอบถามเกี่ยวข้องกับสัญญาวัคซีนกับบริษัทแอสตร้าเซนเนก้า และต่อเนื่องจากการแถลงของปลัดกระทรวงสาธารณสุขถึงปัญหาการกลายพันธุ์และการแพร่ระบาดของเชื้อกลายพันธุ์นี้ที่มีการระบาดถึง 50% ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร รวมทั้งการปรับแผนการใช้วัคซีนซีโนแวคและแอสตร้าเซนเนก้าด้วย วันนี้ผมได้นำสัญญาวัคซีนที่ท่านได้ส่งให้กับ ส.ส. วิโรจน์ ลักขณาอดิศร ซึ่งเมื่อเปิดดูก็พบว่าสัญญาที่ได้รับเป็นสัญญาตาบอดเพราะมีการเซนเซอร์และถมดำเต็มไปหมด รวมทั้งในสัญญาฉบับนี้ผมทราบว่าเป็นสัญญาที่มีการสั่งซื้อจำนวน 26 ล้านโดสเพราะในส่วนอื่นๆ ท่านถมดำไม่ให้เห็นข้อมูลจนเป็นสัญญาตาบอด แต่มีหนึ่งจุดที่ท่านไม่ได้ถมดำเอาไว้ ทำให้ทราบว่าเป็นสัญญาซื้อวัคซีนจำนวน 26 ล้านโดส
.
แต่วัคซีนที่ไทยสั่งซื้อจากแอสตร้าเซนเนก้านั้น มีจำนวนทั้งหมด 61 ล้านโดส ดังนั้นนอกจากสัญญาซื้อวัคซีน 26 ล้านโดสที่ได้รับมาแล้วแต่เป็นสัญญาตาบอดนั้น จึงจำเป็นต้องขอให้ส่งมาใหม่ และขอให้ส่งสัญญาที่สั่งซื้อวัคซีนอีกจำนวน 35 ล้านโดสมาด้วย แบบไม่มีการถมดำ
.
ข้อมูลทุกอย่างที่เป็นเรื่องของความโปร่งใส เพื่อเอาไปใช้สำหรับวางแผนต่อ หรือทำให้ประชาชนไม่เกิดความสับสนในข่าวนั้น ข้อมูลเหล่านั้นถูกขีดฆ่าโดยการถมดำทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของจำนวน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของระยะเวลาส่งมอบ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของราคา ไม่ว่าจะเป็นเงินอุดหนุน ไม่ว่าจะเป็นภาษี ฯลฯ ทำให้ผมไม่สามารถทำหน้าที่ติดตามและตรวจสอบได้
.
ในทางตรงกันข้าม จากภาพ ผมถือสัญญาอีกหนึ่งฉบับที่เป็นสัญญาระหว่างสหภาพยุโรปและแอสตร้าเซนเนก้า ซึ่งถูกเผยแพร่โดยสื่อมวลชนอิตาลีและสื่อมวลชนจากสหรัฐอเมริกา ในสัญญาอันนี้ได้บอกชัดเจนว่ามีข้อมูลอะไรบ้าง โดยมีข้อมูล เช่น เรื่องจำนวนที่ระบุไว้ว่ามีจำนวน 300 ล้านโดส ด้วยงบประมาณ 870 ล้านยูโร คิดเฉลี่ยต่อโดสเป็นจำนวนเงิน 2.9 ยูโรต่อโดสหรือคิดเป็นเงินไทยคือโดสละ 112 บาท ข้อมูลบอกทั้งหมดว่าจะชดใช้คืนเงินอุดหนุนที่สหภาพยุโรปจ่ายไป คืนมาในรูปแบบของวัคซีน โดยจำเป็นต้องจ่ายคืน 2 ใน 3 ภายใน 5 วันของการผลิต มีเรื่องของการคิดต้นทุน วิธีการคิดภาษี วิธีการคิดอัตราแลกเปลี่ยนเงินตรา ทั้งหมดนี้คือความโปร่งใสที่เกิดขึ้น แล้วทำให้พี่น้องประชาชนเกิดความอุ่นใจ แล้วก็จะทำให้คนหลายๆ คนมาช่วยคิดกันได้
.
