จะล็อคไม่ล็อคมันสายไปนิดละนะ เปรียบดังน้ำครึ่งแก้วหรือเต็ม มันก็หกไปแล้วคว้าทัน ยังไม่หมดเกลี้ยง ประกาศจากนายกฯ ให้รอผลประชุมวันนี้ “จะให้ ศบค.ชุดใหญ่ พิจารณาเป็นมติออกมา แต่ยังไม่มีผลบังคับใช้ทันทีโดยจะให้เวลาเพื่อการเตรียมตัว”
วันนี้ผลของการเงื้อง่าราคาแพงออกมาแล้ว ติดเพิ่มใกล้หมื่น (๙,๒๗๖ ราย) ตายอีก ๗๒ “หายนะที่สุดตั้งแต่เริ่มการระบาดรอบนี้เมื่อสองเดือนที่แล้ว ตายสะสม ๒,๕๓๔ รวมติดเชื้อทั้งสิ้น ๓๑๗,๕๐๖ แล้วยังตั้งหน้านับเพิ่มไปได้เรื่อยๆ เพราะอะไร
วันๆ ได้แต่แก้ตัว แก้ต่าง แก้แหเป็นลิงกัน รองโฆษกสำนักนายกฯ บอก “ปัจจุบัน...ยังไม่มีวัคซีนชนิดใด ที่สามารถป้องกันการติดเชื้อโควิด-๑๙ สาย (กลาย) พันธุ์เดลต้าได้ ๑๐๐ เปอร์เซ็นต์ แม้แต่วัคซีนชนิด mRNA”
ใช่สิ แต่ว่า น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล พูดความจริงไม่หมด ว่าวัคซีนที่มีอยู่ (จากจีน) นั่นห่วยกว่า mRNA หลายสิบเท่า ทั่วโลกยกเว้นจีนยืนยันว่าไฟ้เซอร์และโมเดอร์น่า สามารถสกัดกั้นเชื้อโควิดกลายพันธุ์ ทั้งอัลฟ่า เดลต้า และเบต้า ได้ดีกว่าใคร
ยิ่ง ผอ.กองควบคุมโรคพยาย้ามพยายามจะแก้ต่างไปตามทำนองเพลง ว่า เอาน่า ซิโนแว็คหาซื้อได้ตอนนี้ แล้วส่งมาให้ทันใจ ถ้าเป็นตัวอื่นๆ (อาจ) ต้องรอ จะทำให้ฉีดได้ไม่ถึงเป้า ๗๐% สำหรับภูมิคุ้มกันหมู่ ก็แล้วผลลัพท์แค่ ๓๐% มันจะต่างอะไร
“Sinovac สองเข็มก็ลงปอดค่ะ ทุกวันนี้คนไข้ที่ on ยา flavi+ lung infiltration ฉีดเหมือนกัน จนท.การแพทย์ก็ฉีด...แต่เหมือนฉีดน้ำเกลือ side effect ก็เยอะเพราะคุณภาพต่ำ ไม่มีประสิทธิภาพเพียงพอ” 𝑀𝐼𝑌𝐴 @1x26x93 ฟันแสกหน้า
“คนที่ได้ผลประโยชน์จากการฉีด Sinovac คือพวกผู้ถือหุ้นเท่านั้นค่ะ” ผู้ถือหุ้นคนนั้น ตอนนี้เป็น “วิทยาศาสตร์ดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์” อย่างทางการจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เสียด้วย ขอบใจ Thanapol Eawsakul เอามาแชร์
เรื่อง “ประเทศไทยเจริญ x เจริญ” คือเจ้าสัวเจริญโภคภัณฑ์กับลูกเจ้าสัวเจริญ สิริวัฒนภักดี ‘ฐาปน’ ผู้บริหารสูงสุดของไทยเบฟ ก็ได้ดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์จากจุฬาฯ เช่นกัน มีคนไปคอมเม้นต์ว่าเฮ้ อย่างนี้จุฬาฯ ไม่ให้รัฐศาสตร์ดุษฎีบัณฑิตแก่ จิตร ภูมิศักดิ์ บ้างล่ะ
กลับมาเรื่องโควิด ทางที่ถูกและต้องรีบทำ แทนที่จะรอประชุมสองวันถึงจะออกมาตรการได้ ไม่ต้องให้ ๔๐ ซีอีโอชื่อดังๆ มาร่วมกันแถลงเสนอแนะ ลองไปอ่านที่ น้องกุนกุน@Marxist_boyy ทวี้ตไว้ ก็เห็นซึ้งถึงรสพระธรรมละว่า “ล็อคดาวน์แล้ว
ถ้าไม่ตรวจเชิงรุก ไม่เร่งการฉีดวัคซีน ไม่มีมาตรการเยียวยา ในสภาพที่ระบบสาธารณสุขเกือบจะล่ม มันจะกลายเป็นการล็อคดาวน์ให้คนทยอยตายคาบ้าน ทั้งที่ตายจากไวรัสและตายจากพิษเศรษฐกิจ” แล้วก็ตายจากเตียงไม่มีพอ หมอสู้ไม่ไหวด้วย
“ประเด็นคือมาตรการทั้งหมดนี้ควรทำตั้งแต่ล็อคดาวน์รอบแรก แต่รัฐไม่ยอมทำ ปล่อยละเลยมาจนถึงปัจจุบัน วันนี้ระบบสาธารณสุขใกล้พังทลาย หมอ พยาบาล บุคลากรทางการแพทย์มีคนไข้ล้นมือ เตียงผู้ป่วยเต็มจนล้น การฉีดวัคซีนล่าช้า
ถ้าสักแต่ล็อคดาวน์เฉยๆ จะไม่ได้อะไรนอกจากชะลอกร๊าฟไปได้ ๑๔ วัน” ข้างใต้พรมยังกรุ่นต่อไปไม่ได้ชะลอตาม “ฟังจากเจาะลึกทั่วไทย ‘ดนัย’ บอกว่ามีคนไปนับผู้มีเชื้อโควิดที่หาเตียงไม่ได้ หรือรอตรวจแต่ยังไม่ได้ตรวจ จนเสียชีวิตคาบ้าน”
𝕄𝕠𝕦𝕚@moui เก็บมาเล่าต่อ “ตอนนี้มี ๗๓ ศพแล้ว ซึ่งไม่น่าจะนับรวมกับสถิติรายวันของ ศบค - 09.07.21” สถิติติดเชื้อใหม่พรุ่งนี้อาจเลยหมื่น อย่างนี้นี่แหละ อ.วีระ ธีรภัทร ถึงได้ตอบผู้ฟังที่โทรศัพท์เข้าไปในรายการ #คุยได้คุยดี ของเขาตอนหนึ่ง
“ผมเนี่ยไม่ฟังรัฐบาลอะไรแล้ว ยังปรึกษาทีมงานเลยว่าจะเลิกทำรายการดีกว่า อยู่บ้านแล้วเพราะป้องกันตัวเองดีที่สุด...เห็นใจ เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขาได้ มันเลยเวลาแก้ไปหมดแล้ว...สองวิธีคือ หนึ่งคัดกรอง-ตรวจแยก สองฉีดวัคซีน
ตอนนี้เราทำไม่ได้ทั้งสองวิธี จึงต้องเผชิญชะตากรรมอย่างยถากรรม ไม่มีตัวช่วยอะไรแล้ว มีแต่ช่วยเหลือตัวเอง” (FM 96.5)
(https://www.matichon.co.th/politics/news_2819700 และ https://www.facebook.com/thanapol.eawsakul/posts/4362300520503420)