เป็นที่น่าสงสัยว่าเมื่อต้นปี มีความพยายามอยากจะไปให้ถึงการเป็นศูนย์กลางวัคซีนของประเทศแถบอาเซียนในการผลิตวัคซีนของแอสตร้าเซนเนก้า แต่พอมาถึงวันนี้ประเทศไทยต้องรับการบริจาคจากประเทศญี่ปุ่น 1.05 ล้านโดส เลยทำให้เกิดข้อกังขาว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่
.
ดังนั้น ตราบเท่าที่ไม่มีเปิดเผยราคาในสัญญา หากนำงบประมาณจัดซื้อวัคซีนหารด้วยจำนวนโดสแล้วก็จะเห็นว่า มีส่วนต่างราคาวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าของไทยกับราคาวัคซีนของสหภาพยุโรป ส่วนต่างราคาตรงนี้ อาจเป็นอัตราของค่าเงินก็ได้ อาจมาจากภาษีก็ได้ อาจจะเป็นต้นทุนบางอย่างในการนำเข้ามาก็ได้ ซึ่งผมไม่ได้ต้องการคิดในเชิงลบว่าส่วนต่างนั้น มีการหาผลประโยชน์จากซากศพของประชาชนหรือไม่ โดยถ้าเห็นข้อมูลทั้งหมดคงจะชัดเจนว่าราคาที่แตกต่างกันเป็นเพราะสาเหตุอะไรกันแน่
.
สุดท้าย หลายท่านอาจเข้ามาแย้งผมว่าสัญญาที่ต้องถมดำแบบนี้ รัฐบาลเปิดเผยไม่ได้เนื่องจากติด NDA (Non-Disclosure Agreement) ที่มีผลผูกพันอยู่ ผมอยากชี้แจงตามนี้
.
1.เอกสารที่ท่านส่งมาให้กับ ส.ส. วิโรจน์นั้นระบุไว้ว่าแอสตร้าเซนเนก้าขอสงวนสิทธิ์เพื่อรักษาความลับในเชิงธุรกิจ และในสัญญาก็พูดชัดว่าสัญญาในเชิงธุรกิจมีอะไรบ้าง ซึ่งก็คือสูตรการผลิตวัคซีน ไม่ได้เป็นเรื่องของราคา ไม่ได้เป็นเรื่องของจำนวน รวมทั้งเงื่อนไขอื่นๆ ที่ไม่เกี่ยวข้องกับความสนใจของสาธารณะอันนั้นเปิดเผยไม่ได้ แต่หากเป็นข้อมูลที่เป็นประโยชน์กับสาธารณะ เขาก็ไม่ขัดข้อง ที่จะสามารถให้เปิดเผยได้ ซึ่งผมมั่นใจว่าเรื่องราคา เรื่องเงื่อนเวลาและจำนวนในการส่ง เป็นเรื่องสาธารณะครับ
.
2.ถ้าบอกว่าต้องถมดำเพราะบอกข้อมูลเรื่องเงื่อนเวลาและจำนวนของวัคซีนที่ต้องส่งตามสัญญาไม่ได้ แล้วทำไมรัฐมนตรีและบรรดาหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ก่อนหน้านี้ถึงกล้าออกมาเปิดเผยว่าราคาต่อโดสของแอสตราเซนเนก้าที่จะได้ผลิตในประเทศไทยโดยบริษัทสยามไบโอไซเอนซ์นั้นจะมีราคา 5 เหรียญ/โดส "เท่ากับสหรัฐอเมริกา" พร้อมบอกอีกว่ามีจะส่งให้เดือนมิถุนายน 5 ล้านโดส หลังจากนั้นอีก 10 ล้านโดส และเดือนธันวาคมอีก 5 ล้านโดส แต่พอส่งตามที่อ้างไม่ได้ เราขอตรวจสัญญา บอกว่าห้ามเปิดสัญญา ทั้งที่ถ้าเนื้อหาเดียวกัน ก็ต้องไม่สามารถเปิดเผยได้แต่แรกเหมือนกันสิ หรือจะบอกว่ารัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทำผิด NDA ตั้งแต่แรกอยู่แล้ว? แต่พอเราขอดูบ้างกลับอ้างว่าทำไม่ได้
.
3.ในยุโรป ก็มีการเปิดเผยสัญญาที่มีการถมดำอยู่บ้างเช่นกัน แต่สุดท้ายก็มีสื่อมวลชนอิตาลีและสื่อมวลชนสหรัฐอเมริกาเปิดเอกสารทั้งหมด แต่เราก็ยังไม่เคยเห็นแอสตร้าเซนเนก้าไปไล่ฟ้องร้องดำเนินคดี มีแต่สหภาพยุโรปจะไล่บี้ดำเนินคดีต่อแอสตร้าเซนเนก้าที่ส่งวัคซีนไม่ได้ตามจำนวนและเงื่อนเวลาที่สัญญาไว้เท่านั้น
......


พรรคก้าวไกล - Move Forward Party
July 11 at 10:05 AM ·

[ เปิดเอกสารซุปเปอร์ดีลวัคซีน! รัฐบาลไทย-แอสตร้าเซนเนก้า ]
.
พรรคก้าวไกล โดย ส.ส. Wiroj Lakkhanaadisorn - วิโรจน์ ลักขณาอดิศร ได้ติดตามนโยบายและการบริหารจัดการวัคซีนของรัฐบาลไทยมาโดยตลอด โดยในวันที่ 16 มีนาคม 2564 เป็นครั้งแรกที่ ส.ส.วิโรจน์เดินทางไปยื่นหนังสือขอให้หน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องทั้งหมด เปิดรายละเอียดการดำเนินงาน รวมถึงหนังสือสัญญาต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินนโยบายวัคซีนของรัฐบาลไทย ซึ่งหนึ่งในนั้นคือดีลวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า AstraZeneca ด้วย
.
เวลาล่วงเลยมากว่า 3 เดือน จนในที่สุดวันที่ 8 มิถุนายน 2564 สถาบันวัคซีนได้ส่งเอกสารที่เกี่ยวข้องถึงพรรคก้าวไกลแล้ว แต่ติดปัญหาการดำเนินงานเกี่ยวกับการเดินเอกสารทำให้ได้ทางเราและ ส.ส. วิโรจน์ เพิ่งได้รับเอกสาร (จุดนี้ทางสำนักงานพรรคขอน้อมรับผิดไว้และขออภัยทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง)
.
อย่างไรก็ตาม เมื่อเราเปิดดูอย่างละเอียดแล้วพบว่ามีข้อความคาดสีดำถูกเซนเซอร์อยู่จำนวนมาก ซึ่งเป็นส่วนที่มีเนื้อหาสำคัญ โดยเฉพาะในสัญญาระหว่างรัฐบาลไทยกับแอสตร้าเซนเนก้า อย่างไรก็ตาม เพื่อเป็นสาธารณะประโยชน์ เราจึงตัดสินใจเปิดเผยข้อมูลที่เราได้รับทั้งหมดให้ทุกท่านได้ร่วมกันอ่านและตรวจสอบการทำงาน การบริหารวัคซีนของรัฐบาลไทยและแอสตร้าเซนเนก้า
.
-----
.
โดยเอกสารทั้งหมด ประกอบด้วย
.
1.เอกสารนำส่งจากสถาบันวัคซีนแห่งชาติ https://www.moveforwardparty.org/.../07/Covid-19-deal-0.pdf
.
2.หนังสือสแดงเจตจำนง (Letter of Intent) ระหว่างกระทรวงสาธารณสุข-สยามไบโอไซเอนซ์-เอสซีจี และแอสตร้าเซนเนก้า https://www.moveforwardparty.org/.../07/Covid-19-deal-1.pdf
.
3.สัญญาระหว่างรัฐบาลไทย-แอสตร้าเซนเนก้า ว่าด้วยการจัดหาวัคซีนโดยการจองล่วงหน้าและสัญญาการจัดซื้อวัคซีน https://www.moveforwardparty.org/.../07/Covid-19-deal-2.pdf
.
สามารถชมฉบับเต็มได้ที่ https://www.moveforwardparty.org/news/3900/
.
-----
.
โดยบทวิเคราะห์ของ ส.ส.วิโรจน์และพรรคก้าวไกล สามารถติดตามได้หลังจากนี้